เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ไปร่วมงานสัมมนาดีๆ SET in Trend เจาะ Theme หุ้น Post- Pandemic Boom ร่วมกับสุดยอดนักวิเคราะห์ทั้ง 3 ท่าน คือ คุณอั้น ภาดล จากบล.หยวนต้า คุณเพชร วิจิตร จากเมย์แบงก์ กิมเอ็ง และ คุณนิค วีระวัฒน์ จาก ฟินันเซีย ไซรัส โดยมี MJบอยเป็นพิธีกร และมีผมเองนิ้วโป้ง อธิป ไปร่วมสอบถาม และให้ความเห็นในมุมมองนักลงทุนรายย่อย
ตลอดการสัมมนา 1.5 ชั่วโมง มีประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจมากมาย ขอสรุปประเด็น ตามนี้ครับ
ช่วงที่ 1 : ช่วงพูดคุย MJ บอย และนิ้วโป้ง อธิป
นี่คือซีรีย์สัมมนาการลงทุนที่ตลาดหลักทรัพย์จัดเพื่อรอการ Reopening แม้ว่าก่อนงานจะเริ่ม 1 วัน ก็มีประกาศล็อคดาวน์ออกมาพอดี และก่อนงานจะเริ่มไม่กี่ชั่วโมง ก็มีมิตรรักแฟนเพจแซวผมมาขำๆว่า “ จัดธีม Reopening ในวันที่คำสั่ง Re-Lockdown เพิ่งจะออกมาเลยนะ ”
อันนี้ ก็จริงครับ เดิมทีเรามองการ Reopening ของเศรษฐกิจไทยและการลงทุนไทยในครึ่งปีหลังกันอย่างเต็มที่ แต่ในวันนี้ภาพนั้นอาจจะเลื่อนออกไป ... แต่ภาพยังไม่ได้เปลี่ยนไป ธีม Reopening (หรือบางคนเรียก Recovery) จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน จะช้าจะเร็วเท่านั้นเอง สิ่งนี้ถูกพิสูจน์ผ่านนานาประเทศที่จัดการโรคระบาดและบริหารวัคซีนได้ดี ว่าตลาดหุ้นเขาฟื้นล่วงหน้า และเศรษฐกิจฟื้นตามมา และผู้คนก็เริ่มใช้ชีวิตปกติกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น จีน, สหรัฐอเมริกา, ไต้หวัน, ยุโรป หรือ แม้แต่ประเทศอินเดียที่เคยมีการระบาดที่รุนแรงที่สุดในโลกเมื่อ 2 เดือนก่อน ก็มีแนวโน้มคุมการระบาดดีขึ้น(จากติดวันละ 4 แสน เหลือ 4 หมื่นราย) ตลาดหุ้นอินเดียก็ยังฟื้นตัวเดินหน้าได้ ... และผมเชื่อว่า ของไทยก็เช่นกัน จะช้าจะเร็วเท่านั้น
- ใครที่ถือหุ้นดี ธีมReopening ไว้เต็มพอร์ตแล้ว ไม่มีเงินเติม ... ถือข้ามรอบไปครับ
- ใครที่ยังมีเงินเติม ... ท่านโชคดีมาก ตั้งแต่ปลายเดือนนี้ ถึงกลางเดือนสิงหา งบไตรมาส 2 จะทยอยออกมา เลือกหุ้นที่ทนทานผ่านวิกฤต เมืองจะเปิดหรือปิดก็ฟื้นตัว หรือจะเน้นตัวที่จ่ายปันผลสูง ตอนนี้หุ้นดีจ่าย 4%up มีไม่น้อยครับ
ช่วงที่ 2 : ช่วงคุณอั้น ภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
คุณอั้นแนะนำ 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มโรงพยาบาล และ กลุ่มสื่อสาร
[1] กลุ่มโรงพยาบาล
-> ปีที่แล้วโรงพยาบาลไทยเจอผลกระทบจากโควิดและการปิดประเทศ เพราะลูกค้าต่างชาติหาย โดยเฉพาะตัวที่พึ่งพารายได้จากต่างชาติจะโดนกดดันเป็นพิเศษ ตั้งแต่ปี 2564 โรงพยาบาลไทยก็เริ่มมีผลประกอบการที่ฟื้นตัวขึ้น มีรายได้ทั้งจากการตรวจโควิด คนติดโควิด คนต้องการแอดมิด และบางแห่งยังมีรายได้จากวัคซีนทางเลือก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ที่จะถึงนี้
