#ข่าวหุ้นธุรกิจการลงทุน

NETFLIX ลุยธุรกิจเกม อาจไม่ประสบความสำเร็จ

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
173 views

จากธุรกิจสตีมมิ่งภาพยนตร์ มาสู่ธุรกิจเกม อาจจะดูไม่ง่ายเลยสำหรับ Netflix ถึงแม้เกมจะเป็นตลาดที่ใหญ่ และอาจจะเป็น New S-Curved ให้กับ Netflix ได้ก็จริง แต่ตลาดเกมถ้าไม่ชำนาญจริงๆเหมือนเอา "เงินมาเผาทิ้ง"
- คำแนะนำจากพิธีกร รายการ Business Insider

 

สืบเนื่องมาจากผลประกอบการของ Netflix มีแนวโน้มเติบโตอย่างน่าประทับใจ โดยล่าสุดมีรายได้ 7.35 พันล้านเหรียญ เติบโตมากถึง 19% แต่ถ้าดูยอดลูกค้าใหม่ต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี หรือเพิ่มเพียง 5.5 ล้านราย ในช่วง 6 เดือนแรก ทำให้สื่อหลายสำนัก และนักวิเคราะห์คาดกันว่ายอดผู้ใช้ใหม่อาจจะถึงจุด "อิ่มตัว" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะในอเมริกาและแคนาดาที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ Netflix
... สิ่งที่จะพอเติบโตได้ คือ ลูกค้าทางฝั่งเอเชีย ที่มีกำลังซื้อสูง
แต่นั้นก็ไม่ง่าย เพราะธุรกิจสตีมมิ่งมีอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด เป็นรายใหญ่ และสู้กันด้วยกลยุทธ์ "ราคา" ไม่ว่าจะเป็น Walt Disney ที่เข้ามาขยายฐานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ , HBO ที่มีภาพยนตร์และซีรีย์ระดับ "ขั้นเทพ" อยู่ในมือจำนวนมาก  และทางฝั่งของจีนอย่าง VIU ก็เข้ามาทำการตลาดอย่างหนักในเอเชียด้วยเหมือนกัน ... เรียกได้ว่าไม่ง่ายเลย

ทำให้ Netflix คิดว่า การเข้ามาตีตลาดเกม จะช่วยให้การเติบโตของบริษัทคงอยู่ได้ แต่ Netflix อาจจะคิดผิด
ยังไง ? เดียวจะเล่าให้ฟังครับ  ....

 

การประกาศเข้าสู่วงการเกม์ ของ Netflix ถือว่าเป็นอีกก้าวที่น่าจับตาเพราะอาจช่วยดึงลูกค้าไม่ให้ย้ายค่ายไปที่อื่น และยังเจาะกลุ่มตลาดใหม่ๆได้อีกด้วย

Netflix ชี้แจงว่าในช่วงแรกบริษัทจะโฟกัสไปที่การผลิตเกมมือถือก่อนขยายไปทีวีเกม และคอนโซลเกมต่อไป โดยจะอิงเนื้อหาและแคแร็กเตอร์กับหนังหรือซีรีส์ยอดฮิตที่บริษัทเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เป็นหลัก และในระยะแรกจะเป็นลักษณะ "บริการเสริม" เท่านั้น เพื่อที่จะขยายไปยังบริการหลักในขั้นต่อไป

นักวิเคราะห์จาก Business Insider วิเคราะห์ว่าการที่ Netflix เข้าตลาดเกม มาจาก 2 สาเหตุหลักด้วยกันคือ
1. ต้องการจำนวนลูกค้ามากขึ้น สิ่งสำคัญคื Big Data ของลูกค้าที่ใช้งานแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือด
2. ต้องการบริหารคอนเทนต์ที่ตัวเองเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ เช่น การนำซีรีย์ Stranger Things มาสร้างเป็นเกม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเหมือนอย่างที่ Walt Disney นำเอาภาพยนต์ Star Wars หรือ Marvel มาสร้างเป็นเกม การ์ตูน ของเล่น เป็นการต่อยอดคอนเทนต์ของตัวเอง


นายไมเคิล แพชเตอร์ นักวิเคราะห์จากสถาบัน Wedbush Securities วิเคราะห์ว่า เป็นก้าวที่น่าสนใจของ Netflix แต่ผมมองว่ามันจะล้มเหลวอย่างแน่นอน โดยวิเคราะห์ถึงสาเหตุไว้ว่า


1. มีคู่แข่งจำนวนมาก
ตลาดเกมเป็นตลาดที่ใหญ่ แต่มีความเสี่ยงสูง และผู้เล่นในอุตสาหกรรมมีมากหน้า ต่างก็มีประสบการณ์อยู่ในวงการมานานยังไปแทบไม่รอด เช่น THQ, Midway, Eidos, Atari, 3DO หลายบริษัทปิดตัวไปบ้าง ขายกิจการไปบ้าง
ในขณะที่ Netflix แทบจะไม่มีประสบการณ์ในตลาดเกมเลย

 

ภาพยนต์ของ Netflix เป็นหนังที่ดี แต่การดูหนัง คือ เราจะนำคนดูไปสู่อะไร คนดูไม่สามารถโต้ตอบอะไรกับเราได้ ในขณะที่การเล่นเกม คือ การโต้ตอบกับผู้เล่น ตรงนี้เป็นจุดที่ Netflix ไม่มีประสบการณ์มาก่อน

 

2. บริษัทเทคใหญ่ๆต่างเคยเจ๊งมาก่อน
ก่อนหน้านี้ทาง Google ก็ลงมาเล่นตลาดเกม โดยสร้างเครื่องเล่นเกมที่ชื่อว่า Google's Stadia สร้างเสียงฮือฮาในวงการได้สักพักก็ต้องประกาศปิดตัวไป ทั้งที่ทุ่มเงินไปกว่าหลายร้อยล้านเหรียญในการก่อตั้งสตูดิโอ พัฒนาเครื่องเล่นเกม แต่ยังไม่ทันได้วางขายก็ต้องยกเลิกโครงการไป

ทาง Amazon ก็จะเปิดบริการ Cloud Gaming Service ในชื่อ Amazon's Luna แต่เรื่องนี้ก็เงียบหายไป ยังไม่เห็นข่าวอะไรมาก
หรืออย่างที่ประสบความสำเร็จหน่อยก็คือ Microsoft ที่มีเครื่องเล่นในมืออย่าง "XBOX" ที่เปิดตัวบริการ Xbox game pass จ่ายรายเดือนเล่นเกมแบบไม่จำกัด ถึงแม้ว่า Microsoft จะดึงผู้เล่นมาใช้ Xbox ได้มากขึ้น แต่บริษัทก็ต้องรับผลขาดทุนจากธุรกิจ Xbox game pass ด้วยเหมือนกัน

 

3. เฟรนไชส์เกมใหญ่ๆ คือกุญแจสำคัญ

การทำเกมต้องมี "เฟรนไชส์เกม" ใหญ่ๆมาเป็น Exclusive เพื่อดึงให้คนมาใช้
เจ้าของเกมที่ประสบความสำเร็จ อย่าง Sony ก็มีเกม Exclusive ที่เล่นบนเครื่องเล่นเกม Playstation เท่านั้น หรืออ่ย่าง Nintendo ก็มีมาริโอ้เป็นแม่เหล็กดึงคนมาเล่น ในขณะที่ Netflix แทบจะไม่มีเลย หรือถ้าบริษัทจะขายลิขสิทธิ์ให้ค่ายเกมมาทำก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะประสบความสำเร็จ
... เช่น Disney ไม่ได้มีประสบการณ์ในการทำเกม แต่บริษัทใช้วิธีขายคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็น StarWars หรือ Marvel ให้ค่ายเกมดังๆทำ แต่ส่วนใหญ่มักไมประสบความสำเร็จเท่าที่ควร


นักวิเคราะห์แสดงความเห็นว่า ตอนนี้ธุรกิจเกมของ Netflix ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก แต่การเข้ามาในธุรกิจนี้ถ้าไม่เก่งจริงๆเป็นธุรกิจที่ไม่ทำกำไร แถมยังเป็นการ "เผาเงิน" ทิ้งอีกด้วย
ดังนั้นการเข้ามาในธุรกิจเกมของ Netflix อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ ก็เป็นได้

-------------------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล
BusinessInsider


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง