คนลงทุนในหุ้น ไม่มีใครอยาก "ติดหุ้น"
ซึ่งหมายถึงการเข้าซื้อหุ้นที่ต้นทุนค่าหนึ่ง แล้วราคาหุ้นดันลงต่ำกว่าต้นทุน แล้วราคาก็ลงไปเรื่อยๆ แบบที่ไม่เคยกลับมาสูงกว่าราคาที่เรากดซื้ออีกเลย
เช่น ซื้อหุ้น A ราคา 10 บาท พอกดซื้อปุ๊บ หลังจากนั้นหุ้นลงแทบทุกวัน จาก 10 ลงไปเหลือ 8 แล้วลงไปเหลือ 6 บาท แบบนี้คือติดหุ้นครับ ทุน 10 แต่ราคาบนกระดานคือ 6 บาท นั่นเท่ากับติดหุ้น ขาดทุนไปแล้ว -40%
วิธีแก้อันที่จริงมีหลายวิธี ซึ่งขึ้นกับตอนที่เข้ามาซื้อว่าเข้ามาด้วยอะไร เช่น
- เข้าซื้อแบบเก็งกำไร ... ก็ต้องตั้งจุด Stop Loss ปล่อยให้ขาดทุนไหลลงไปมากๆไม่ได้
- เข้าซื้อแบบลงทุนระยะยาว... ก็ต้องกลับมาดูที่พื้นฐาน ว่าตอนนี้ยังดีเหมือนตอนที่จะเข้าลงทุนไหม เรื่องราวการเติบโตยังอยู่ครบไหม พื้นฐานเปลี่ยนไปไหม ถ้าทุกอย่างย่ำแย่ก็ต้องตัดใจ แต่ถ้าทุกอย่างยังดีแต่ราคาลงหนักเพราะข่าวร้ายชั่วคราวหรือ Mr. Market เทไปทางฝั่งขายก็ตามที การตั้งงบประมาณที่ชัดเจนเพื่อเก็บหุ้นเพิ่มก็มีนักลงทุนทำไม่น้อยเช่นกัน
แต่ “กันไว้ย่อมดีกว่าแก้ เพราะถ้าปล่อยแย่ มักจะแก้ไม่ทัน” เราจะบริหารจัดการอารมณ์ ความคิด เพื่อหลีกเลี่ยงการติดหุ้นยอดนิยมที่ฮิตเป็นช่วงๆได้อย่างไร ?
มันมีรูปแบบการติดหุ้นแบบหนึ่ง ที่รายย่อยไทยติดกับดักนี้มานานแสนนาน...และเราสามารถหลีกเลี่ยงการติดหุ้นแบบซุปเปอร์เบสิกนี้ได้ นั่นคือ
“อย่า ตาม แห่”
ลองสำรวจตัวเองว่า เรากำลังสนใจหุ้นที่ลงข่าวหน้า 1 หรือ หุ้นที่กำลังอยู่ในกระแสหรือเปล่า โดยเฉพาะในหน้าข่าวเกี่ยวกับหุ้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยสนใจ เราไม่เคยแลตามองหุ้นพวกนี้เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหุ้นที่กำลังเป็นกระแสทำธุรกิจอะไร และทำไมราคามันถึงขึ้นมาอย่างร้อนแรง แต่ด้วยแรงข่าวและแรงเชียร์ เรากลับสนใจมันอย่างมาก นั่นแปลว่า เรากำลังโดนหน้ารายงานข่าวจากสื่อต่างๆสะกดจิต ซึ่งอาจจะมาจาก หนังสือพิมพ์ รายการทีวี ช่องยูทูป เฟซบุ๊ค หรือแม้แต่กรุ้ปไลน์ที่คุยเรื่องหุ้น
หุ้นที่ลงข่าวหน้าหนึ่ง หรือได้พื้นที่ข่าวมากๆ ราคามักจะวิ่งมากระทั่งแพงในระดับนึงแล้ว
หุ้นที่ได้ลงข่าว มักเพิ่งขึ้นมาอย่างร้อนแรง บางตัวขึ้นเป็นซีลลิ่ง(+30%)ก็มี และยิ่งถ้ามีข่าวว่าเซียน/ขาใหญ่/อินฟลูเอนเซอร์/ เจ้าของมาพูดสำทับอนาคต ว่าดีอย่างนั้น แจ่มอย่างนี้ โดยเฉพาะบางราย ถึงกับมาพูดว่าตอนนี้ต้อง “เก็บหุ้น” เต็มที่อีก วอลุ่มมา ราคาขึ้น
ถ้าเจอแบบนี้ ผมจะไม่ซื้อหุ้นทรงนี้ ในช่วงเวลาแบบนี้เด็ดขาด อันตรายเกินไป!
เพราะนั่น เป็นช่วงตะลุมบอน เหมือนกินบุฟเฟต์ในงานเลี้ยง การพุ่งเข้าไปหวังร่วมวงกินกะเขา อาจมีคดีพลิก ... โดนรวบ จับให้จ่ายรอบวงแทนซะอย่างงั้น (ผมเคยมีประสบการณ์จริงมาแล้ว โคตรเจ็บใจ) ราคาหุ้นจะปรับขึ้นอย่างไร ก็ไม่ควรเกินปัจจัยพื้นฐานระยะยาวของมัน การถือหุ้นที่ต้นทุนสูงเกินไป จะทำให้พอร์ตเราเสียเปรียบ และเสี่ยงขาดทุนหนัก
แนว Fundamental วีไอ เราชอบ "ซื้อดัก" ...ไม่ถนัดซื้อตาม
ไปจ่ายตลาดก่อน ตอนตีสี่ ตีห้า มาวางขายตอนเช้า ไปตอนที่คนยังน้อย ข้อมูลข่าวสารในวงข่าวยังไม่หนาแน่น
เราจึงต้องค้นหาบริษัทที่ราคายังต่ำกว่ามูลค่า(Undervalue) อยู่ในวงจรธุรกิจขาขึ้น(Business Uptrend) หรือ ธุรกิจกำลังผ่านจุดต่ำสุด เพื่อฟื้นตัวขึ้นได้อย่างชัดเจน เหล่านี้คือเหตุผลสำคัญ ที่จะขับเคลื่อนราคาหุ้นในระยะยาวอย่างแท้จริง
ทยอยเก็บอย่างอดทน Buy and Hold ข้ามปี โดยหวังกำไรเป็นกอบเป็นกำ
ถ้าทำได้ดังนี้ มั่นใจว่า นอกจากจะไม่ติดหุ้นแล้ว... คุณจะชนะตลาดในระยะยาวได้แน่ๆ