หากเรายังจำกันได้ เมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว เหตุการณ์คนต่อคิวแย่งกันซื้อทอง จนร้านทองแทบจะระเบิด และการที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศ ต่างแย่งกันซื้อทองมาเก็บเป็นทุนสำรอง จนราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ มาถึงวันนี้สถานะการณ์ของ "ทอง" กลับตาลปัตจนแทบจะกลายเป็นหนังคนละม้วน ทองคำกลับกลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนแย่ที่สุด!
แม้ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่เหตุการณ์ความวุ่นวายต่างๆเกิดขึ้นในโลก ราคาทองก็ยังไม่ได้ขยับขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่ผ่านมาที่ทองคำถือว่าเป็น "สินทรัพย์ปลอดภัย (safe heaven)" ที่เมื่อไหร่ก็ตามเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ การก่อการร้าย หรือเศรษฐกิจโลกอ่อนแอ ราคาทองจะพุ่งขึ้นทันที
หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า "ยุคทองของทองคำ" ได้จบสิ้นลงแล้วหรือ? และในโลกยุคปัจจุบันยังมีความจำเป็นอีกหรือไม่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่ง จำเป็นต้องมีทองคำเก็บไว้ เพื่อค้ำประกันความมั่งคั่งและความมั่นคงของเศรษฐกิจประเทศนั้นๆ
ในอีกขั้วหนึ่ง ฝ่ายที่เชื่อในทฤษฎีแผนการลับ (Conspiracy Theory) ก็เชื่อว่าราคาของทองคำโดนปั่นโดยประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา เพื่อปิดโอกาสไม่ให้ทองคำมาแข่งกับเงินกระดาษอย่างเงินดอลล่าร์ ที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ FED สามารถ "เสก" ขึ้นมาได้กลางอากาศเป็นจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ ตามที่ต้องการ
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ประเทศที่ตั้งตัวเป็น "ศัตรู" กับทองคำอย่างสหรัฐอเมริกา กลับเป็นประเทศที่ถือครองทองคำมากที่สุด! (แต่ก็ยังมีคนสงสัยว่า ทองที่สหรัฐฯอ้างว่าเก็บไว้ในคลัง จริงๆแล้วยังอยู่จริงหรือแอบขายไปจนหมดเกลี้ยงแล้ว?)
เราลองมาดูกันว่า10 อันดับ ประเทศที่ถือครองทองคำมากที่สุดมีประเทศอะไรบ้าง?
ใครที่เชื่อว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และควรมีเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน การมีทองคำติดพอร์ตลงทุนไว้บางส่วน แม้จะทำให้ผลตอบพอร์ตลงทุนของคุณลดลง แต่หากเหตุการณ์วิกฤตเกิดขึ้น นั่นอาจเป็นโอกาสทองของผู้ที่มีทองคำติดปลายนวมไว้เช่นกัน
.. อะไรในโลกนี้ก็เกิดขึ้นได้ เพราะวิกฤติมักจะเกิดในยามที่คนชะล่าใจที่สุด!