-> แนวโน้มกำไร ไตรมาส 2 ปี 2564 โรงพยาบาลที่เน้นลูกค้าไทย กำไรน่าจะโตเด่น โดยเชื่อว่าหลังการล็อคดาวน์ในเดือนกรกฏาคมนี้ สถานการณ์โควิดน่าจะบรรเทาลงในช่วงปลายไตรมาส 3 จนถึงปลายปี
-> ในปี 2565 กลุ่มโรงพยาบาลจะมีภาพที่เป็นบวกมากขึ้น จะมี Pent-up demand (ความต้องการที่อั้นมาจากการเลื่อนการรักษา) ทั้งคนไทยและต่างชาติ มี demand trend ที่ชัดเจน อีกทั้งประเทศไทยยังมีสัดส่วนของ “ประกันสุขถาพ” ที่ต่ำมาก ประเด็นนี้เครือโรงพยาบาลใหญ่แบบ BDMS มีโอกาสได้รับประโยชน์สูง นอกจากนี้เทรนด์ Aging Society ก็มาแล้วโดยโรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มจับเทรนด์นี้จริงจัง เช่น THG ทำ Jin Well Being ที่เป็นที่พักและดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ และ BDMS ก็มีการเปิดบริการทั้ง Wellness และจับกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
-> โรงพยาบาลเป็นธุรกิจที่มีปัจจัยบวกเยอะมากทั้งการขยายตัวชุมชนเมือง การรักษาโรคที่มีความซับซ้อน โรคระบาด และคนไข้ต่างชาติที่จะมากขึ้นในอนาคต ในขณะที่เกือบทุกโรงพยาบาลมีการบริหารโครงสร้างต้นทุนให้ลีน(Lean Management)จริงจังมากขึ้นในช่วงโควิด โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่มีเครือข่าย และเมื่อใช้ Scorecard ในการหาหุ้นร.พ. และ Criteria ต่างๆ ตัวที่น่าสนใจคือ EKH BDMS IMH
[2] กลุ่มสื่อสาร
-> กลุ่มสื่อสาร คือบริการที่จำเป็นของผู้คนในยุคนี้ นี่คือหุ้นปัจจัยที่ 5 มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิต ตลาดมีผู้เล่นน้อยราย มีรายได้และมีกำไร ซึ่งหุ้นทุกตัว ADVANC DTAC TRUE ต่างก็โดนผลกระทบจากวิกฤตโควิดเช่นกัน แม้ว่าประเทศไทย GDP ติดลบ แต่ตลาด Telecom ยังติดลบน้อยกว่า สะท้อนการเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ 5 ในการใช้ชีวิต เป็นจุดเด่นสาคัญของอุตสาหกรรม
-> รายได้ของตลาดโดยรวมราว 3% มาจาก 1)Tourism SIM หรือ Prepaid SIM ระยะสั้น ที่เกิดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือนักธุรกิจ เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยและเปิดใช้งาน และ 2) รายได้ International Roaming จากนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเปิดใช้งานโครงข่ายที่ต่างประเทศ ดังนั้นหากการเดินทางระหว่างประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติ มูลค่าตลาดของกลุ่ม สื่อสารจะทยอยปรับเพิ่มขึ้น เพราะได้รับประโยชน์ หากเกิดการเปิดประเทศ
-> ตลาดเน็ตบ้าน (Fix Broadband) ยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง และบางรายให้บริการเสริมเพิ่มด้วย เช่น Disney Plus ซึ่งสามารถช่วยรักษาฐานลูกค้าเดิม เพิ่มลูกค้าใหม่ และเป็นช่องทางหารายได้เพิ่ม
-> ในกลุ่มสื่อสารนี้ กำลังเทรดที่ราคาถูกเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง โดย ADVANC เทรดที่ -2SD และ DTAC เทรดที่-1SD ทั้งสองตัวให้ปันผลสูง แนะนำ ADVANC
รักษาสุขภาพ และขอให้โชคดีในการลงทุนทุกท่านครับ