หุ้นจีน ซื้อได้หรือยัง ?
เป็นคำถามที่ตอบได้ยาก
ถ้าพูดถึงด้วยพื้นฐานของหุ้นเทคโนโลยีหลายๆตัวที่ลิสต์ในตลาดฮ่องกง ก็ต้องยอมรับว่าถูกและลงมาแรงหลายตัวในขณะที่ผลประกอบการก็ไม่ได้แย่เลย
... แต่หุ้นถูกแล้วยังมีถูกกว่า ราคาหุ้นสามารถลงได้เรื่อยๆเพราะว่าไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศ "ผู้เล่น" ไม่ใช่แค่คนไทย สถาบันไทยอย่างเดียวแล้ว แต่พูดถึงระดับโลก กองทุนขนาดใหญ่ที่มีเม็ดเงินมหาศาลที่สามารถซื้อหรือขายแล้วมีผลกับทิศทางราคาหุ้นได้เลย

ดังนั้น ถามว่าหุ้นเหล่านี้มีมูลค่าที่น่าสนใจในการลงทุนไหม ... ก็ต้องตอบว่า "น่าสนใจ"
แต่จังหวะในการซื้อก็เป็นอีกเรืองหนึ่ง ... แล้วแบบนี้เราจะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง
คำตอบ คือ ใช้เทคนิเคิล ในการดูแนวโน้ม
เราไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อน แค่ใช้เส้นค่าเฉลี่ยก็สามารถบ่งบอกแนวโน้ม "เทรน" ของหุ้นได้แล้วด้วยเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน

ยังไง มาดูกันครับ ...

กฏของการใช้เส้นค่าเฉลี่ยนั้นมีความง่าย ไม่ซับซ้อน แม้แต่มือใหม่เองก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยากครับ นั้นคือ ...
เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน หมายความว่า ราคาหุ้นเฉลี่ย 200 วัน มีค่าเฉลี่ยราคาหุ้นอยู่ที่เท่าไร (ตีคร่าวๆประมาณ 1 ปี) มีหลักการใช้ 3 ข้อหลักๆด้วยกัน คือ

1. ถ้าหุ้นตัวไหนอยู่เหนือเส้น -- หุ้นตัวนั้นเป็นขาขึ้น
2. ถ้าหุ้นตัวไหนอยู่ใต้เส้น -- หุ้นตัวนั้นเป็นขาลง
3. ใช้บอกจุดเปลี่ยนแนวโน้มของหุ้น -- หุ้นตัวไหนเป็นขาลง ถ้าทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันนั้นหมายความว่าหุ้นได้เปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้นเรียบร้อยแล้ว
... ในทางกลับกัน หุ้นตัวไหนเป็นขาขึ้น ถ้าโดนกดราคาจนผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้นั้นบอกได้ว่าหุ้นเป็นแนวโน้มขาลงเรียบร้อยแล้ว
นอกจากเราจะใช้กับหุ้นรายตัวได้แล้ว เรายังสามารถใช้กับดัชนีเพื่อดูภาพรวมของทั้งตลาดได้อีกด้วย

เราลองใช้กับดัชนีฮั่งเส้งในตลาดหุ้นฮ่องกง กันครับ เพราะนักลงทุนไทยส่วนใหญ่เวลาซื้อหุ้นจีนจะซื้อเป็น H-Share อยู่แล้ว
กราฟรายวัน

จะเห็นได้ว่าแท่งเทียนอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน บ่งบอกว่าเป็นแนวโน้มขาลง
แสดงว่าดัชนียังสามารถทำจุดต่ำสุดใหม่ได้เรื่อยๆ จนกว่าแท่งเทียนจะสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ เมื่อนั้นคือการกลับตัวเป็น "ขาขึ้น" อีกครั้ง

เราลองไปดูกราฟรายเดือนกันครับ ว่าบอกอะไรเราได้บ้าง ...

จะเห็นได้ว่ากราฟเดือน แท่งเทียนยังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย บ่งบอกว่าเทรนระยะยาวมากๆของหุ้นฮ่องกงยังเป็นขาขึ้นในระยะยาววว (ยาวมาก เพราะ 1 แท่นเทียน = 1 เดือน)
ถ้านักลงทุนคนไหนอยากจะลงทุนระยะยาว คือยาวมากจริงๆ ก็อาจจะเป็นจังหวะของการ "ถัวเฉลี่ย" ได้
แต่ถ้าหลุดเส้นค่าเฉลี่ยเมื่อไร อาจจะเป็นขาลงในภาพระยะยาวที่ต้องใช้เเวลาหลายปีเลยทีเดียว ตรงจุดนี้ก็ต้องระมัดระวังด้วย

การมองแนวโน้มหุ้นด้วยเส้นค่าเฉลี่ย ไม่ใช่เรื่องยากเลย แม้แต่มือใหม่ก็สามารถ "ตีความ" ได้ไม่ยาก
ทั้งนี้ เครื่องมือทางเทคนิคเป็นการใช้ "ค่าสถิติ" เพื่อบอกแนวโน้มของหุ้น บอกถึงความน่าจะเป็นเท่านั้น ไม่ใช่เครื่องมือที่บอกว่าจะไปในทิศทางนั้น 100% ดังนั้น ต้องเผื่อใจไว้บ้างในการคัตลอส ลดพอร์ต หรือถือเงินสดไว้เป็นโอกาสในการซื้อข้างล่างครับ

** แถมท้ายนิดนึง
คำถามกลับไปที่กราฟรายวันตรงที่ว่า ถ้ารอให้แท่งเทียนยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย คือบริเวณ 28,000 จุด ตอนนี้ดัชนีอยู่ที่ 25,000 จุดเลยนะ ถ้ามันกลับตัวเป็นแนวโน้มได้จริงๆ เท่ากับว่าเราพลาดไปมากถึง 3,000 จุด แบบไม่ได้อะไรเลย เราพอจะมีวิธีแก้ได้ไหม
... มีครับ ถ้าเราสนใจในกราฟเทคนิเคิลมากขึ้น มีเครื่องมือชนิดนึงที่นิยมใช้กันมาก คือ Trendline หรือเส้นแนวโน้ม

จากกราฟจะเห็นได้ว่า ดัชนีทำ Low ใหม่เรื่อยๆ กราเป็นขาลง เราสามารถตี Trendline เพื่อดูว่าดัชนีมีแนวโน้มหลุด Down Trendline แล้วหรือยัง ตามภาพ
ถ้า "ไม่ผ่าน" ดัชนีมีแนวโน้มลงต่อ
แต่ถ้า "ผ่าน" อาจจะเริ่มกลับตัวเป็นแนวโน้มขาขึ้้นในระยะสั้น เพื่อไปทดสอบ 28,000 จุด