#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

ทริคในการดูงบกระแสเงินสดฉบับมือใหม่

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
119 views

งบกระแสเงินสด (Cashflow Statement)  คือ ส่วนที่แสดงถึงรายรับรายจ่ายของเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสด ในช่วงเวลาหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าเป็นงบประเภทไหน เช่น 1 ไตรมาส หรือ 1 ปี โดยงบกระแสเงินสดแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ

 

1. กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัท หรือ Cashflow from Operations คือ เงินสดเข้าบริษัท "หรือ" ออกจากบริษัท จากการดำเนินงานของบริษัท เช่น เงินจากการขายสินค้าและการให้บริการ การจ่ายเงินเดือน ต้นทุน ค่าเช่าที่

 

2. กระแสเงินสดจากการลงทุนของบริษัท หรือ Cashflow from Investing คือ เงินสดเข้าบริษัท "หรือ" ออกจากบริษัท จากการลงทุนของบริษัท เช่น เงินฝากธนาคาร การลงทุนในบริษัทย่อย ปันผลรับ

 

3. กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน หรือ Cashflow from Financing คือ  เงินสดเข้าบริษัท "หรือ" ออกจากบริษัท จากเรื่องของการจัดหาเงินด้วยต่างๆไม่ว่าจะเป็น การกู้แบงก์ ออกหุ้นกู้ การชำระเงินกู้

สาเหตุที่ต้องมี "หรือ" ขั้นระหว่างเงินสดเข้า และเงินสดออก เพราะว่าแบบนี้ครับ
ถ้า Cashflow มีค่ามากกว่า 0 หมายความว่า บริษัทมีกระแสเงินสดรับ มากกว่า จ่ายออก
ถ้า Cashflow มีค่าน้อยกว่า 0 พูดง่ายๆคือติดลบนั้นเอง หมายความว่าทางบริษัทมีกระแสเงินสดรับ น้อยกว่า จ่ายออก


ซึ่งดูๆแล้ว ใครๆก็อยากมี Cashflow เป็นบวก เพราะเงินเข้าบริษัทมากกว่า ถูกไหม ?
ตอบว่า "ไม่จริงเสมอไป"  ครับ
ในแง่ของการลงทุนที่ผู้เขียนชอบใช้ คือ

โดยส่วนใหญ่สิ่งที่นักลงทุนมองหา คือ ..
1. กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ขอเป็นบวก
2. กระแสเงินสดจากการลงทุน ขอเป็นลบ
3. กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน จะเป็นบวกหรือลบก็ได้

 

ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?
กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ขอเป็นบวก หมายความว่าบริษัททำธุรกิจจริงๆแล้วได้เงินสดเข้าบริษัท ธุรกิจมีกำไรเลยมีเงินเข้าบริษัท แต่ถ้าติดลบอาจจะบอกว่าทำแล้วขาดทุน พูดง่ายคือๆ "ยิ่งขยัน ยิ่งขาดทุน"

กระแสเงินสดจากการลงทุน ขอเป็นลบ เพราะว่าบริษัทมีการนำเงินไปขยายการลงทุนต่อเนื่อง ได้เงินมาก็เอาไปลงทุน ซึ่งกระแสเงินสดส่วนนี้ในอนาคตจะกระโดดไปอยู่ในสวนของกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ซึ่งนักลงทุนจำเป็นต้องไปดู ROA ในอดีตด้วยว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อ งด้วยหรือไม่ ถ้าเติบโตสม่ำเสมอแสดงว่าบริษัทบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั้นเองครับ

กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน จะเป็นบวกหรือลบก็ได้ เพราะอันนี้เป็นเรื่องการบริหารเงินของบริษัทแล้วว่าจะไปทางไหน ถ้าเป็นบวกคือบริษัทอาจจะมีการระดมทุนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
ถ้าเป็นลบ อาจจะบอกว่าบริษัทเอาเงินไปจ่ายหนี้คืน


สรุปแล้ว การดูงบกระแสเงินสดเป็นเรื่องของศิลปะมากกว่าที่จะไปเจาะลึกในเรื่องของตัวเลข โดยส่วนใหญ่แล้วขอให้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวก และกระแสเงินสดจากการลงทุนเป็นลบ ก็ถือว่ารับได้ครับ
ลองนำไปปรับใช้กันดูครับ


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง