เพื่อนๆน่าจะพอทราบกันมาแล้วว่ากลุ่ม CP หลังจากการเข้าซื้อกิจการ Lotus เข้ามาแล้ว มีการปรับธุรกิจหลายอย่าง เปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ เปลี่ยนแบรนด์ เปลี่ยนสีใหม่ให้ดูดีมากกว่าเดิม
... ล่าสุด มีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นขนาดใหญ่ที่มีมูลค่ามากกว่า 2 แสนล้านบาท
เราลองมาวิเคราะห์กันว่า หลังการเปลี่ยนโครงสร้างแล้ว ใครได้ประโยชน์มากที่สุดระหว่าง CPALL MAKRO และ CPF
ก่อนเข้าซื้อ LOTUS's กลุ่มซีพีมีการตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ในชื่อ "CPRH" เพื่อมาถือหุ้น LOTUS's โดยโครงสร้างการถือหุ้นคือ
1. CPF ถือหุ้น 20%
2. บมจ.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง (CPH) ถือหุ้นทางตรง 40%
3. บมจ.ซีพีออลล์ (CPALL) ถือหุ้นทางตรง 40%
สำหรับ MAKRO ตอนแรกมีแค่ CPALL เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อยู่ 93.08% และผู้ถือหุ้นรายย่อยประมาณ 7%
แต่หลังจากนั้นจะมีการโอนหุ้น LOTUS's ไปให้ MAKRO
... เท่ากับว่า LOTUS's จะอยู่ภายใต้ของ MAKRO โดยออกหุ้นใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้น CPRH โดยโครงสร้างการถือหุ้นของ MAKRO จะเปลี่ยนไป เป็น
1. CPF ถือหุ้น 10.21%
2. CPH ถือหุ้น 20.43%
3. CPALL ถือหุ้น 65.97%
ส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย จะมีสัดส่วนถือหุ้น Makro ลดลงจาก 7% เหลือ 3.39%
กระบวนการโอนหุ้นทั้งหมดจะแล้วงเสร็จในเดือนตุลาคม 2564 ....
=======================
เรามาดูกันว่าดีลนี้จะกระทบกับหุ้นกลุ่ม CP กันอย่างไรบ้าง
CPALL
บล.เอเชียพลัส มองเป็นบวก จาก 3 ประเด็นด้วยกันคือ
1. แต่เดิม MAKRO มีปัญหาเรื่อง freefloat สภาพคล่องอยู่แล้ว คือทาง CPALL อยากจะลดสัดส่วนการถือหุ้น MAKRO อยู่แล้วแต่ยังหาดีลลงตัวไม่ได้
2. การถือหุ้น LOTUS's ทางออมเพิ่มมากกว่าเดิม ทำให้ Value ของ MAKRO + LOTUS's เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
3. CPALL จะได้เงินจากการขายหุ้น MAKRO พร้อมกับ PO ไปลดภาระหนี้สิน
MAKRO
บล.เอเชียพลัส มองเป็นกลาง โดยผลกระทบหลัก คือ Dilution จากการเพิ่มทุนเพื่อรับโอนกิจการของ LOTUS's ในขณะที่กำไรจาก LOTUS's ยังถูกกดดันจากดอกเบี้ยจ่าย
... แต่ภาพระยะยาวมองเป็นบวกจากการ Synergy จากค้าปลีก- ค้าส่ง ขยายตัวสาขาเพิ่มมากขึ้นได้ง่าย เปิดสาขาใหม่ต่างประเทศ
รวมถึงมี Economy of Scale การขยาย Omnichannel Platform B2C – B2B
สรุประยะสั้นมองไม่ดี แต่ระยะยาวมองดีนั้นเอง
CPF
บล.เอเชียพลัส มองเป็นบวก จาก 3 ประเด็นหลัก คือ
1. เพิ่มมูลค่าจากการลงทุนใน LOTUS's มาเป็นการถือหุ้นร่วมใน MAKRO ด้วย เท่ากับว่าได้ทั้ง MAKRO ทางตรงและ LOTUS's ไปพร้อมๆกัน
2. การร่วมพลังกันในอนาคตจากการขายอาหารเพิ่มขึ้นใน MAKRO และ LOTUS's รวมถึงการขยายไปต่างประเทศ เท่ากับขยายช่องทางการขยายธุรกิจของ CPF ไปพร้อมๆกัน
3. ได้ประโยชน์จากการถือหุ้น MAKRO ด้วย และทางอ้อมจากการถือหุ้น CPALL มองเป้นบวกในระยะยาวเชนเดียวกัน
สรุปแล้ว กลุ่มที่น่าจะได้ประโยชน์มากที่สุด คือ CPF และ CPALL สำหรับ MAKRO ภาพระยะสั้นมองเป็นลบเนื่องจากกำไรของ LOTUS's น่าจะกดดันผลประกอบการระยะสั้น แต่ระยะยาวแล้วการ Synergy จะช่วยทำให้ MAKRO เติบโตในแง่ของผลประกอบการ
----------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส