เรื่องเหลือเชื่อเกี่ยวกับเรื่องเงินประการหนึ่ง
คือ ในโมงยามแห่งวิกฤต และความไม่แน่นอนของอาชีพการงานและการเงินแบบนี้
ก็ยังมีผู้คนจำนวนหนึ่ง พยายามจะเป็นหนี้ก้อนใหญ่
ด้วยความจำเป็น หรือด้วยความอยาก
ต้องถามใจตัวเองดีๆ
นาทีนี้ ถามจริงๆ
เรายังให้ราคากับหน้าตาทางสังคม
มากกว่าสภาพคล่อง ของเงินในกระเป๋า กันอีกหรือ
>> ทำงานมีบ้านอยู่ดีๆ .... ก็จะไปกู้ซื้อบ้านใหม่
>> ทำงานมีรถขับอยู่ดีๆ ... ก็จะไปกู้ซื้อรถใหม่
แล้วซื้อแบบธรรมดาโลกไม่จำ
ต้องซื้อแบบพิเศษใส่ไข่ แบบที่ใครเห็นต้องอิจฉา
บอกว่า ซื้อของแพงนาทีนี้คุ้ม เพราะได้ “ลดราคาเยอะดี” ...ผมซื้อดีไหมพี่? … มันดีอย่างนี้ ดีอย่างนั้น
อ่ะ ถามมา พี่ก็ขอตอบจากใจ
แหม่... รถหรู คอนโดหรู ตอนนี้เขาขายไม่ดี
คนขายก็ลดราคาหน่ะถูกแล้ว
แต่เราก็ต้องดูกล้ามเนื้อทางการเงินของเราด้วย
ว่าจะแบกน้ำหนักไหวไหม...แบกแล้วยืนระยะอยู่ไหม
ถ้าแบกแล้ว เกร็งสั่นทั้งตัว กินข้าวไม่อร่อย นอนไม่หลับ แบบนั้นเรียกว่าการเงินตึงตัวครับ
รถหรู คอนโดแพง นี่มันหนี้ก้อนโต
จะยิงยาวไปอีกนานด้วย
ช่วยใจเย็นๆก่อน มันคุ้มจริงไหม
ลองถอดเรื่อง “หน้าตา” ออกจากสมการ
แล้วแทนค่าด้วย “ความเหมาะสมจำเป็น”
แล้วเลือกเลยที่ชอบที่ชอบ
สุดท้ายแล้ว นี่คือเรื่อง "การเงินส่วนบุคคล"
ซึ่งมันคือเรื่อง ของใครของมันนะ
ไม่ใช่เรื่องของเพื่อนฝูงที่ใกล้ชิด หรือ ญาติมิตรที่คอยเชียร์
ถึงเวลาคับขัน จะไม่มีใครช่วยเรา
เพราะคนครอบครองของหรูก็คือเรา
คนเป็นหนี้ก็คือเรา
เราเอง คือผู้ตัดสินใจครับ