1.
พอได้ยินว่า OR ผลประกอบการออก รีบดู "สรุปผลการดำเนินงาน"
กำไรสุทธิไตรมาส 2 อยู่ที่ 3.22 พันล้านบาท เทียบกับปีที่แล้วออกมาดูดีกว่าเยอะมากๆ เพราะไตรมาส 2 เมื่อปีที่แล้วกำไรสุทธิอยู่ที่ 520 ล้านบาท
แต่ก็พูดยากเพราะไตรมาส 2 ปีที่แล้ว เราพึ่งจะเจอกับวิกฤตโควิด ยังมึนๆงงๆอยู่ แถมมีปิดเมือง lock down ด้วย

2.
แต่พอดูไตรมาส 1 ของปีเดียวกันอยู่ที่ 4 พันล้านบาท ถือว่าลดลงเกือบ 20% ก็เลยต้องไปดูว่าลดลง จากตรงไหนบ้าง

3.
ภาพรวมสัดส่วนของธุรกิจ OR แบ่งออกเป็น
>> กลุ่มธุรกิจน้ำมันคิดเป็น 77% ** ยังเป็นรายได้หลัก
>> ธุรกิจ Non-Oil คิดเป็น 20% ** อันนี้เติบโตสูง เช่นร้าน Cafe Amazon
>> ธุรกิจต่างประเทศ คิดเป็น 4%

4.
ธุรกิจน้ำมัน เป็นรายได้หลัก กำไรในส่วนของ EBITDA ลดลงประมาณ 12% เทียบกับไตรมาส 1 ปีเดียวกัน เนื่องมาจากบริษัทขายน้ำมันได้ลดลง (ปิดเมือง + โควิดทำคนประหยัดมากขึ้น)

กำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตร (Marketing margin) ทรงตัว อยู่ที่ 1.2 บาท

แต่ยังมีประเด็นบวก คือ ในสภาวะแบบนี้ บริษัทก็ยังขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 17 สถานี มาอยู่ที่ 2,027 สถานี แล้ว

5.
ธุรกิจ Non-Oil ยังเติบโต แต่ไม่เยอะมาก หลักๆมาจากร้านกาแฟเป็นตัวดึง ทำให้กำไรขั้นต้นและ EBITDA เพิ่มขึ้นเล็กน้อย

แต่เสียตรงสาขาตามห้างที่ต้องปิดตัวเป็นตัวกดดันโดยเฉพาะค่าเช่า และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา แต่พอไปดูค่าใช้จ่ายตรง SG&A ก็ลดลงประมาณ 2% ก็ถือว่าควบคุมค่าใช้จ่ายของพนักงานได้ดี

ร้านสะดวกซื้อของบริษัทมีรายได้เฉลี่ยต่อร้านต่อวันปรับตัวเพิ่มขึ้น

ไตรมาส 2 บริษัทมีขยายร้านเพิ่มขึ้น แบ่งเป็น
ร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอน เพิ่มอีก 76 สาขา
ร้านไก่ทอดเท็กซัส เพิ่มอีก 2 สาขา
ร้านสะดวกซื้อ เพิ่มอีก 23 สาขา

6.
ธุรกิจต่างประเทศโดยหลักๆ ก็ลดลงเหมือนกัน ทั้งศูนย์บริการน้ำมันก็ขายน้ำมันได้ลดลง ทั้งทั้งธุรกิจ Non-Oil ก็ลดลง โดยบริษัทให้สาเหตุว่ามาจากการแพร่ระบาดโควิด ... ก็พอเข้าใจได้

ทั้งนี้ บริษัทแจ้งว่ามีเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 2 สาขา รวมเป็น 277 สาขา ที่อยู่ในต่างประเทศ

7.
กำไรพิเศษ มีอะไรบ้าง ?
กำไรจากค่าเงิน 202.9 ล้านบาท
ขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ 5.3 ล้านบาท

** สาระสำคัญของผลประกอบการไตรมาส 2 ก็น่าจะมีประมาณนี้
เลยลองไปสำรวจบทวิเคราะห์สักหน่อยว่าเขามองอย่างไรกันบ้าง แล้วไตรมาส 3 มองกันอย่างไร

8.
บทวิเคราะห์เอเชียพลัส มองว่า ไตรมาส 3 น่าจะยังอ่อนแอต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจ

บทวิเคราะห์คันทรี่กรุ๊ป วิเคราะห์ว่า ไตรมาส 3 ยังมีเรื่องของการปิดเมือง จะกระทบกับรายได้ในธุรกิจน้ำมัน ร้านกาแฟ และร้านสะดวกซื้อ คิดว่ายังคงอ่อนตัวต่อเนื่อง

บทวิเคราะห์ฟิลลิป มองว่า ธุรกิจ Non-Oil จะเป็นพระเอกในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากธุรกิจน้ำมันที่ลดลงได้
ยิ่งถ้าครึ่งปีหลัง สถานการณ์โควิดดีขึ้น ผลการดำเนินงานของ OR จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

-------------------------------------------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ

บทวิเคราะห์เอเชียพลัส

บทวิเคราะห์คันทรี่กรุ๊ป

บทวิเคราะห์ฟิลลิป