เปิดตำนานบทใหม่ TH จากธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ สู่ธุรกิจบริหารหนี้มูลค่า 3,860 ล้านบาท
รู้หรือไม่ว่าหุ้น TH หรือ บริษัท ตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เมื่อสิ้นปี 2563 ราคาปิดอยู่ที่ 0.49 บาท มีมูลค่าบริษัทเพียงแค่ 472 ล้านบาทเท่านั้น
ผ่านไป 9 เดือนกว่า ราคาหุ้น TH ขึ้นมาอยู่ที่ 4.00 บาท (สิ้นวันที่ 9/9/2564) ดันมูลค่าบริษัทมาแตะที่ระดับ 3,800 ล้านบาทได้สำเร็จท่ามกลางยุคที่มีโรคระบาด และยังมีแนวโน้มที่สดใสรออยู่
อะไรทำให้ธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์อย่าง TH เติบโตแบบก้าวกระโดด จนเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนได้อย่างรวดเร็ว
คำตอบคือ บริษัทได้มีการปรับโครงสร้าง มีการขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่ไม่ใช่สื่อสิ่งพิมพ์อย่างเดียว นั่นเอง
จากธุรกิจหลักที่ทำหนังสือพิมพ์รายวันภาษาจีน สู่บริการให้สินเชื่อและบริหารสินทรัพย์
- บริษัท หนังสือพิมพ์ตงฮั้ว จำกัด ผลิตและจำหน่ายหนังสือพิมพ์จีนรายวัน รายได้มาจากการขายหนังสือพิมพ์ในประเทศ
- บริษัท ตงฮั้ว แคปปิตอล จำกัด ดำเนินธุรกิจให้สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น รับซื้อขายฝาก เช่าซื้อ ให้สินเชื่อโดยมีหลักประกันเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
- บริษัท ตงฮั้ว แอสเซท จำกัด ธุรกิจให้เช่าพื้นที่เพื่อจำหน่ายสินค้า และให้บริการเงินกู้โดยการรับโอนสิทธิการรับเงินจากลูกค้า เพื่อจัดเก็บเงินจากลูกหนี้ (หน่วยงานราชการ และเอกชน)
- บริษัท บริหารสินทรัพย์ ตงฮั้ว จำกัด ธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินด้อยคุณภาพ
ด้วยการปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ มีการเพิ่มธุรกิจปล่อยสินเชื่อ รวมไปถึงบริหารสินทรัพย์เข้าไป ทำให้ TH มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะหากยังทำธุรกิจหนังสือพิมพ์เพียงอย่างเดียวในยุคดิจิตอล คงไม่มีทางเติบโตได้อย่างแน่นอน
กำไร 6 เดือนแรกปี 64 มากกว่ากำไรทั้งปี 63
ลองมาดูรายได้/กำไรของ TH ย้อนหลังกัน ว่าเป็นอย่างไร ?
ปี 2561 : รายได้ 98.57 ล้านบาท กำไร 40.53 ล้านบาท
ปี 2562 : รายได้ 107.75 ล้านบาท กำไร 44.32 ล้านบาท
ปี 2563 : รายได้ 67.53 ล้านบาท กำไร 26.08 ล้านบาท
ครึ่งปีแรก 2564 : รายได้ 52.25 ล้านบาท กำไร 32.02 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าปีที่แล้ว TH นั้นโดนพิษจากโควิด-19 เล่นงาน จนบริษัทต้องเจอปัญหาการดำเนินงาน ทำให้รายได้และกำไรลดลงอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากเผชิญกับไวรัสแล้ว อีกปัญหาที่ทำให้รายได้จากการจำหน่ายหนังสือพิมพ์ลดลงทุกปี คือ ขอบเขตผู้อ่าน นสพ.จีน ซึ่งเป็นผู้สูงวัยเป็นส่วนใหญ่ด้วย
แต่ CEO อย่างคุณสมนึก กยาวัฒนกิจ ก็ไม่ได้นิ่งเฉยกับเรื่องนี้แต่อย่างใด บริษัทได้มีการพัฒนาเว็บไซต์สื่อภาษาจีนออนไลน์ เพื่อสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมากขึ้น จึงทำรายได้จากโฆษณามีการปรับตัวขึ้นตาม
แต่นั่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมายนัก
เพราะจุดเปลี่ยนสำคัญที่สร้างรายได้และกำไร 2Q64 ให้กับบริษัทที่แท้จริงนั้น มาจากบันทึกกำไรขายที่ดิน และบริหารสินเชื่อที่คุณสมนึกเดินเกมไว้ล่วงหน้าแล้วต่างหาก
ทำให้บริษัท มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมาก จนบริษัทแทบไม่มีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยเลย เมื่อดูจากงบไตรมาส 2/64
ล่าสุด TH มีการเดินหน้าลงทุนในธุรกิจบริหารหนี้ภายใต้ชื่อ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ตงฮั้ว จำกัด ซึ่งธุรกิจบริหารสินทรัพย์กำลังเป็นที่นิยม จากปริมาณหนี้เสียของสถาบันการเงินที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นี่จึงเป็น Upside สำคัญที่ได้เกริ่นไปช่วงต้นว่า ทำไม TH ถึงยังมีอนาคตที่สดใสรออยู่
เรียกได้ว่ามาไกลมาก จากบริษัทที่มีจุดกำเนิดมาจากธุรกิจสื่อ และหนังสือพิมพ์เล็กๆในย่านเจริญกรุง กลายมาเป็นธุรกิจบริหารทรัพย์สิน จนเป็นหนึ่งในหุ้นที่นักลงทุนอยากเป็นเจ้าของมากที่สุดในเวลานี้ไปแล้ว
อนาคต TH จะเติบโตต่อไปอีกแค่ไหน เป็นเรื่องน่าติดตามเหลือเกินครับ