ดูเหมือนว่าจะพยายามฟื้นแต่ก็ไม่ฟื้นสักทีสำหรับหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ค่อนข้าง Underperform มาโดยตลอด ถึงแม้ว่ามูลค่าหุ้นของกลุ่มจะค่อนข้างถูก ปันผลที่สูง แต่ถ้าปัญหาทางด้าน COVID-19 ไม่จบ ราคาหุ้นก็ยังโดนกดดันต่อไป
ปัญหาล่าสุด คือ การระบาดโควิดรอบใหม่ที่ดูเหมือนจะรุนแรงกว่าเก่า เป็นปัญหาที่แบงก์จะต้องตั้งสำรองกันต่อไปเพื่อรองรับความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้น
บทวิเคราะห์ SCBS วิเคราะห์ว่ากำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารจะลดลง 4%QoQ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น โดยแบ่งเป็น
1. BBL จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 5.85 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 89%YoY เนื่องจากการตั้งสำรองลดลง YoY และ NII ที่สูงขึ้น (ซึ่งเป็นการรับรู้จาก Permata) แต่กำไร 2Q64 ลดลง 16%QoQ จากการตั้งสำรองที่สูงขึ้น QoQ และ NII ที่ทรงตัว
2. KTB จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 5.16 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 37%YoY เนื่องจากการตั้งสำรองลดลง YoY แต่กำไร 2Q64 ลดลง 8%QoQ จากการตั้งสำรองที่สูงขึ้น QoQ
3. KBANK จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 9.50 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 337%YoY เนื่องจากการตั้งสำรองลดลง YoY NII สูงขึ้น YoY และ OPEX ลดลง YoY แต่กำไร 2Q64 ลดลง 11%QoQ จากการตั้งสำรองที่สูงขึ้น QoQ
4. BAY จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 1.06 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 63%YoY แม้การตั้งสำรองจะสูงขึ้น YoY แต่มีการรับรู้กำไรจากเงินลงทุนใน TIDLOR ขณะที่กำไร 2Q64 ลดลง 63%QoQ จากการตั้งสำรองที่สูงขึ้น QoQ
5. TTB จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 2.03 พันล้านบาท ลดลง 34%YoY เนื่องจากการตั้งสำรองสูงขึ้น YoY และมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการควบรวมกับ TBANK ขณะที่กำไร 2Q64 ลดลง 27%QoQ จากการตั้งสำรองที่สูงขึ้น QoQ และมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการควบรวมกับ TBANK เช่นกัน
6. TISCO จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 1.61 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%YoY จากการตั้งสำรองที่ลดลง YoY และ OPEX ที่ลดลง YoY ขณะที่กำไร 2Q64 ลดลง 8%QoQ จาก Non-NII ที่ลดลง QoQ
7. KKP จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19%YoY จาก OPEX ที่ลดลง YoY ขณะที่กำไร 2Q64 ลดลง 3%QoQ แม้การตั้งสำรองจะลดลง QoQ แต่ OPEX สูงขึ้น เพราะมีผลขาดทุนจากการขายรถยึด
บทวิเคราะห์ มองว่ากำไรสุทธิทั้งปีของ 2564 จะโดนกดดันแต่ไม่น้อยไปกว่าปี 2563 และภาพของการฟื้นตัวจะอยู่ในปี 2565 ที่จะเติบโตประมาณ 8% YoY จากการตั้งสำรองลดลง แต่จะถูกกดดันจากการปรับอัตราการนำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ เพิ่มขึ้น 23 bps สู่ระดับปกติที่ 0.46%
ตอนนี้นักลงทุนที่ยังลงทุนในหุ้นแบงก์ อาจจะต้อง "รอ" กันไปก่อนครับ ...