#วางแผนการเงิน

อาชีพสุดท้ายของชีวิต

โดย มงคล ลุสัมฤทธิ์
เผยแพร่:
103 views

ผมเห็นหลายคนเลยนะครับ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ ที่มีเป้าหมายว่า อยากเลิกทำงานตอนอายุเท่านั้น เท่านี้ บางคนตั้งไว้เร็วมาก อายุ45 ก็อยากเลิกทำงานแล้ว บางคนอยากทำงานถึงแค่ 60 แล้วจะเลิกทำงาน จะเอาเงินเก็บไปหาความสุขของชีวิต

เป้าหมายเหล่านี้ไม่ผิดครับ แต่ส่วนใหญ่ มักเกิดกับคนที่อายุยังไม่เยอะ อยู่ในช่วงอายุ 25-35 ที่คิดว่า ถึงตอนนั้นชีวิตเราคงมั่นคงและทำได้อย่างที่ฝันแล้ว

แต่พอเวลาผ่านไป อายุเคลื่อนไปที่ 35-38-40-45....
ทุกอย่างเริ่มไม่ง่าย บางคนเพิ่งซื้อบ้านตอนอายุ35 กว่าจะผ่อนหมด อายุเกือบ 60 แล้วคุณคิดว่าจะหยุดทำงานที่อายุ 45-50 ได้หรือครับ? (แต่ถ้าทำได้ก็เยี่ยมมากๆเลย)

เวลาเดินเร็วนะครับ บางคนมีเป้าหมาย แต่ไร้ทิศทางในการลงมือทำ รู้ตัวอีกที อายุเกือบจะเลยที่ตั้งเป้าไว้แล้ว แถมยังมีหนี้สิน กว่าจะเคลียร์หนี้หมด เงินเกษียณยังไม่ได้เตรียมซักบาท ถ้ามีลูกช้า ความฝันยิ่งช้าคูณสองเลย

ดังนั้นการตั้งเป้าหมายเรื่องการหยุดทำงานไม่ผิดครับ แต่ต้องมองความเป็นจริง มองภาระปัจจุบัน มองอายุที่เหลืออยู่ในการหาเงินด้วยว่า มีหนทางไหนที่จะทำให้คุณไปถึงฝันไหม?
หรือแท้จริงแล้ว เราควรยอมรับความจริง และเริ่มมองหา
อาชีพสุดท้ายของชีวิตไว้บ้าง...

คำว่า อาชีพสุดท้าย ผมไม่ได้หมายถึงให้คุณต้องทำงานแบบปัจจุบัน โดยใช้แรงไปจนแก่จนเฒ่า ผมไม่ได้หมายถึงให้คุณต้องออกไป #ทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนต้องให้ลูกหลานหามเข้ารพ.

ผมหมายถึงสิ่งที่สร้างรายได้ โดยไม่ต้องเอาแรงร่างกายไปแลกมา เพราะถึงตอนนั้น เรี่ยวแรงเราไม่ฮึกเหิมมีไฟแบบตอนนี้แล้วครับ
สิ่งที่ผมพอจะคิดออกก็คือ การเป็น "นักลงทุน" ซึ่งมีนักลงทุนหลายคนที่ปัจจุบันทำอาชีพอื่นเป็นหลัก แต่ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อาชีพสุดท้ายของเค้า คือการเป็นนักลงทุน...

การลงทุนมีหลายแบบนะครับ คุณจะลงทุนในหุ้น,กองทุน, อสังหาริมทรัพย์ หรือทำธุรกิจ ก็แล้วแต่ความถนัด บวกกับความรู้ที่คุณมีติดตัว เพราะสิ่งที่"การลงทุนต้องการ" มากที่สุด ไม่ใช่เงิน แต่คือความรู้ในเรื่องนั้นๆ

ข้อแม้เดียวของการเป็นนักลงทุน คือ เริ่มให้เร็ว เพราะการลงทุนต้องใช้เวลาเติบโต เหมือนปลูกต้นไม้ และหลายคน พลาดตรงนี้ครับ เพราะคิดว่ารอให้เลิกทำงานก่อน...ค่อยคิด สุดท้ายเงินโตไม่ทัน

การจะเป็นนักลงทุน คุณต้องใช้เวลาเรียนรู้อย่างเข้าใจ คุณถึงจะทำเงินจากมันได้ และค่อยๆให้มันหารายได้จนเติบโตเป็น Passive Income ทดแทนรายได้จากงานที่ต้องใช้เรี่ยวแรง

เมื่อถึงตอนนั้น หากคุณยังมีไฟ มีแรงที่จะทำอาชีพอื่นที่คุณรัก คุณจะสามารถทำได้แบบมีความสุขมากขึ้น
แล้วเชื่อผมเถอะครับ จริงๆแล้วความสุขของคนเรา  อาจจะไม่ได้เกิดจากการที่เราไม่ต้องทำงาน แต่เกิดจากการที่เรา มีอิสระที่เราเลือกเองได้ ว่าเราจะ

"ทำงานเฉพาะที่เราอยากทำ" ต่างหาก
นั่นคือชีวิตวัยเกษียณที่มีคุณค่า และ มีความสุขครับ
รีบหาอาชีพสุดท้ายของชีวิตกันนะครับ


เจ้าของเพจที่รวมและแบ่งปันความรู้วางแผนการเงิน เพจ : Financial Times by Mongkol นักออกแบบความมั่งคั่ง โดยมงคล ลุสัมฤทธิ์ (Wealth Designer)

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง