เชื่อว่านี้คงเป็นคำถามของนักลงทุนไทยหลายๆคน กับกลุ่มแบงก์ที่ค่อนข้าง Underperform ตลาดมายาวนาน ด้วยเหตุผลที่ว่ากลุ่มแบงก์จะเคลื่อนที่ไปตามเศรษฐกิจของประเทศไทย
ในขณะที่ประเทศไทยโตช้า และยังเจอกับวิกฤตโควิด-19 ทำให้กิจกรรมต่างๆทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้หุ้นแบงก์ไม่โดดเด่นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้
คำถามคือ เมื่อไรกลุ่มแบงก์จะกลับมาได้อีก ?
คำตอบ คือ ปี 2565-66 กลุ่มแบงก์มีแนวโน้มจะกลับมาได้อีก
ได้อ่านบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์เอเชียพลัส พอจะสรุปประเด็นสำคัญได้ 4 ประเด็น มีอะไรบ้างอยากมาเล่าสู่กันฟังครับ
1. ผลประกอบการ 3Q64 รับรู้ไปมากแล้ว ตอนนี้ตลาดกำลังสนใจการฟื้นตัวในปีหน้า
TISCO จะเป็นแบงก์ตัวแรกที่ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาในวันที่ 14 ตุลาคมสที่จะถึงนี้ และจะปิดท้ายด้วย KBANK และ SCB ในวันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งจะลดลงประมาณ 9% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส จากเดิมที่คาดว่าจะลดลงประมาณ 7%
แต่ประเด็นนี้รับรู้ข่าวไปมากแล้ว จึงไม่ใช่สาระสำคัญอะไรมากนัก ตลาดกำลังมองไปถึงปีหน้า
ฝ่ายวิจัยคาดว่า ธนาคารที่โดดเด่นในไตรมาส 3 นี้ จะมีอยู่ 2 แบงก์ คือ KTB และ SCB
2. ให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวในประเทศ การกระจายวัคซีน และประเด็นยา Molnupiravir
เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท Merk และ Ridgeback Biotherapeutics ได้ค้นพบยา Molnupiravir ซึ่งเป็นยากินเพื่อต้าน COVID-19 ถือเป็น Game Changer ก้ว่าได้ ลดการเสียเชีวิต ลดการเกิด Lockdown และสร้างความมั่นใจให้กับมนุษย์มากขึ้น หนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ฝ่ายวิจัยคาดว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่าน "จุดต่ำสุด" ไปแล้ว และจะเริ่มฟื้นตัวได้ในปีหน้า ...
มองว่า GDP จะฟื้นตัวได้ประมาณ 3% และแบงก์ชติของไทยจะโตประมาณ 3.9% เป็นบวกต่อกลุ่มแบงก์
3. คุณภาพสินทรัพย์ (NPL) จะเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
ฝ่ายวิจัยมองว่าแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ในไตรมาส 3 ที่จะถึงนี้จะมีทิศทาง "ทรงตัว" ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการพักชำระหนี้เป็นเวลา 2 เดือนเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้จาก COVID-19 ซึ่งจะไม่กระทบต่อภาพของเศรษฐกิจไทยรุนแรงมากนัก และเชื่อว่ายังอยุ่ในการบริหารจัดการของธนาคารได้ไม่ยาก
4. ธนาคารที่มีจุดเด่น คือ KBANK SCB และ TISCO
ฝ่ายวิจัยมองกลุ่มแบงก์ภาพรวมตอนนี้ คือ คงน้ำหนักเท่าตลาด
สาเหตุคืองบดุลยังไม่สะท้อน Credit Risk ของลูกหนี้อย่างแท้จริง แต่แนวโน้มจะฟื้นตัวได้ในปีหน้า อีกท้ังภาพรวมของกลุ่มซื้อขายที่ P/BV ประมาณ 0.7 เท่า สะท้อนความกังวลและความเสี่ยงของกลุ่มแบงก์ไปมากพอสมควรแล้ว
ในขณะที่แนวโน้มของ ROE มีโอกาสฟื้นตัวตามกำไรที่จะมากขึ้นในปีหน้า ...
และที่หน้าสนใจ คือ การปรับโครงสร้างองค์กรของ SCB ที่เน้นไปทำธุรกิที่มี High Yield และ High ROE ดึงดูดให้ธนาคารใหญ่นำมาพิจารณาเป็นแนวทางได้อีก
สรุปแล้วฝ่ายวิจัยชอบ KBANK และ SCB ที่มีจุดเด้นด้าน Digital
สำหรับ Tisco งบดุลแข็งแกร่ง และปันผลสูง ราวๆ 7-8%
-----------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมุล
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส