คนเรานั้นล้วนแต่มีลักษณะที่หลากหลายแตกต่างกันไป ตามเป้าหมาย สิ่งแวดล้อม และการเลี้ยงดูในวัยเด็ก บางคนก็เป็นคนจริงจัง บางคนก็ไปได้เรื่อยๆ ตามกระแส  แต่แน่นอนว่าเมื่อบุคคลเหล่านี้เข้ามาในแวดวงการลงทุนแล้ว จะปฏิบัติตัวตามสไตล์พื้นฐานดั้งเดิมของตนเอง

จากการศึกษาพฤติกรรมที่ได้สังเกตเห็นนักลงทุนคนใกล้ตัว ผ่านมาหลายปี มีทั้งคนที่ประสบความสำเร็จหารายได้เลี้ยงครอบครัวได้ พอร์ตพออยู่ได้ หรือแม้กระทั้งล้มเลิกไป ทำไม..พวกเขาถึงได้มีผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
... นักลงทุนมือใหม่ ที่จะขยับไปเป็นมือเก๋า มักมีคุณสมบัติ 5 ข้อสำคัญ ดังนี้..

1.มีทัศนคติที่ถูกต้องในการลงทุน
เรื่อการลงทุนมีหลักการที่ต้องศึกษาหาความรู้..อย่าประมาทว่า การลงทุนเป็นเรื่องง่ายๆ เข้ามาเพื่อหวังรวยเร็วๆ โดยไม่ศึกษาให้ดีเสียก่อน  ตลาดหุ้นมีทั้งโอกาสที่ควบคู่มาพร้อมกับความเสี่ยง นักลงทุน "มือใหม่" ที่จะเป็น "มือเก๋า" ล้วนต้องผ่านทั้งช่วงตลาดเล่นง่าย ซื้อตัวไหนก็ขึ้น กับ ช่วงตลาดเล่นยาก ช่วงวิกฤตต่างๆ มาแล้วให้ได้

2.มีความอดทน
เข้าใจว่าการลงทุนที่จะสร้างผลตอบแทนมากๆ ต้องใช้ทั้งความพยายาม และอาศัยเวลา ให้การลงทุนนั้นออกดอกออกผล ทนถือทนรวยให้ได้ ถ้าเวลากำไรก็จะรีบขาย แต่พอขาดทุนทนถือได้ อันนั้นยังไม่เข้าขั้นมือเก๋า "ใจนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ" อดทนก็ต้อง "ทน" ให้ถูกทางด้วย

3.หมั่นศึกษาหาความรู้อยู่สม่ำเสมอ
เมื่อยังไม่เก่ง ก็เริ่มศึกษาทุกอย่างที่ขวางหน้าที่สนใจอย่างจริงจัง เพื่อให้มีข้อมูลมากพอที่จะเลือกวิธีการลงทุนที่เหมาะสม กับเงื่อนไขของตัวเองที่สุด เช่น เป็นพนักงานประจำ ไม่มีเวลาเฝ้าหน้าจอ ก็ไม่ควรเดย์เทรด เลือกเครื่องมือที่เหมาะกับตนเองที่สุด พยายามในแนวทางของตนเองจนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวที่ไม่มีใครเลียนแบบได้
 

4.ควบคุมความโลภ และ ความกลัวของตนเองได้ดี
อันนี้ยากนิดนึง..อาจขัดกับสัญชาตญาณความเป็นมนุษย์ของเรา แต่ฝึกกันได้ เช่น..ฝึกให้ตนเองรู้ทันอารมณ์ ไม่โลภเกินไป ไม่กลัวจนทำให้เสียโอกาส และรับมือกับความกดดันจากตลาดฯได้ดี หลายครั้งตลาดฯมักมีอะไรที่นอกแผนที่เราวางไว้เสมอ เช่น สายกราฟเทคนิค ระหว่างวันมักจะเจอหุ้นที่ขึ้นเยอะๆ จนเราอยากเข้าเทรด แต่ไม่ใช่ตัวที่เราทำการบ้านวางแผนมา หรือ บางท่านที่ใช้เทคนิควิธีการออกเป้า รู้ทั้งรู้ว่าตามกราฟราคาจะต้องจบในบริเวณนี้ แต่ก็ติด คำว่า "ขออีกนิด" ซึ่งส่วนใหญ่ราคาแตะเป้าแล้วก็มักลงเลย  หรือในวันที่หุ้นมีข่าวร้ายที่แย่สุดๆ ราคาลงแล้วลงอีก จนนิ่ง ก็ไม่กล้าที่จะเข้าซื้อ เนื่องจากบ่อยครั้งบริเวณนั้น มักเป็นโอกาสในการซื้อที่ดีมาก

5.ประเมินสถานการณ์ ตามความเป็นจริง
การประเมินสถานการณ์ ตามความเป็นจริงนั้น จะนำไปสู่การจัดพอร์ตที่เหมาะสมกับเราตามแต่ละช่วงเวลา ไม่เพียงแค่การประเมินความสามารถของตัวผู้ลงทุนเอง ยังรวมไปถึงต้องรู้จักการประเมินสภาพตลาด การประเมินความเสี่ยงในการลงทุนแต่ละครั้ง เรื่องของ Money Management และ อื่นๆที่ส่งผลกระทบถึงการลงทุนด้วย เช่น การประเมินค่าใช้จ่ายประจำ  ก็จะทำให้เราออกแบบการลงทุนได้ครอบคลุมดีขึ้น

"เมื่อเราลงมือทำเหตุทุกอย่างให้ดีที่สุดแล้ว ผลลัพธ์ย่อมดีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"
สิ่งเหล่านี้ คือ สิ่งที่จะทำให้ มือใหม่ ทุกท่าน เพิ่มระดับฝีมือ ไปสู่ มือเก๋า ได้อย่างแน่นอน ดังคำกล่าวที่ว่า ความรู้อาจตามกันทัน แต่ประสบการณ์ คือสิ่งที่ต้องบ่มเพาะ สั่งสมเป็นเวลานานการตามกันไม่ใช่เรื่องง่าย..แต่ใช่ว่าจะตามกันไม่ได้..