CPANEL เจ้าของเทคโนโลยีที่จะมา Disrupt ธุรกิจก่อสร้าง

โดย stock2morrow

เผยแพร่: 23 ก.ย. 2564 00:00

122 views

ในช่วงที่ผ่านมา เรามักจะได้ยินคำว่า Disrupt บ่อยๆจนคุ้นหูไปแล้ว และน่าจะพอเข้าใจได้ว่าการ Disrupt คืออะไร

ถ้าจะให้สรุปอีกสักรอบ การ Disrupt ก็คือการ ปฎิรูปเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ เป็นการมองหาโอกาสใหม่ๆ โดยอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำงานเป็นหลักนั่นเอง

ซึ่งเราจะพบบ่อยในวงการธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการเงิน พลังงาน สื่อโฆษณา บริการส่งของ เป็นต้น

แต่รู้หรือไม่ว่า “ธุรกิจก่อสร้าง” ที่ดูเหมือนจะเน้นแรงงานจากคนเป็นหลัก ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับพวกเทคโนโลยีเลย ก็กำลังจะถูก Disrupt เช่นกัน

ธุรกิจก่อสร้างถูก Disrupt อย่างไร ?

แน่นอนว่า สถานการณ์โควิด-19 สร้างความเสียหายให้แก่แทบทุกๆธุรกิจ รวมไปถึงธุรกิจก่อสร้างเองก็หนีไม่พ้นเช่นกัน

เนื่องจากมีการปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง ทำให้คนงานหนีกลับต่างจังหวัดกันหมด เกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงานไม่ต่ำกว่า 300,000 - 500,000 คน ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา

เมื่องานก่อสร้างเริ่มกลับมาดำเนินการ ทำให้เกิดการแย่งแรงงานของผู้รับเหมา ต้นทุนการก่อสร้างเริ่มมีราคาสูงขึ้น เนื่องจากคนงานมีจำกัด ถึงแม้ว่าจะมีการผ่อนคลายแคมป์ก่อสร้างแล้วก็ตาม แต่คนงานก็ยังไม่กลับมามากพอในปริมาณที่ควรจะเป็น

เพื่อเป็นการลดขั้นตอน ลดต้นทุน ลดเวลาในการดำเนินงาน ผู้ประกอบการจึงต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาทดแทนแรงงานมากขึ้น

ซึ่งเทคโนโลยีนี้ ไม่ใช่เอาหุ่นยนต์มาสร้างบ้านแทนคนแต่อย่างใด แต่เป็นการนำเทคโนโลยีมาผสมกับวัสดุก่อสร้างที่เรียกว่า Precast Concrete หรือแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป มาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ต่างหาก

แล้ว Precast Concrete คืออะไร ?

อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆเลย มันคือ คอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ถูกหล่อขึ้นก่อนในโรงงาน ให้มีรูปร่างตามที่ต้องการ และเสริมความแข็งแรงด้านในด้วยเหล็กเส้น ก่อนที่จะถูกขนส่งและนำไปประกอบกันที่ไซต์งาน

โดยคอนกรีตจะถูกควบคุมให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม และมีการควบคุมคุณภาพที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ Precast Concrete นั้นมีความแข็งแรง และมีคุณภาพสูงกว่าการหล่อคอนกรีตที่หน้างาน ช่วยประหยัดเวลาก่อสร้างไปได้เยอะทีเดียว

ด้วยข้อดีเหล่านี้ ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มหันมาใช้ Precast Concrete กันมากขึ้น ชวนให้สงสัยว่าผู้นำในตลาดแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปนี้เป็นใคร ?

คำตอบคือ CPANEL หรือบริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งกำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ mai ในเร็วๆนี้นั่นเอง

บริษัทก่อตั้งโดยคุณชาคริต ทีปกรสุขเกษม เมื่อปี 2555 ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ภายใต้ตราสินค้า “CPANEL”

ปัจจุบัน มีโรงงานผลิตจำนวน 1 โรงงาน ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีกำลังการผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป 720,000 ตารางเมตรต่อปี

ระบบผลิตแบบ Fully Automated ทำให้ CPANEL สามารถผลิต Precast Concrete ที่มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามมาตรฐาน PCI MNL-135-000 และ PCI MNL-117-77 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล มั่นใจว่าปลอดภัยแน่นอน

แล้วอะไรคือสิ่งที่ CPANEL จะมา Disrupt ธุรกิจก่อสร้างได้ ?

คุณชาคริต เห็นปัญหาที่เกี่ยวกับต้นทุนที่ใช้ในการก่อสร้างอย่างอิฐมอญ เหล็ก ตลอดจนค่าแรงงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้ศึกษาโครงการลงทุนผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปที่ใช้ในงานอสังหาฯ เพื่อลดต้นทุนและลดเวลาขั้นตอนในการก่อสร้าง ช่วยทำให้สร้างบ้านเสร็จเร็วขึ้น

นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าแนวโน้มของผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปสำหรับอุตสาหกรรมการก่อสร้างอสังหาฯในอนาคตจะเติบโตแน่นอน

และก็เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของคุณชาคริตจริงๆ เพราะ Precast Concrete ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆในกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯในช่วงที่ผ่านมา

เนื่องจากสามารถลดต้นทุนแรงงานประมาณ 50% ลดระยะเวลาและขั้นตอนในการก่อสร้างประมาณ 30% ส่งผลให้ต้นทุนรวมของการก่อสร้างลดลง 15% นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยแนวราบที่ก่อสร้างโดย Precast Concrete ในอีก 5 ปีข้างหน้าจนถึงปี 2568 จะมีอัตราการทดแทนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3% ต่อปีเป็นอย่างน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากแรงงานก่อสร้างที่หาได้ยากขึ้นและมีค่าแรงที่สูงขึ้นเป็นหลัก (จากการรายงานของ K-Research)

ซึ่งเทคโนโลยีของ Precast Concrete จะมาแทนการก่อสร้างแบบเก่าๆ ที่ต้องใช้แรงงานคนจำนวนมาก วัสดุก่อสร้างเดิมๆอย่างพวกอิฐมอญจะใช้น้อยลง แถมยังเป็นการลดปัญหาเรื่องฝุ่นกระจายไปในตัวด้วย

เพื่อรองรับการเติบโตจากสัดส่วนงานก่อสร้างที่จะใช้งานก่อสร้างรูปแบบ Precast Concrete ในอนาคต CPANEL จึงมองเห็นโอกาสนี้โดยออก IPO ผ่านตลาดหลักทรัพย์ mai เพื่อนำเงินระดมทุนขยายโรงงานต่อไป

โดยมีราคาขายหุ้น IPO ราคาหุ้นละ 6.00 บาท จำนวน 39.50 ล้านหุ้น เปิดจองซื้อ 21-23 กันยายน และเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 30 กันยายนนี้ !

บางที บ้านหลังต่อไปของคุณ อาจจะสร้างจากเทคโนโลยี Precast Concrete ก็เป็นไปได้เหมือนกัน