เคยมีคำกล่าวว่า “ คนจนเล่นหวย...คนรวยเล่นหุ้น” ทำไมคนรวยๆถึงมีหุ้นเป็นจำนวนมาก
อย่างแรกคือ คนรวย มักรวยจากการทำธุรกิจ ซึ่งหนีไม่พ้นการระดมทุน เพื่อหาคนมาช่วยแชร์ความเสี่ยงของบริษัทตัวเอง ฉลาดไหมล่ะ?
มากไปกว่านั้น บริษัทยังได้รับเงินจากนักลงทุนไปบริหารกิจการ ซึ่งในแต่ละปี บริษัทจะจัดตั้งประชุมผู้ถือหุ้น และส่งจดหมายรายงานการประชุม ไปยังบ้านของนักลงทุนทุกท่าน เพื่อแจ้งว่าบริษัทมีนโยบายจัดสรรเงินไปลงทุนในอะไรบ้าง เกิดกำไร หรือขาดทุน เพราะอะไร...
จะเห็นได้ว่า ชีวิตของคนรวย ต่างคลุกคลีอยู่กับกิจการ หุ้นส่วน และการระดมทุน “หุ้น” จึงถูกมองว่าเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ไม่ใช่การพนัน หรือ ลาภลอยจากฟ้า ต่างจากการเล่นหวย ที่เป็นเพียงการลุ้น ว่าเมื่อไรดวงจะดี จะฟลุ๊คได้เงิน ซึ่งนักเล่นหวยก็มีวิธีการคาดเดาในแบบต่างๆ ทั้งบนบาน ขูดต้นไม้ ส่องเลขเด็ด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ตรรกะของการเล่นหวย คือ หลักการทางคณิตศาสตร์ วิชาที่คุณชอบหลับในคาบเรียนนั่นแหละ!.. อิอิ
เพราะความน่าจะเป็นของการถูกรางวัลที่ 1 มีแค่ 1 ในล้าน โดยรางวัลที่ 1 มูลค่า 3 ล้านบาท คำนวณเป็นมูลค่าที่คาดหวัง (Expected value) = 3 บาท นั่นหมายความว่า ถ้าคุณซื้อหวยทุกงวดๆ ตลอดชีวิตคุณ คุณจะได้เงินกลับมาแค่ 3 บาทต่อหวย 1 ใบราคา 80 บาท (เดี๋ยวนี้รัฐเค้าคุมราคาหวยแล้วนะ!)
หรือถ้าคุณเป็นคนที่มักน้อยกว่านั้น คุณอาจจะหวังแค่เลขท้าย 2 ตัว แต่คุณจะยอมโดนหวยกินบ่อยๆ เพราะรางวัลแค่ 2000 บาทเองหรือ?
การเล่นหุ้นต่างจากการเล่นหวยตรงที่ การเล่นหุ้นอย่างถูกต้อง เป็นการลงทุนที่อยู่บนหลักของเหตุและผล นักลงทุนสามารถเลือกกิจการที่ลงทุนและตัดสินใจซื้อขายได้ด้วยตัวเอง โดยกิจการที่ดีจะมีความเสี่ยงที่จะเจ๊งน้อยกว่ากิจการหวือหวา
นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนบางกลุ่มที่เน้นเก็งกำไรบนราคาหุ้น พวกเขาออกมาบอกว่า พวกเขาสามารถจำกัดความเสี่ยงของหุ้น (stop loss) และถือหุ้นตัวที่ราคาวิ่งขึ้น เพื่อลดการขาดทุนให้เหลือน้อยและทำกำไรให้มากที่สุด (let profit run) ซึ่งก็ไม่ใช่การพนันซะทีเดียว เพราะอย่างน้อยเขาก็สามารถควบคุมความเสี่ยงได้ถ้าเล่นหุ้นถูกวิธี
แต่เล่นหุ้นก็ใช่ว่าจะไม่มีความเสี่ยงนะจ๊ะ.. ถ้าไม่ทำการบ้านศึกษาบริษัทมาดีๆ ไปเลือกซื้อหุ้นของบริษัทที่ผู้บริหารตั้งใจมาเพื่อกอบโกยและโกงผู้ถือหุ้น อันนี้อาจจะซวยยิงกว่าเล่นหวยอีก! T___T
เอ้า!!.. ใครอยากเปลี่ยนใจจากเล่นหวยมาเป็นเล่นหุ้นบ้าง ติดตามเราได้ในตอนต่อไป..