มีการทดลองทางจิตวิทยาถึงความพึงพอใจของคนเราว่า
- เราจะรู้สีกดี ถ้าเราได้เงินเดือน 50,000 บาท และรู้ว่าคนอื่นได้ 40,000 บาท
- กลับกัน เราจะรู้สึกแย่ ถ้าเราได้เงินเดือน 60,000 บาท แต่เพื่อนร่วมงานได้ 70,000 บาท
ถ้าคิดในแง่ตัวเงิน เราควรดีใจเพราะว่า เราได้เงินเพิ่มขึ้น แต่เรากลับเสียใจ เพราะคนรอบข้างได้มากกว่าเรา
ในแง่ของการลงทุนก็เช่นกัน ปีนี้เป็นปีที่ดีของเรา พอร์ตโต 20% ดีกว่าตลาดมาก และดีกว่าใครหลายคนที่ขาดทุน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราเปิด Facebook เข้า Pantip เราจะรู้สึกตัวเล็กขึ้นมาทันที เพราะจะมีคนที่พอร์ตโต 100% หรือคนที่ชีวิตเปลี่ยนหลัก พอร์ตโตเป็นหลายสิบล้าน หลายร้อยล้านบาท
เราอาจจะไม่ได้อิจฉาเขาที่แก่งกว่าหรือมีเงินมากกว่าเรา แต่เราอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบ จนทำให้เรารู้สึกแย่
หลักการ 3 ข้อ ที่ผมอยากฝากเป็นแนวคิดเพื่อให้เราประสบความสำเร็จในการลงทุนอย่างมีความสุข คือ
- รู้เป้าหมายของตัวเอง
เพราะแต่ละคนมีเป้าหมายไม่เหมือนกัน มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน เราอาจจะใช้เงินแค่เดือนละ 30,000 บาท ก็พอแล้ว เพราะไม่มีภาระหนี้สิน ไม่ได้ซื้อของราคาแพง ไม่ค่อยได้กินได้เที่ยวแพงๆ เราสุขใจเท่านี้ก็คือจบ
แต่ถ้าเราบอกว่า ไม่ได้ๆ เราอยากกินหรูอยู่สบาย ท่องเที่ยวคือการพักผ่อน ของแบรนด์แนมคือรางวัลจากความเหนื่อยยาก ต้องใช้เดือนละแสนถึงจะพอ แบบนี้ก็ไม่ผิด เพราะคือชีวิตเราที่ต้องการ เราก็กำหนดเป้าหมายให้ชัดว่าเราสุขใจแบบนี้
- กำหนดตัวเลขให้ชัดเจน
พอเรารู้แล้วว่า เราต้องใช้เงินเท่าไหร่ในแต่ละเดือน คำนวณเลยครับว่า สุดท้ายปลายทางแล้ว เราต้องมีเงินเท่าไหร่ เช่น ใช้เดือนละแสน ปีละล้านสอง คิดว่าจะอยู่ 30 ปี ก็ต้องมีเงิน 36 ล้านบาท ถึงจะพอ
เสร็จแล้วเราก็มาคำนวณต่อว่า ถ้าเราเริ่มต้นที่เงิน 1 ล้านบาท และสามารถทำผลตอบแทนได้ 20% ต่อปีแบบที่เราทำได้ในปีนี้ ทำต่อไปเรื่อยๆ เป็นเวลา 20 ปี เราจะมีเงินทั้งหมด 38.3 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่เราต้องการ แต่ถ้าเราบอกว่า 20 ปี นานไป รอไม่ไหว เราก็ต้องหาเงินมาเติมพอร์ตให้มากขึ้น หรือทำผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีให้มากกว่า 20%
- วางแผนการเดินทางไป
การเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางมีได้หลายแบบ จะขึ้นเครื่องบินเพราะเร็ว จะขับรถไปเพราะชอบบรรยากาศสองข้างทาง หรือจะค่อยๆ เดินไปก็จะได้ประสบการณ์ที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความชอบความถนัด และเป้าหมายอยู่ใกล้ไกลแค่ไหน
ถ้าต้องการผลตอบแทน 20% จะมาหาหุ้นปันผลคงไม่ตอบโจทย์ ก็ต้องไปหาหุ้นเติบโตหน่อย อ่านงบให้ลึก ดู business model ให้ออก เลือกหุ้นให้ถูกตัว วางเงินให้เหมาะสม แล้วก็จะเดินทางไปถึงเอง
เริ่มต้นด้วยความชัดเจนกับตัวเอง กำหนดเป้าหมายออกมาเป็นตัวเลข วางแผนการเดินทางให้ถูกทิศ
สุดท้ายเราก็จะไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะเป้าหมายเราต่างกัน
เราพอใจที่จะโตแค่นี้ในแต่ละปี เพราะรู้ว่าอีก 20 ปี ต้นไม้ที่เราปลูกไว้จะออกผลตามที่เราต้องการ
แล้วเราก็จะประสบความสำเร็จในการลงทุนอย่างมีความสุขครับ