เราเคยสงสัยไหมว่า "เพศ" มีผลต่อการลงทุนให้ประสบความสำเร็จด้วยหรือไม่ ?

เราอาจจะบอกว่าการลงทุนให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องอาศัยแนวคิดทางการลงทุนที่ถูกต้อง การบริหารเงินหน้าตัก รวมถึงวินัยทางอารมณ์ แต่รู้หรือไม่ว่า "เพศสภาพ" ก็มีผลต่อการลงทุนด้วยเช่นเดียวกัน

ต้องย้อนความไปตั้งแต่สมัยเกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ การเกิดวิกฤตครั้งนี้ทำให้สังคมเริ่มมอง "ผู้หญิง" ในมุมมองใหม่ เปิดโอกาสให้มีหน้าที่การงานที่สูงขึ้น ผู้หญิงมีความสามารถ มีการศึกษามากขึ้น ก็อยากจะประสบความสำเร็จไม่แพ้ผู้ชาย
ว่ากันว่าในปี 2005 สัดส่วนผู้หญิงต่อผู้ชายที่จบปริญญาโทมีสัดส่วน 60 : 40
และในปี 2009 ก็เป็นครั้งแรกที่นักศึกษาหญิงที่จบปริญญาเอก มากกว่านักศึกษาชาย ข้อมูลนี้เองแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงจะมีอิทธิพลในแวดวงต่างๆมากขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต

แล้วในเรื่องของเศรษฐกิจและการลงทุนละ ?
เคยมีบทวิจัยเรื่อง Gender, Overconfidence and Common Stock Investment หรือเพศสภาพ ความมั่นใจ และการลงทุนในหุ้นสามัญ ในนิตยสาร Quarterly Journal of Economics ได้ทำการสำรวยบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างเพศชายและเพศหญิง เป็นเวลา 5 ปี เพื่อดูสภาวะทางอารมณ์จาก "ความถี่" ในการส่งคำสั่งซื้อขาย และ "ผลตอบแทน" ที่ได้รับ  
... สรุปสาระสำคัญได้แบบนี้ครับ

1. วิจัยชี้ว่า ผู้ชายซื้อขายหุ้น "ถี่กว่า" ผู้หญิง ถึง 45% นี้เป็นสถิติที่เกิดขึ้นสำหรับคนที่มีครอบครัว แต่ถ้าเป็นหนุ่มโสดและสาวโสด ปรากฏว่าหนุ่มโสดจะซื้อขายมากกว่าสาวโสดถึง 67% !!

2. ผลตอบแทนของผู้ชายจะน้อยกว่าผู้หญิง เฉลี่ย 1.72% เท่ากับว่าซื้อขายบ่อยกว่า ขยับตัวมากกว่า แต่ได้ผลตอบแทนน้อยกว่า

ในขณะที่หนุ่มโสดจะได้ผลตอบแทนน้อยกว่าสาวโสดถึง 2.65% เลยทีเดียว

3. วิจัยแสดงความเห็นว่า สาเหตุที่ผู้ชายมีภรรยาแล้วจะซื้อขายน้อยกว่าหนุ่มโสด เพราะภรรยามักจะ "ห้ามปราม" สามีบ่อยครั้ง และตำหนิต่อพฤติกรรมการลงทุนของสามีอยู่เสมอ ทำให้ผลตอบแทนของผู้ชายที่มีภรรยาแล้วจะสูงขึ้นนั้นเอง ... (แต่ก็เป็นเรื่องบังเอิญอยู่ดี)

4. วิจัยสรุปว่าสาเหตุที่ทำให้ผลตอบแทนของผู้ชายแย่กว่าผู้หญิงมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ
>>> การซื้อขายที่ถี่เกินไป คือผู้ร้ายในการลงทุน เพราะข้อมูลตรงกันว่าทั้งชายและหญิง ถ้าซื้อขายบ่อยครั้งผลตอบแทนจะลดลง แต่ผู้หญิงจะซื้อขายน้อยกว่า ทำให้ผลตอบแทนโดยรวมมากกว่าผู้ชายนั้นเอง

>>> สาเหตุที่ผู้หญิงทำผลตอบแทนได้มากกว่าผู้ชาย ไม่ใช่ว่าผู้หญิงดูกราฟเก่งกว่า เลือกหุ้นได้เก่งกว่า แต่จากการสัมภาษณ์พบว่า ผู้หญิงเหล่านั้นเมื่อเจอกับสถานการณ์ที่ "ไม่รู้" พวกเธอมักจะอยู่เฉยๆมากกว่า นี้เป็นเรื่อบังเอิญที่ผู้หญิงจะดูใจเย็นกว่าผู้ชาย เธอเลือกที่จะไม่ "Take Action" ในขณะที่ผู้ชาย ทำลงไปทั้งที่ตัวเองไม่รู้สถานการณ์ตอนนั้นดีพอ

ตัวอย่างเช่น ถ้าเจอช่วงที่หุ้นตกแรงๆ ผู้ชายมักเลือกที่จะขายหุ้นทิ้งไป ในขณะที่ผู้หญิงเลือกที่จะปิดจอ ออกจากบ้าน ไปพบปะเพื่อน เลี้ยงลูก ทำงานบ้าน เป็นต้น  ... สภาวะอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญ

ท้ายของบทความนี้สรุปว่า พวกผู้ชายคิดว่าพวกเขา "รู้" มากกว่าที่พวกเขารู้ (Overconfidence) จึงพยายามทำในสิ่งที่ไม่รู้ ในขณะที่ผู้หญิงยอมรับว่าพวกเธอไม่รู้สิ่งที่เธอไม่รู้ และพร้อมจะอยู่นิ่งๆมากกว่า

นอกจากนี้ยังมีข้อคิดเห็นอื่นๆอีกเชน ในพอร์ตของผู้ชายมักจะมีหุ้นที่เสี่ยงกว่าในพอร์ตของผู้หญิง เช่น ผู้ชายมักจะเลือกหุ้นขนาดเล็กที่วิ่งเร็ว วิ่งแรง กล้าได้กล้าเสีย ในขณะที่ผู้หญิงจะเลือกหุ้นในกลุ่มดัชนีดาวโจนส์ หุ้นที่พื้นฐานดีมีปันผล
ข้อนี้จึงสรุปได้ว่า ผู้ชายเปิดรับความเสี่ยงมากกว่า เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่มากกว่า (ถึงแม้ความเป็นจริงจะน้อยกว่าก็ตาม)

นี้ก็เป็นบทวิจัยที่อยากนำมาเล่าสู่กันฟังครับ ...