บรรยากาศของการเทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่กลับมาคึกคักอีกครั้งในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่เมื่อคืนนี้ขาใหญ่อย่างบิตคอยน์ ราคาพุ่งทยานขึ้นไปแตะระดับ 46,000 ดอลลาร์ นับเป็นราคาสูงที่สุดในรอบ 4 เดือน ก่อนที่จะย่อตัวลงมาเล็กน้อยเคลื่อนไหวที่ราคา 45,000 ดอลลาร์ แต่ก็มีแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากดูจากเทรนด์ของกราฟในช่วง 3 สัปดาห์ย้อนหลัง ที่แม้จะเครื่องไหวแบบ Sideway มาสักพัก แต่เหมือนว่าตอนนี้ทิศทางที่บิตคอยน์กำลังเดินคือ ขาขึ้นอย่างชัดเจน

มีปัจจัยมากมายที่ส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น ทั้งการอ่อนค่าลงของราคาทองคำปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนหลังจากรายงานการจ้างงานในสหรัฐออกมาดีเกินคาด กระตุ้นให้เกิดการเดิมพันว่าเฟดอาจเคลื่อนไหวเร็วขึ้นเพื่อลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรายเดือนมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อรองรับเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตโควิดและอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลเสียต่อทองคำในระยะสั้น ซึ่งนักลงทุนเชื่อว่าเฟดจะลดโครงการ QE ลงในไม่ช้านี้

รวมทั้งการลุ้นให้ วุฒิสภาสหรัฐ ที่กำลังพิจารณาร่างกฎหมายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐ วงเงิน 5.5 แสนล้านดอลลาร์ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมีการระบุถึงการจัดเก็บภาษีกำไรของนักลงทุน ที่เข้าซื้อขายในตลาดสกุลเงินคริปโตฯ เพื่อนำรายได้ดังกล่าวชดเชยค่าใช้จ่ายในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐ โดยจะทำให้ภาพลักษณ์ของคริปโตฯ เป็นสิ่งที่ยกระดับสินทรัพย์ที่กฎหมายรับรองเทียบเท่ากับสินทรัพย์อื่นๆ ซึ่งส่งผลในเชิงบวก

นอกจากนี้นักลงทุนรายใหญ่ๆ ในบิตคอยน์ยังคงถือครองสินทรัพย์ แถมเข้าซื้อเพิ่มมากขึ้นไม่เทขายออก ตามที่ Santiment บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนกล่าวว่านักลงทุนที่ถือครอง Bitcoin ระหว่าง 100 - 10,000 BTC ไม่ได้แสดงสัญญาณการเทขายทำกำไรจากการมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ และขณะวาฬได้สะสมบิทคอยน์ไปแล้วกว่า 9.23 ล้าน BTC ซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่ากับการถือครองครั้งเมื่อบิทคอยน์ทำราคาสูงสุด

แม้จะมีปัจจัยกดดันจากทั้งรัฐบาลจีนที่พยายามกวาดล้างการทำธุรกรรมผ่านเหรียญคริปโตฯ ที่ส่งผลกระทบกดดันต่อราคาของบิตคอยน์ก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนว่าในระยะหลังๆ จะไม่ค่อยกระทบกับราคาให้ร่วงลงหนักเหมือนก่อน ความอ่อนไหวต่อข่าวลบที่กระทบกับราคาเริ่มไม่มีผล นักลงทุนเริ่มย้ายเงินมาเก็งกำไรในคริปโตฯ มากขึ้น เนื่องจากสินทรัพย์อื่นๆ ทั้งหุ้น และราคาทองคำก็ไม่ค่อยจะมีบรรยากาศที่น่าลงทุนนักจากสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีในหลายๆ ประเทศ

อย่างไรก็ตาม การที่บิตคอยน์จะขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 64,000 ดอลลาร์ ได้หรือไม่นั้นยังเป็นสิ่งที่หลายคนลุ้น แต่ทิศทางและแนวโน้มที่ดีขึ้นแบบนี้ หลายฝ่ายต่างก็คาดหวังเป็นธรรมดา แต่ถึงอย่างไรก็ต้องจับตาลงทุนอย่างระมัดระวังเพราะตลาดสามารถผันผวนได้เสมอ