หุ้นที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว คือ หุ้นของบริษัทที่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากหุ้นทุกตัวมีบริษัทอยู่เบื้องหลัง
กุญแจสำคัญที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในการลงทุน คือ วิธีเลือกหุ้น ...
นี้คือวิธีเลือกหุ้น 5 วิธีที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กันมากที่สุด เรียงตามวิธีที่ดู "ไร้สติ" ที่สุด ไปจนถึง "สมเหตุสมผล"
มีอะไรบ้างไปดูกัน
1. ปาเป้า
การซื้อหุ้นแบบ จิ้มตัวไหน-ซื้อตัวนั้น เป็นวิธีที่ดูไร้สติและมั่วซั่วที่สุด เราอาจจะโชคดีจิ้มถูกแล้วได้เงินไปอย่างรวดเร็ว หรือโชคร้ายจิ้มผิดตัวแล้วนั่งมองเงินของเราหายไปเรื่อยๆ แต่วิธีนี้ก็มีข้อดีอยู่บ้างนั้นคือ ตื่นเต้นและไม่เหนื่อย
เอาตามความจริงแล้ว ถ้าเราเลือกที่จะปาเป้า เราควรหันไปซื้อกองทุนรวมแล้วให้ผู้เชี่ยวชาญบริหารเงินให้น่าจะดีกว่า
2. หุ้นวงใน
เรามักจะได้ยินบ่อยๆว่า "หุ้นตัวนี้กำลังมีรายใหญ่เข้าซื้อ" หรือ ได้ยินวงในมาว่าเขากำลังมาลากหุ้นตัวนี้ ... ซึ่งไม่รู้ว่าเขาคนนี้ คือเขาคนไหน ?
เราเรียกหุ้นวงในที่ขึ้นมาได้สักพัก และคนให้ความสนใจกันว่า "หุ้นร้อน"
ในความเป็นจริงนักลงทุนกว่า 99% เข้าใจว่าการซื้อหุ้นร้อน จะทำให้เราขาดทุนในท้ายที่สุด แต่เรามักจะทนไม่ได้ที่เห็นขึ้นโดยไม่มีเรา และคิดว่าเราคงไม่ใช่คนสุดท้าย ขอแค่มีใครสักคนมาซื้อต่อจากเรา เราก็จะทำเงินได้
แล้วสุดท้าย เราก็ขาดทุน ...
3. หุ้นเด็ดจากกูรูหุ้น
เวลาซื้อประกาศให้รู้กันทั่ว .. แต่เวลาขายทำไมไม่บอกกันบ้าง
นี้คงเป็นปัญหาของนักลงทุนหลายๆคนที่ชอบซื้อหุ้นตามกูรู หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง
เป็นธรรมดาที่นักลงทุนมักจะคิดไปว่า นักวิเคราะห์ กูรูหุ้น หรือบุคคลที่ประสบความสำเร็จจะต้องรู้อะไรในสิ่งที่เราไม่รู้ ดังนั้นเราควรซื้อหุ้นตามพวกเขา เราก็จะทำเงินจากหุ้นได้
แต่น่าเสียดายที่เวลาเขาเชียร์ซื้อ ทุกคนมักจะรู้กันทั่ว แต่เวลาเขาขายกลับไม่มีใครรู้เลย
เราอาจจะต้องทนถือหุ้นตัวนั้นต่อไปทั้งที่คนๆนั้นเขาเลิกชอบหุ้นตัวนั้นไปแล้ว ..
4. คำแนะนำจากบทวิเคราะห์-โบรกเกอร์
นี้น่าจะเป็นวิธีเริ่มต้นที่ดูง่ายที่สุด นั้นคือเปิดพอร์ตหุ้นกับโบรกเกอร์ไหน ก็ขอคำแนะนำหุ้นจากโบรกเกอร์นั้นๆเลย ซึ่งโบรกเกอร์เหล่านั้นจะมีพอร์ตจำลอง พอร์ตหุ้นตัวอย่างที่เล่นเป็นสัปดาห์ เล่นรายเดือน เล่นประจำไตรมาส หรือแม้แต่หุ้นเพื่อการปันผล
แน่นอนว่าหุ้นเหล่านี้เป็นหุ้นพื้นฐานดี ได้รับการคัดเลือกและตรวจสอบมาแล้ว ผ่านการจัดสรรมาเป็นอย่างดี แต่ปัญหาคือ เราจะไม่รู้ว่าเราซื้อมันไปทำไม และมีเหตุผลอะไรให้เราต้องซื้อ
การซื้อในสิ่งที่เราไม่รู้ว่าซื้อมันไปทำไม เราจะทำใจไม่ได้ถ้าเห็นหุ้นมันลง และยิ่งตลาดถล่มด้วยแล้ว เราจะรีบเทขายทิ้งทันทีพร้อมกับการขาดทุนทันที
5. ศึกษาและวิเคราะห์เอง
นี้คือวิธีเลือกหุ้นที่ดูดีและสมเหตุสมผลที่สุด ยิ่งเรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุนมากเท่าไร เราก็จะยิ่งพึ่งพาคนอื่นน้อยลงเท่านั้น และยังสามารถนำความเห็นของคนอื่นมาประเมินควบคู่ไปกับความเห็นของเราได้มากขึ้นก่อนที่จะตัดสินใจว่าควรซื้อเพิ่ม ถือไว้เฉยๆหรือว่าลดพอร์ตดี
แต่ปัญหาคือ มันเป็นวิธีที่ยาก ซับซ้อน และไม่เหมาะสำหรับคนขี้เกียจ ...
เราจำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์พื้นฐานได้ อ่านผลประกอบการ ดูกราฟราคาหุ้นเป็น และพอจะมองอนาคตของบริษัทได้ ...
การลงทุนไม่ใช่ศาสตร์เท่านั้น ไม่ว่าเราจะศึกษามาดีแค่ไหนแต่นั้นเป็นเรื่องอดีต
สิ่งสำคัญคืออนาคต เป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ซึ่งเราแทบจะไม่รู้อะไรเลย
เพราะฉะนั้นงานของนักลงทุน คือ "เลือกหุ้น"
ไม่ใช่การจ่ายเงินซื้อแพงเกินไป จากนั้นนั่งรอให้มันราคาขึ้น
... เราสามารถทำให้ความเสี่ยงลดลงได้ โดยรู้ให้มากที่สุด ยิ่งเรารู้มาก ความเสี่ยงของการลงทุนยิ่งลดลง