"คนธรรมดา ก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่สุดยอดได้ โดยการลงทุนแบบโฟกัส"
นี้คือส่วนสรุปสั้นๆจากหนังสือ The Essential Buffett หรือ "แก่นแท้ของบัฟเฟตต์" เขียนโดย Robert G. Hagstrom ว่าด้วยเรื่องของการลงทุนของบัฟเฟตต์ แนวความคิดของเขาว่าทำอย่างไรถึงสามารถสร้างความมั่งคั่งผ่านการลงทุนที่แสนง่าย แต่คนส่วนใหญ่กลับทำไม่ได้

วอเร็น บัฟเฟตต์แนะนำว่า คนที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องของการลงทุนสามารถสร้างความมั่งคั่งโดยลงทุนผ่านกองทุนอิงดัชนีที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ แต่สำหรับคนที่มีความกระตือรือร้น และรู้เรื่องเกี่ยวกับการลงทุน การเน้นลงทุนแบบ "โฟกัส" จะสร้างความมั่งคั่งได้อย่างมหาศาล
หัวใจของการลงทุนแบบโฟกัสของบัฟเฟตต์ ประกอบไปด้วย

1. ลงทุนในหุ้นเท่าที่เราสามารถดูแลไหว บางคนมี 5-10 ตัว ในพอร์ตการลงทุน แต่คงไม่ใช่ 50 ตัวหรือ 100 ตัว คงจะดูแลไม่ไหวอย่างแน่นอน

2. การลงทุนแบบโฟกัส ต้องใช้หลักคิดแบบการลงทุนเน้นคุณค่าเข้ามาใช้ด้วย คือซื้อธุรกิจที่สุดยอด ในราคาที่สมเหตุสมผล ไม่ใช่ราคาที่แพงเกินไป

3. เกาะติดบริษัทอยู่เสมอ ไม่ใช่การซื้อแล้วทิ้งไว้เลย

ในหนังสือเล่มนี้มีคำแนะนำ 5 ข้อสำหรับมือใหม่ที่น่าสนใจ เลยอยากนำมาแชร์ให้ได้อ่านกันครับ
มีอะไรบ้างไปดูกัน

1. อย่าเข้าใกล้ตลาดหุ้น ถ้าคุณจะคิดเข้ามาเก็งกำไร "หาค่ากับข้าว" เพราะทุกคนก็คิดแบบนี้และคุณอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบอย่างมาก เว้นแต่ว่าคุณจะเข้ามาลงทุนแบบจริงๆจังๆ และคิดอยู่เสมอว่า การซื้อหุ้นคือการซื้อธุรกิจ การได้เป็นเจ้าของหุ้น คือการได้เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจด้วย ถ้าธุรกิจดีหุ้นก็จะดีตาม แต่ถ้าไม่ การลงทุนนั้นจะทำให้เราขาดทุน

2. เราจะต้องเตรียมพร้อมในการศึกษามันอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่บริษัทอย่างเดียว แต่เป็นอุตสาหกรรมของมันทั้งหมด โดยมีความคิดว่าไม่มีใครรู้ดีกว่าบริษัทนี้ไปมากกว่าคุณอีกแล้ว

3. อย่าริเริ่มพอร์ตการลงทุนแบบโฟกัส ยกเว้นว่าคุณพร้อมจะถือหุ้นยาวนานไม่ต่ำกว่า 5 ปี เพราะระยะเวลาที่มากขึ้นทำให้ความเสี่ยงในเรื่องความผันผวนลดลง

4. อย่ากู้เงินมาลงทุน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการลงทุนของคุณโดยใช้เงินเท่าที่คุณหาได้มันก็เพียงพอจะสร้างความมั่งคั่งให้เราได้ในระยะยาวอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าการกู้เงินจะเป็นการ "เร่งความรวย" แต่ถ้ามีอะไรผิดพลาดและเอาแน่เอานอนกับตลาดหุ้นไม่ได้ จะทำให้พอร์ตโฟลิโอที่คุณออกแบบมาดีอยู่แล้ว พังเอาได้ง่ายๆ

5. การลงทุนแบบโฟกัส สิ่งสำคัญคืออารมณ์ที่มั่นคง ความผันผวนของตลาดจะมีช่วงเวลาหดหู หุ้นถูกเทขายอย่างหนัก หรือบางครั้งก็มองโลกในแง่ดี ตลาดหุ้นถีบตัวกันขึ้นได้แม้ไม่มีปัจจัยบวกอะไร เราต้องแยกให้ออกว่าอะไรคือการเก็งกำไร อะไรคือการลงทุน

นี้ก็เป็นคำแนะนำ 5 ข้อสำหรับมือใหม่ที่เริ่มต้นการลงทุน ลองนำคำแนะนำนี้ไปปรับใช้กันดูครับ