ถอดแนวคิดการลงทุนของวอเร็น บัฟเฟตต์ ผ่านหนังสือ The TAO of Warren Buffett หรือชื่อไทยคือ “วิถีแห่งเต๋าของวอเร็น บัฟเฟตต์”
ชวนจุดประกายความคิดด้านการลงทุน พร้อมหลักการใช้ชีวิต รวมไปถึงการบริหารธุรกิจ ผ่านรอยหยักสมองจากหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก
และเมื่อนำมาผสมผสานกับหลักปรัชญาเก่าแก่ของลักธิเต๋าที่มีอายุมากกว่า 2,500 ปี จะสามารถนำมาใช้กับโลกการลงทุนในยุคปัจจุบันได้แค่ไหน มาดูตัวอย่างกันครับ
อย่าขาดทุน
ความลับสู่ความมั่งคั่งคือการใช้ให้เงินสร้างผลตอบแทนทบต้นให้กับคุณ แต่จงอย่าขาดทุนเด็ดขาด เพราะยิ่งคุณขาดทุนมากเท่าไหร่ ก็จะมีผลกระทบต่อกำไรในอนาคตของคุณมากเท่านั้น
สร้างฐานะด้วยการเสาะหาธุรกิจที่วิเศษ
ส่วนใหญ่แล้ว มหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมหาศาล ถูกสร้างมาจากธุรกิจวิเศษเพียงธุรกิจเดียวเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องมีหุ้นในพอร์ตถึง 50 บริษัท ซึ่งลักษณะเฉพาะของธุรกิจที่แสนวิเศษนั้น จะเป็นธุรกิจที่มีความสามารถเอาชนะใจลูกค้าได้ มีความยั่งยืน และมักจะถูกคนทั่วไปประเมินค่าต่ำ
ไม่จำเป็นต้องทำสิ่งมหัศจรรย์เพื่อได้ผลลัพธ์ที่มหัศจรรย์
นักลงทุนที่ดีไม่มีความจำเป็นจะต้องรวยชั่วข้ามคืน บัฟเฟตต์คาดหวังผลตอบแทนที่ 20% ต่อปี ไม่ใช่ 200% ต่อปี พยายามเป็นผู้ชนะอย่างช้าๆ และอย่างมั่นคง ไม่ใช่ชนะด้วยความหวือหวา
ลงทุนด้วยความมั่นใจ ไม่ลงทุนด้วยความคาดหวัง
การที่จะทำกำไรจากเกมการลงทุนนั้น จะต้องมีความมั่นใจ ต้องรู้ตัวเสมอว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ มีการทำการบ้านอย่างดีก่อนจะลงทุน แต่ถ้ากลยุทธ์การลงทุนของคุณตั้งอยู่บนพื้นฐานความคาดหวังก็ให้เริ่มสวดมนต์ได้เลย
ไม่มีสิ่งไหนยั่งยืนตลอดไป
เช่นเดียวกับราคาหุ้นที่กำลังพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว จะหยุดขึ้นทันที เมื่อพื้นฐานของหุ้นปรากฎว่าไม่สามารถทำกำไรได้ตามที่คาดหวัง ทุกอย่างนั้นมีวันจบ และนี่เป็นเหตุผลที่เราจะมองเฉพาะสิ่งที่กำลังทำอยู่ไม่ได้ เราต้องมองให้ไกลไปข้างหน้าด้วย
แสวงหาธุรกิจที่เติบโตโดยไม่ต้องพึ่งเงินลงทุนเพิ่ม
เคล็ดลับการถือหุ้นของบัฟเฟตต์ ถ้าธุรกิจต้องการเงินจำนวนมากในการเติบโต มูลค่าที่แท้จริงของหุ้นจะไม่มีวันเติบโต และจะไม่มีวันทำให้คุณรวย แต่ถ้าธุรกิจไหนไม่ต้องการเงินลงทุนในการเติบโต มันก็จะไม่มีวันทำให้คุณจนเช่นกัน
มองหาธุรกิจที่เราคาดกาณ์ได้
ผลิตภัณฑ์ที่มั่นคงเท่ากับผลกำไรที่มั่นคง ถ้าสินค้านั้นไม่จำเป็นต้องปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลง คุณจะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทั้งหมด ที่สำคัญคุณจะไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของการขึ้นๆ ลงๆ ตามแฟชั่น
ถ้าหลักการนั้นล้าสมัย มันก็ไม่ใช่หลักการอีกต่อไป
ปกติแล้ว บัฟเฟตต์นั้นจะใช้หลักการลงทุนจากอาจารย์ของเขาอย่างเบนจามิน เกรแฮมเสมอ แต่เมื่อหลักการใช้ไม่ได้กับยุคสมัยนั้นแล้ว บัฟเฟฟต์เลือกที่จะใช้หลักการที่ตัวเองประยุกต์ขึ้นใหม่ นั่นคือลงทุนในบริษัทชั้นเลิศที่มีความสามารถในการแข่งขัน และขายในราคาที่เหมาะสม
ประสบการณ์เรียนรู้จากคนอื่นได้
ประสบการณ์คือครูที่ดีที่สุด แต่ถ้าหากเราหามันไม่ได้ ก็สามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่นได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทำพลาดแบบนั้น
ทำงานที่เรารัก เงินมักตามมาเสมอ
ใครก็ตามที่รักเงินมากกว่างาน สุดท้ายแล้วพวกเขาจะทำงานด้วยความทุกข์ และมักจะจบลงด้วยรายได้ที่น้อยกว่างานที่พวกเขารักเสมอ สิ่งที่ยิ่งใหญ่ในการทำงานที่ตัวเองรัก ที่แท้จริงแล้วมันไม่ใช่งาน แต่มันคือความสนุกที่ได้ทำมากกว่า
นี่เป็นเพียงเนื่อหาบางส่วนจากหนังสือ "วิถีแห่งเต๋าของวอเร็น บัฟเฟตต์” เท่านั้น ใครเป็นแฟนตัวยงของปู่วอเร็น น่าจะมีกันหมดแล้ว
แต่สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้ามาในตลาดหุ้นนั้นอยากให้ลองไปอ่านเล่มนี้กัน รับรองว่าเพื่อนๆจะได้ Mindset ดีๆจากนักลงทุนหุ้นคุณค่าที่เก่งกาจที่สุดในโลกนามว่า "วอเร็น บัฟเฟตต์" ไปไม่มากก็น้อย
ภาพประกอบ : ห้องสมุดมารวย