สรุปให้ฟัง-ครึ่งปีหลังตลาดอสังหา 15 ข้อ เริ่ม
1.ครึ่งปีหลังของปี 64 ตลาดจะดูดีกว่าครึ่งปีแรกของปี 64 เพราะมีเปิดตัวขายเพิ่ม มูลค่าประมาณ 265,000-300,000 ล้านบาท
2.แต่ถ้ารัฐคุม COVID ไม่ดี จะเปิดตัวเหลือแค่ 45,000-52,000 หน่วย มูลค่า 225,000-265,000 ล้านบาท
3.ครึ่งปีแรกนี้ เปิดตัวอาคารชุด เพิ่มขึ้น 77% จากช่วงเดียวกันปี 2563 เพราะปีที่แล้วคนกำลังซ๊อค LTV ปีนี้ชินชาแล้ว เลยกล้าเปิดขาย
4.ครึ่งปีแรก เปิดตัวโครงการบ้านลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 แต่บ้านพักอาศัยยังมีอัตราขายได้เฉลี่ย 13% ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราขายได้ในปี 2563
5. มีการเปิดตัวโครงการทาวน์เฮ้าส์ใหม่เป็นจำนวน 8,568 หน่วย มูลค่า 25,267 ล้านบาท มีอัตราขายได้เฉลี่ยร้อยละ 14
6. บ้านเดี่ยว มีจำนวนหน่วยเปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 จำนวน 2,984 หน่วย มูลค่า 33,499 ล้านบาท มีอัตราขายได้เฉลี่ย 11% ซึ่งสูงขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563
7. บ้านแฝด ครึ่งปีแรกเปิดตัวใหม่เป็นจำนวน 2,764 หน่วย มูลค่า 15,669 ล้าน มีอัตราขายได้เฉลี่ย 12%
8. อาคารชุดในระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 70% จากหน่วยที่ขายได้ของประเภทอาคารชุดทั้งหมด
9.ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด มีแนวโน้มที่ระดับราคาขายทรงตัว
10.บ้านเดี่ยวมีแนวโน้มราคาปรับตัวขึ้น กลุ่มนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจมากนัก
11.ทำเลในเขตปริมณฑล รอบกรุงเทพมหานคร อย่าง ทำเลรังสิต ปทุมธานี และบางนา สมุทรปราการ เป็นทำเลที่ถูกพัฒนาเป็นโครงการบ้านพักอาศัยจำนวนมาก
12.เหตุการณ์การระเบิดของโรงงานอุตสาหกรรมย่านกิ่งแก้วที่ผ่านมา อาจทำให้การตัดสินใจเลือกซื้อทำเลที่อยู่อาศัยใกล้กับพื้นที่อุตสาหกรรมอย่างบางนานั้นยากขึ้น
13.จำนวนหน่วยเหลือขายอาคารชุดประมาณ 85,300 หน่วย ลดลงจากปี 2563 เพราะมีการชะลอเปิด
14.จำนวนหน่วยเหลือขายบ้านแนวราบประมาณ 136,700 หน่วย เพราะผู้ประกอบการอสังหาฯ หันมาเน้นพัฒนาบ้านพักอาศัยมากกว่าอาคารชุด
15. ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 สถานการณ์ยังอาจไม่ดียืดเยื้อต่อไปได้ เพราะ
15.1 มาตรการปิดแคมป์ก่อสร้างในเดือนกรกฏาคม ที่ส่งผลกระทบต่อการก่อสร้าง ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถส่งมอบที่อยู่อาศัยได้ตามแผนที่วางไว้
15.2 ราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะราคาเหล็ก ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนทางธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น
15.3 หน่วยคงค้างของตลาดที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มคงที่ จากอัตราการระบายเฉลี่ยลดลง
15.4 ปัจจุบัน มีอัตราการว่างงานสูงแตะระดับ 2 ล้านกว่าคน
15.5 ภาระหนี้ครัวเรือนแตะระดับ 90% สูงมาก
15.6 ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง
15.7 อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ 40-50% ( ธนาคารโหดโคตร )
โปรดติดตามสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ กันอย่างใกล้ชิดต่อไปครับ
ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก บริษัท ลุมพินีวิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด