สมัยผมทำงานประจำในบริษัท FMCG เราจะทำ 18-month calendar สำหรับสินค้าใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาด เพื่อที่จะได้รู้ว่าเดือนไหนจะ launch อะไร

จะได้วางแผนการทำงานย้อนกลับมาได้ เช่น คุยกับโรงงาน คุยกับ R&D คุยกับ Agency ทำโฆษณา ทำกิจกรรมการตลาด และคุยกับร้านค้าเพื่อลิสต์สินค้าเข้าได้ตามกำหนดเวลา

กว่าที่จะขายครีมกระปุกนึง ยาสีฟันหลอดนึง หรือสบู่ซักขวดนึง ล้วนผ่านขั้นตอนการทำงานมากมาย มี gate approval หลายด่านกว่าจะผ่านออกมาได้ มีเพื่อนบางคนบอกว่า ให้นึกว่าเราทำจรวดอยู่ที่ NASA

-- กลับมาที่การลงทุน ผมก็มักจะหยิบเอาไอเดียแบบนี้มาใช้เช่นกัน แต่ผมจะปรับเป็น Quarterly Calendar เพราะเราอาจจะไม่สามารถกำหนดเดือนได้ชัดเจน โดยหลักการของผมคือ

1. คาดการณ์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอีก 6 ไตรมาสข้างหน้า ตามรูปก็จะใส่เป็นตัวอย่างคร่าวๆ ตั้งแต่ Q3’21-Q4’22 ซึ่งเป็นการคาดการณ์โดยความคิดส่วนตัวนะครับ อาจจะเกิดหรือไม่เกิด หรือเกิดช้าเร็วต่างกันได้

2. วางแผนว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วจะส่งผลต่อหุ้นแต่ละกลุ่ม แต่ละบริษัทอย่างไร ใครได้ ใครเสียประโยชน์

3. วิเคราะห์หุ้นรายตัวถึงพื้นฐาน งบการเงิน สตอรี่ การตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น แล้วเราก็ประเมินมูลค่า ดูราคาหุ้น วางแผนการว่าเราจะซื้อหุ้นตัวไหนอย่างไร

4. รีวิว Calendar ได้บ่อยๆ เมื่อมีข้อมูลอะไรใหม่ๆ เข้ามา และปรับเปลี่ยนแผนตาม

5. ซื้อหุ้นล่วงหน้าก่อนที่เหตุการณ์จริงจะเกิดขึ้น

ถ้ายกตัวอย่างให้เห็นชัดๆ ก็อย่างเช่น

Q3’21
อาทิตย์หน้า Apple จะจัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่ และก็คาดกันว่า iPhone รุ่นใหม่จะเปิดตัว ปีที่แล้ว delay ปีนี้มาตามปกติ หุ้นกลุ่มนี้ทั้งร้านค้าปลีก ค้าส่ง เล่นกันล่วงหน้าทุกปี ถ้าเราเก็งกำไรระยะสั้น เราก็อาจวางแผนซื้อก่อนได้ (แต่ตอนนี้อาจจะช้าไปแล้วก็ได้นะ) และก็ต้องย้อนไปดูในอดีตว่า พอเปิดตัวเสร็จจะมีการ sell on fact มั้ย หรือคิดต่อไปว่า สมมติ iPhone แพงกว่าที่คิด ตลาดจะตอบรับยังไง

Q4’21
ถ้าวัคซีนฉีดได้เยอะตามแผน มีการเปิดเมืองเปิดประเทศ เปิดเทอมตามปกติ เราก็อาจจะคิดต่อไปได้ว่า ร้านอาหาร ห้าง โรงหนัง คนจะแน่นมาก รถไฟฟ้า ทางด่วน คนจะเพิ่ม (ตัวเลขคงจะ bottom เดือนสิงหาคม) ป้ายโฆษณาจะมีการกลับมาจองกัน ร้านสะดวกซื้อคนจะเข้าไปซื้อแซนด์วิช กาแฟ ขนมกันเยอะขึ้น เราก็จะมาคิดต่อว่าหุ้นตัวไหนได้ประโยชน์แล้วก็วางแผนเก็งกำไร หรือลงทุนตามสะดวก

Q1’22
อาจจะเริ่มเห็นการประมูลโครงการต่างๆ มากขึ้น อสังหาเปิดตัวโครงการเพิ่ม ซึ่งก็คงเริ่มมาตั้งแต่ Q4 แล้ว และก็อาจจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจทางส่วนนี้เพิ่มเติมได้ ถ้าเราเชื่อว่าจะเกิดแบบนี้ เราก็ต้องเริ่มมามองหุ้นรับเหมา เสาเข็ม ที่ปรึกษา วางระบบ อสังหา ต่างๆ

ไตรมาสที่เหลือของปี 2022

เราอาจจะคาดการณ์ต่อไปก็ได้ว่า นักท่องเที่ยวกลับมา คนไข้ต่างชาติทยอยเข้ามารักษาตัว ฤดูกาลท่องเที่ยวกลับมา สุดท้าย ICT ดี ธนาคากลับมาดี เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว

>> ในขณะเดียวกัน เราก็อาจจะมองได้อีกมุมว่า เทรนด์ใหญ่เรื่อง e-commerce, online shopping, delivery ก็คงไม่หายไปไหน Data Center, Cyber Security เป็นเรื่องจำเป็น Pent Up Demand, Supply Shortage ยังคงอยู่ กลุ่ม Logistics กลุ่ม Commodity ต่างๆ ก็จะยังอยู่ แต่คงต้อง selective มากขึ้น

>> เป็นไอเดียในการหาหุ้นลงทุนโดยการคาดการณ์ถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดนะครับ แต่สิ่งที่สำคัญคือ เราต้องมองให้ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และวางแผนเลือกลงทุนให้ถูก ดูพื้นฐานบริษัทให้ดีว่าได้หรือเสียประโยชน์ งบการเงินเป็นอย่างไร และต้องอัพเดตสถานการณ์อยู่เสมอ

>> สุดท้ายเราก็จะมีหุ้นให้ลงทุนได้ตลอดทั้งปีครับ ที่สำคัญต้องซื้อก่อนที่เรื่องราวเหล่านั้นจะเกิดขึ้น และขายเมื่อทุกคนรับรู้กันหมดแล้ว หรือราคาหุ้นสะท้อนไปหมดแล้วนั่นเอง