การลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีนั้น จำเป็นจะต้องเข้าถึง "ธีม" การลงทุนที่เป็น "เมกะเทรนด์" แห่งอนาคต และธีมใหม่ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม คือ DEAL ซึ่งย่อมาจาก 4 ธีมการลงทุนในโลกยุคใหม่ ได้แก่
1. Digitalization
เน้นลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูล Big Data เพื่อการประมวลผล การวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับ AI การใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ชีวิตมนุษย์สะดวกสบายขึ้น การชำระเงินผ่านออนไลน์ ดิจิทัลวอลเล็ต
2. Environmental Protection
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดอุตสาหกรรม "สีเขียว" ต้องยอมรับว่ามนุษย์เราใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การทำธุรกิจโดยไม่คำนึงถึงการรักษ์โลกย่อมถูกต่อต้านจากคนรุ่นใหม่ ไม่เพียงแค่ประชาชนที่จะ "แบนสินค้า" แม้แต่รัฐบาลเองก็ไม่สนับสนุน และพยายามให้บริษัทเหล่านั้นรักสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ธีมนี้ เช่น กลุ่มรถไฟฟ้า EV แบตเตอร์รี่ พลังงานสะอาด โซล่าร์ฟาร์ม พลังงานลม
3. Aging Society
ปัจจุบันสังคมผู้สูงวัยเพิ่มขึ้นมาก เราจึงเริ่มเห็นโครสร้างพื้นฐาน และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุมากขึ้น ธีมหลักๆเช่น สมาร์ทโฮม สมาร์ทซิตี้ อสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้สูงอายุ แบรนด์สินค้าประเภทเครื่องอุปโภคบริโภคสำหรับผู้สูงอายุ
4. Low interest
ยุคดอกเบี้ยต่ำยาวนานและทั่วโลก แน่นอนว่าการลงทุนในตลาดหุ้นถือเป็นแหล่งการลงทุนที่น่าสนใจ แต่เราจำเป็นต้องคัดเลือกในบริษัทที่มีการลงทุนแล้วให้ผลตอบแทน (Margin) อยู่ในระดับสูงด้วย หรือก็คือ Growth สูงนั้นเอง ซึ่งส่วนใหญแล้วมักจะเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ธุรกิจเกม สตีมมิ่งที่ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่
นี้ก็เป็น 4 ธีมใหม่ ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามครับ
ถึงแม้ว่าในตลาดหุ้นไทยอาจจะไม่ค่อยได้เห็นสักเท่าไรนัก เรามักจะเห็นบริษัทเหล่านี้อยู่ในต่างประเทศมากกว่า เช่น อเมริกา หรือหุ้นจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง
ดังนั้น นักลงทุนเองก็อาจจะต้องเรียนรู้ในการลงทุนต่างประเทศมากขึ้น อาจจะเป็นการเปิดพอร์ตกับบริษัทหลักทรัพย์ในเมืองไทย ลงทุนผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ ที่มีให้เลือกจำนวนมากนั้นเองครับ