สรุปสาระสำคัญ
- มีหลักฐานบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเพิ่มหรือไม่นั้นคืออัตราการฉีดวัคซีน
- ประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) มีแนวโน้มฟื้นตัวช้าเนืองจากฉีดวัคซีนน้อย
- ไทย คือประเทศที่ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจช้าที่สุดในกลุ่มตลาดเกิดใหม่
- การฟื้นตัวช้าของประเทศไทยจะส่งผลถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาวลดลง
-----------------------------------------------------
บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี ได้มีมุมมองต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยว่า ทางรอดของประเทศคือวัคซีน
... ในช่วงต้นของการฉีดวัคซีนทั่วโลก บทวิจัยพบว่าความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการฉีดกับการเติบโตของเศรษฐกิจหรือผลตอบแทนสินทรัพย์ยังไม่มีนัยสําคัญ
อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์นี้ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก เมื่อเราได้เห็นการเติบโตของเศรษฐกิจและผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงมีความแข็งแกร่งอย่างมาก
และในทางตรงกันข้าม การเติบโตของเศรษฐกิจและผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยงอ่อนแอในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ํา ซึ่งสอดคล้องไปกับรายงาน Markit PMI ที่สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในประเทศพัฒนาแล้ว และลดลงอย่างต่อเนื่องในประเทศตลาดเกิดใหม่ (EM)
แผนภาพแสดงถึงอัตราการฉีดวัคซีน และผลตอบแทนของตลาดหุ้น
ที่มาภาพ : บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี
ที่ผ่านมาธนาคารกลางของประเทศไทย ยังคงมีมุมมองว่าการลดดอกเบี้ย "ไม่ช่วย" การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากนัก แต่การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลัง รวมถึงการบรรเทาหนี้จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
... ปัจจุบันมองว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังนากังวลอย่างมาก "มีเพียงการเร่งฉีดวัคซีน" เท่านั้นที่จะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวในระยะต่อไป ต่อมาคือการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังที่มีประสิทธิภาพ
อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ : บทวิจัยบริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี หัวข้อ "สุดท้ายทางรอดคือวัคซีน"