#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

โอกาส...where are you?

โดย อธิป กีรติพิชญ์
เผยแพร่:
183 views

วิกฤตตลาดหุ้นเกิดขึ้นครั้งใด ก็จะนำมาซึ่งโอกาสการลงทุนมากมายในทุกรอบ 

 

2540 วิกฤตต้มยำกุ้ง 

"หุ้นส่งออก" มาเต็มๆ เพราะเงินบาทอ่อนค่า หุ้นส่งออกอาหารทะเล ห้องเย็น อาหาร ฯลฯ และสารพัดกลุ่มตีฟื้นคืนชีพ ตั้งแต่ปี 2545 จากการฟื้นของประเทศไทยหลังวิกฤต เติบโตไปอีกหลายปี พร้อมๆกับการมาของ กลุ่มพี่ใหญ่ PTTและครอบครัว, กลุ่มสื่อสาร(หุ้นโทรศัพท์มือถือ) และ กลุ่มค้าปลีก (Modern Trade และ ร้านสะดวกซื้อ)

 

2551 วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์

  • โอกาสมาที่หุ้นสารพัดกลุ่ม เพราะดัชนีลงเร็วและแรง จาก 700 ไป 380 ภายในปีแรก 

  • ปีถัดมา ได้เวฟใหญ่ของนโยบาย QE และการกดดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งเศรษฐกิจไทยขาขึ้น พร้อมกับการเติบโตมหัศจรรย์ของการท่องเที่ยวไทย หุ้น AOT MINT CENTEL หุ้นห้างสรรพสินค้า หุ้นสายการบินโลว์คอสต์ ยิงยาวไปสู่ขาขึ้นของ"หุ้นอสังหาฯ" PS LH LPN SPALI โดยเฉพาะคอนโดมีเนียมที่ขายดีระดับใบจองยังขายได้

 

  • เพิ่มเติมด้วยการเติบโตอีกระดับของหุ้นสื่อสารโทรศัพท์มือถือ จากการออกจากระบบสัมปทานไปสู่ระบบใบอนุญาต โดยเฉพาะADVANC DTAC INTUCH  และการเติบใหญ่ในอัตราเร่งของ "หุ้นค้าปลีก" CPALL BIGC MAKRO HMPRO 

 

2554 ไตรมาสสาม น้ำท่วมใหญ่

หุ้นย่อจากพันกว่าจุด ลงไปเหลือ 850 จุด เปิดแกปให้สารพัดกลุ่ม โดยเฉพาะหุ้นอสังหาฯ หุ้นคอนโด ตลาดอสังหาฯ กลุ่มค้าปลีก Home Improvement อย่าง HMPRO GLOBAL เติบโตมากๆหลังจากนั้นไปอีกหลายปี และยังเป็นช่วงการแจ้งเกิด "หุ้นโรงไฟฟ้า" แบบใหม่ ที่ปกติเล่นกันแค่ EGCO RATCH GLOW คราวนี้เข้ามาเป็นสิบตัว ทั้งไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ไฟฟ้าพลังน้ำ ไฟฟ้าพลังงานลม โรงไฟฟ้าใหม่ ต่อเนื่องมาถึง BGRIM และ GULF ที่ใหญ่โตมาจนทุกวันนี้

 

2563 โควิด

ตลาดย่อหนัก จาก 1600 เหลือ 970 ต้องใช้เวลา 1 ปีกว่า เพื่อกลับมาสู่จุดเดิม แต่หุ้นที่ขึ้นมาดันตลาด ไม่ได้กลับมาทุกตัว 

 

ต้องยอมรับว่าตลาดบิดเบี้ยว เพราะการที่ดัชนีดันกลับขึ้นมา เกิดจากการเพิ่มมูลค่ามหาศาลของหุ้นบางตัวบางกลุ่ม เช่น กลุ่มอิเลคทรอนิคส์ และอีกสารพัดหุ้น IPO mega cap แสนล้านที่เข้ามาหลายตัว เช่น หุ้น OR Market Cap 3.63 แสนล้าน หุ้น TIDLOR Market Cap 1.01 แสนล้าน เป็นต้น ทำให้ดัชนีที่ดูเหมือนฟื้น แต่กลับมีหุ้นหลายกลุ่มยังถูกทิ้งร้างนอนก้น

 

2564 โอกาสอยู่ไหน

ก่อนอื่นนักลงทุนต้องกล้ามองข้ามวิกฤต ไม่มองแง่ร้ายจนเกินไป มองเห็นความจริงที่ว่า โลกหลังโควิดนั้นมีอยู่จริง

 

และประเทศไทย ควรมีตัวเลขเศรษฐกิจกลับไปสู่ช่วง Pre Covid มีการท่องเที่ยวที่กลับมา มีการเดินทาง บริโภคใช้จ่าย ที่กลับมา เหมือน .. 2562 ซักประมาณปีหน้าเป็นต้นไป 

 

ถ้าหุ้นคือดัชนีชี้วัดล่วงหน้า 6-12 เดือน หมายความว่า ..."หุ้นดีที่ถูกกระทบจากโควิด" แล้วราคายังแย่ในระดับโควิดระบาดรอบแรก SET อยู่ที่ 1000 จุด เดือนมีนาคม ปี 63 อยู่นั้น มีความเป็นไปได้ว่า นั่นคือโอกาส 

 

ตัวอย่างที่ 1 หุ้นกลุ่มสื่อสาร ... สังเกตที่แนวเส้นตั้งสีเขียว ราคาหุ้นสื่อสารเกือบทุกตัวที่ยกตัวอย่างมา มีราคาปัจจุบันพอๆกันกับช่วงมี.. 63 ทั้งที่งบการเงินและผลการดำเนินงานของหุ้นบางตัว ไม่เคยขาดทุน และยังคงจ่ายปันผลได้ 

 

 

ตัวอย่างที่ 2 กองรีทและอินฟราฟันด์ ... สังเกตที่แนวเส้นตั้งสีเขียว เทียบกับราคาปัจจุบัน เกือบทุกตัวราคาปัจจุบันยังต่ำกว่าราคาในช่วงมี.. 63 ทั้งที่งบการเงินและผลการดำเนินงานของหุ้นหลายตัว ไม่เคยขาดทุน และยังคงจ่ายปันผลได้ 

 

 

มาดูกรณีที่ราคาสะท้อนความคาดหวังการฟื้นตัวไปแล้วบ้าง 

 

ตัวอย่างที่ 3 หุ้นท่องเที่ยว สนามบิน โรงแรม สายการบิน ... สังเกตที่แนวเส้นตั้งสีเขียว เทียบกับราคาปัจจุบัน หุ้นท่องเที่ยวทุกตัว ราคาปัจจุบันปรับตัวสูงกว่าราคาในช่วงมี.. 63 สะท้อนความคาดหวังล่วงหน้า (ซึ่งไม่เกิดกับตัวอย่างที่ 1 และ 2) ทั้งที่งบการเงินและผลการดำเนินงานของหุ้นเกือบทุกตัวในปีที่ผ่านมาขาดทุน และยังต้องอาศัยเวลาในการฟื้นตัวจริงๆอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่จะสะท้อนเข้ามาในงบการเงิน ซึ่งก็ยังต้องติดตามผลการดำเนินงานต่อไป

 

 

ลองคิดดูว่า ถ้า SET ปรับตัวเพิ่มมาได้ +60% จาก มี.. 2563 1000 จุด เพิ่มมาที่ 1600 กว่าจุด ในวันนี้ แต่ยังมีหุ้นพื้นฐานดี ที่ถูกกระทบจากโควิด ซึ่งพร้อมจะกลับมาได้หลังการเปิดเมือง ราคายังคงต่ำกว่า หรือ เท่ากับเดือนมี.. 63 แปลว่านั่นคือกลุ่ม Laggard ครับ

 

 

===================================================

:+:  สอนมือใหม่ลงทุนหุ้นเป็นใน 1 วัน :+: 

หลักสูตรเตรียมความพร้อม สู่การเป็น นักลงทุนในตลาดหุ้น

สำหรับ "นักลงทุนหุ้นมือใหม่" และ "ผู้สนใจเริ่มลงทุนหุ้น"

ที่อยากให้เริ่มต้นอย่างถูกต้อง ลงทุนได้อย่างถูกทาง

ดูรายละเอียด คลิก


เจ้าของหนังสือ Best Seller “ติวหุ้น รวยด้วยวีไอ” และยังเป็นวิทยากรคอร์ส “ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐานแบบ Value/Growth Investor” ด้วยประสบการณ์ในตลาดทุนกว่า 17 ปี และประสบการณ์ในการเป็นติวเตอร์ บวกกับความเป็นคนอารมณ์ขัน  ทำให้คุณนิ้วโป้งสามารถถ่ายทอดเรื่องยาก อย่างการลงทุน ให้เข้าใจได้ง่าย และยังใช้ภาษา ลีลาที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงทำให้ได้รับเชิญไปบรรยายในงานต่างๆ มากมาย

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง