#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

นักวิเคราห์มองอย่างไรจากดีล MAJOR ขายหุ้น SF ให้ CPN

โดย วัชราทิตย์ เกษศรี
เผยแพร่:
246 views

หลังจากที่ บมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ได้แจ้งกับทางตลาดลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่าได้ลงนามบันทึกความเข้าใจในการขายหุ้น 30.36% (หรือ 647,158,471 หุ้น) ของบริษัท Siam Future Development (SF) ที่ราคา 12 บาทต่อหุ้นให้กับ Central Pattana (CPN) โดย MAJOR จะได้รับเงินสดจากการขายหุ้น 7,700 ล้านบาท MAJOR จะจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 27 สิงหาคม 2564 เพื่อขออนุมัติดีลนี้ บริษัทคาดว่าดีลนี้จะแล้วเสร็จใน 31 สิงหาคม 2564 โดย MAJOR เปิดเผยว่า 68% ของเงินที่ได้จากการขายหุ้นจะใช้ในการจ่ายหนี้สินที่มีดอกเบี้ย 28% สำหรับเงินทุนหมุนเวียน และส่วนที่เหลือสำหรับการขยายกิจการ บริษัทยังระบุว่าจะมีกำไรหลังหักภาษี 2.8พันลบ. (หรือ 3.16บาทต่อหุ้น) จากการขายหุ้น SF นักวิเคราะห์ได้มีมุมมองต่อดีลนี้อย่างไร
.
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า การประกาศดีลนี้สร้างความประหลาดใจไม่มากทั้งในแง่ดีลและราคาขาย โดยมองดีลนี้เป็นดีลที่ดีของ MAJOR จากสถานการณ์ปัจจุบัน เชื่อว่าเหตุผลในการขายหุ้นของ MAJOR คือ i) SF ไม่ใช่พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ MAJOR ในการขยายกิจการ เนื่องจากการขยายของ SF เน้นไปในพื้นที่ต่างจังหวัดมากกว่ากรุงเทพฯ เนื่องจากมีจำนวนจอภาพยนตร์น้อย ดังนั้นพันธมิตรหลักในปัจจุบันเป็น BigC, Lotus, และกลุ่ม Central; ii) บริษัทสามารถสร้างกำไรจากการขายหุ้น; iii) จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ Covid-19 เป็นเรื่องที่ดีกว่าหาก MAJOR อยู่ในสภาพปลอดหนี้และสำรองสภาพคล่องด้วยการถือเงินสด ผลกระทบต่องบกำไรขาดทุน บริษัทจะเสียส่วนแบ่งกำไร 600 ล้านบาทต่อปีจาก SF แต่สามารถประหยัดต้นทุนดอกเบี้ยประมาณ 150 ล้านบาท จากการจ่ายคืนหนี้ ทำให้กำไรปี 2565 ลดลง 37% ก็จะทบทวนประมาณการอีกครั้งหนึ่ง
.
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เข้าซื้อหุ้น บมจ.สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ (SF) สัดส่วน 30.4% จากบมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ด้วยเงินลงทุน 7,800 ล้านบาท และต้องทำ Tender Offer ในช่วงปลายไตรมาส 3-4 ปี 64 มองเป็นบวกต่อดีลนี้ เนื่องจากเป็นการขยายเข้าสู่ Strategic Location ใหม่ฝั่งกรุงเทพฯตะวันออก Margin ของ SF อยู่ในระดับสูง รวมถึงทำให้ประมาณการกำไรของ CPN มี Upside ราว 5-9% โดยยังคงราคาเป้าหมาย 64 บาท
.
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน วิเคราะห์ว่าการที่ CPN ประกาศซื้อหุ้นสัดส่วน 30.36% ใน SF (จาก MAJOR) ที่ราคา 12.0 บาท/หุ้น คิดเป็นเงินลงทุน 7,800 ล้านบาท ในขณะเดียวกันประกาศทำ tender offer ส่วนที่เหลือที่ราคา 12.0 บาท/หุ้น เช่นกัน ซึ่งหากทำ tender offer ได้ทั้งหมดต้องใช้เงินอีกราว 17,800 ล้านบาท แหล่งเงินทุนมาจากการกู้เป็นหลัก โดยฐานะการเงิน CPN ไม่มีปัญหา ปัจจุบัน net IBD / E อยู่ที่ 0.42 เท่า ซึ่งถ้าเทียบเป้า net IBD / E target ที่ 1.0-1.5 เท่า ยังเหลือ room การกู้ได้ราว 50,000-90,000 ล้านบาท มีมุมมองเป็นบวกต่อ CPN หลังราคาซื้อสมเหตุสมผล และมีโอกาสสร้าง Synergy ได้ในระยะยาว แต่ระยะสั้นยังมีแรงกดจากโควิด-19 ต่อฐานกำไรในไตรมาส2-3 ปีนี้
.
หุ้น MAJOR ราคาร่วงลง 6.14% มาอยู่ที่ 23.70 บาท ลดลง 1.55 บาท มูลค่าซื้อขาย 37.55 ล้านบาท เมื่อเวลา 9.56 น. โดยเปิดตลาดที่ 23.60 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 23.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 23.60 บาท
.
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ฯ"ขายทำกำไร"หุ้น บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) จากที่การขายหุ้น บมจ.สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ (SF) ออกไป จะทำให้ส่วนแบ่งกำไรจาก SF หายไปราวไตรมาสละ 100 ล้านบาท แต่ได้กระแสเงินสดเข้ามาหล่อเลี้ยงกิจการในช่วงที่ไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติ รวมถึงช่วยลดภาระดอกเบี้ย ประเมินว่า ดีลนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าแก่ MAJOR ราว 5 บาท และช่วยพลิกให้ MAJOR กลับมามีกำไรได้ในไตรมาส 3/64 และทำให้ทั้งปี 64 สามารถมีกำไรได้ ขณะที่ราคาปัจจุบันได้ปรับตัวขึ้นมาสะท้อนมูลค่าพื้นฐานของ MAJOR ที่รวมดีลนี้ ที่ 25 บาท แล้ว
.
เนื่องจาก MAJOR มีราคาต้นทุนเฉลี่ย SF ที่ 6.88 บาทต่อหุ้น การขายหุ้น SF ทั้งหมด จะทำให้ MAJOR รับรู้กำไรราวหลังหักภาษีราว 2,824 ล้านบาท (รวมหักกลบเครดิตภาษีจากขาดทุนที่เกิดขึ้นในช่วงผ่านมาด้วย) คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 3.16 บาท ขณะที่คาดว่า MAJOR จะได้รับเงินสดสุทธิหลังหักภาษีราว 6,000 ล้านบาท เข้ามาช่วยภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และใช้คืนเงินกู้ยืมจากธนาคารได้บางส่วน
.
ทั้งนี้ บล.กรุงศรีคำแนะนำให่นักลงทุน ถือหุ้นและราคาเป้าหมายที่สูงขึ้นที่ 25 บาท เพื่อสะท้อนกำไร 3 บาทต่อหุ้น จากการขายหุ้น SF คำแนะนำ ถือ เป็นผลจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาได้สะท้อนปัจจัยบวก รวมถึงการขายหุ้น SF จึงไม่เหลืออัพไซด์ต่อราคาเป้าหมาย


ประวัตินักเขียน : 10 ปี ในอาชีพผู้ประกาศข่าว ผู้สื่อข่าว และครีเอทีฟโปรดิวเซอร์รายการทีวี สิงสถิตสายเศรษฐกิจมหภาค อาเซียน และต่างประเทศ จากกรุงเทพธุรกิจทีวี NOW26 NEW18 GMM25 JKN-CNBC และ NBT WORLD

ผู้ก่อตั้งเพจและเว็บไซต์ Reporter Journey ที่มีผู้ติดตามทุกแพล็ตฟอร์มกว่ากว่า 250,000 คน

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง