กระแส "สินทรัพย์ดิจิทัล" กำลังมาแรงและเป็นเทรนด์ที่นักลงทุนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
ในอดีตคนที่อยู่ในตลาดคริปโตส่วนใหญ่ไม่เป็นสายขุด ก็เป็นสายเก็งกำไรในคริปโตต่างๆที่มีให้เทรดเพื่อการเก็งกำไร แต่เมื่อเวลาผ่านไปเริ่มมีวิวัฒนาการเพื่อการระดมทุนไปทำโครงการต่างๆมากขึ้นเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทหรือองค์กรที่มีแนวคิดหรือโครงการใหม่ๆ มีโอกาสระดมทุนจากคนทั่วไปโดยการออกโทเคนดิจิทัลที่เรียกกันว่า ICO ที่่ย่อมาจาก "Initial Coin Offering"

การระดมทุนแบบ ICO คือการระดมทุนรูปแบบหนึ่งที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาช่วย โดยบริษัทจะเสนอและกำหนดขายโทเคนดิจิทัลที่กำหนดสิทธิหรือผลประโยชน์ต่างๆ ของผู้ลงทุน เช่น ส่วนแบ่งรายได้จากโครงการ หรือสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการที่เฉพาะเจาะจงและกำหนดให้ผู้ลงทุนที่ต้องการจะร่วมลงทุนสามารถเข้าร่วมได้โดยการซื้อโทเคนดิจิทัลที่บริษัทออก โดยมีการกำหนดและบังคับสิทธิที่จะได้รับด้วย Smart Contract บนเทคโนโลยีบล็อกเชน อาจจะให้สิทธิประโยชน์บางอย่างแก่ผู้ถือเหรียญ ได้เข้าถึงโครงการใหม่ๆก่อน ซอฟแวร์ที่บริษัทกำลังทดสอบอยู่ และประโยชน์ทางตรงเมื่อโครงการประสบความสำเร็จคือมูลค่าเหรียญจะเพิ่มสูงขึ้น
และ บจ. ไทยแห่งแรกที่สร้างเสียงฮือฮาในวงการได้ คือ SIRI ในชื่อของ สิริฮับ/ SiriHub ที่มีมูลค่าการระดมทุนสูงถึง 2.4 พันล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในโครงการอาคารสำนักงาน สิริ แคมปัส และผู้ถือเหรียญก็จะได้รับผลตอบแทนในรูปของส่วนแบ่งรายได้ ส่วนแบ่งจากการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการ เป็นต้น

ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)  มองว่าบริษัทต่างๆหลังจากนี้จะเริ่มออกโทเคน หรือ ICO มากขึ้นเช่นเดียวกับความสำเร็จของ SiriHub
...  เนื่องจากมองว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มมีมูลค่าเติบโตมากขึ้น โดยสินทรัพย์ดังกล่าวยกตัวอย่าง เช่น มูลค่ามาร์เก็ตแคปบิตคอยน์ประมาณ 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ , อีเธอเรียมมูลค่ามาร์เก็ตแคปประมาณ 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นต้น ดังนั้นตลาดการลงทุนดังกล่าวเป็นสิ่งที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม และไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในอนาคต

ดร.ก้องเกียรติ กล่าวว่า จากนี้ไปตลาดทุนคงมองข้ามเรื่องดิจิทัลไม่ได้แล้ว ซึ่งตลาดเริ่มมีส่วนได้ส่วนเสีย มีผู้เล่นในวงการนี้มากขึ้นดังนั้นการหายไปเลยคงไม่เกิดขึ้น และรูปแบบการลงทุนเราควรมองหาอะไรใหม่ๆ ซึ่งวันนี้น่ายินดีกับ ICO SiriHub ที่ได้รับรองจากก.ล.ต.เป็นตัวแรก น่าจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน เพิ่มช่องทางการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้คงมีบริษัทจดทะเบียนที่ตามออกมาอีกมาก

การออก SiriHub เป็นลักษณะเดียวกับการระดมเงินกู้ในตลาดทุนที่ผ่านมา ทั้งการเพิ่มทุน การออกหุ้นกู้ ซึ่งมองว่าในปัจจุบันโทเคนเป็นสิ่งที่ตลาดเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือโทเคนนั้นต้องมี "สินทรัพย์อ้างอิงรองรับ" เช่นเดียวกับ SiriHub

ก่อนหน้านี้เคยมีบริษัทจดทะเบียนไทยได้ออก ICO มาก่อนหน้านี้ คือ "JMART" ในชื่อของ JFin Coin เมื่อปี 2561

เรื่องของสินทรัพย์ดิจิทัลมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนไทย เชื่อว่าจะยังมีอีกมาก ต้องติดตามกันให้ดีครับว่าบริษัทไหนจะเป็นรายต่อไป ...

---------------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล
http://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=QkRMOHhic05BZ2M9&security=SIRI

https://thestandard.co/sirihub-real-estate-backed-token/

https://www.thairath.co.th/business/investment/2197068

https://www.prachachat.net/finance/news-765999

https://xspringdigital.com/th/project/sirihub

https://www.efinancethai.com/HotNews/hotnewsmain.aspx?name=RTVRUW5acDRVUm9COXBlUlRHSU14QT09