สมัยก่อนบอกว่า
>> มีอาชีพในฝัน สิ
ตอนนี้ก็ไม่แน่ ... หลายอาชีพในฝัน ถูกบีบคั้นเลย์ออฟ กันไปเยอะ
>> ทำงานในบริษัทใหญ่โต สิ
ตอนนี้ก็ไม่แน่...บริษัทใหญ่โตโดนผลกระทบกันถ้วนหน้า วิกฤติทุกครั้งบริษัทจะลดต้นทุนและไปต่อได้ แต่คนอ่ะไม่แน่
>> มีเงินเก็บสำรองอย่างน้อย 6 เดือน สิ
ตอนนี้ก็ไม่แน่...หลายคนโดนผลกระทบเต็มใบตั้งแต่ระลอกแรกมี.ค.63 ลากยาวถึงตรงนี้ก็ 15 เดือนเข้าไปแล้ว
---------------
สมัยนี้ คำว่าความมั่นคง อาจจะหายาก ทำยาก กว่ายุคเก่ามาก ประดุจตามหาดราก้อนบอลให้ครบ 7 ลูกนั้นเลย
สมัยก่อน ตั้งใจเรียนให้เก่ง จบมหาลัยดี คณะดัง เข้าทำบริษัทใหญ่ แล้วไต่เต้าไปถึงวัยเกษียณ
ก็แทบการันตีความสำเร็จไปแล้ว
สมัยนี้สูตรสำเร็จคงใช้ได้น้อยลงมาก
ถ้าจะขอลองนิยาม "ความมั่นคง" ในยุคหลังโควิด
ควรมี 3 ข้อนี้
1. มีหลายงาน รายได้หลายทาง
เพราะความมั่นคงไม่ได้อยู่ที่บริษัท..แต่อยู่ที่ตัวเรา
บริษัทเหมือนทีมฟุตบอล คือทีมจะเป็นยังไงมันไปต่อได้เสมอ แต่อาจไม่มีเราในแผนทำทีม
นี่คือความมั่นคงที่ต้องสร้างทักษะที่ขายได้ ทำเงินได้ ให้มากกว่า 1 อย่าง
โลกยุคต่อไป มนุษย์คนหนึ่ง อาจจะเป็นลูกจ้างผสมฟรีแลนซ์, ฟรีแลนซ์ผสมเจ้าของกิจการ, เจ้าของกิจการผสมนักลงทุน หรือ นักลงทุนผสมลูกจ้าง
2. มีเงินเก็บ อย่างน้อยๆพอใช้ไปอีก 1 ปี
ถ้ามีพอใช้ยิ่งนานกว่านี้ยิ่งดี จะยิ่งรู้สึกปลอดภัย แม้เกิดอะไรกับโลก เกิดกับเรา มันยังพอมีเวลาคิดขยับขยายพลิกแพลงเป็นปี
3. มีเครื่องจักรผลิตเงินสด
มันคือระบบ ที่สร้างรายได้ให้ตัวเอง
ระบบที่ไม่ต้องผูกติดชีวิตเราไว้ตลอดเวลา ถ้าต้องอยู่ดูแล ต้องทำไม่งั้นพัง ไม่งั้นไม่ได้เงิน แบบนี้คงนับว่ามั่นคงไม่ได้
ผมไม่ได้หมายถึงระบบอลังการแบบ Facebook YouTube Tiktok นะ ...ง่ายกว่านั้น
สมัยคนรุ่นพ่อผม คือ อสังหาฯให้เช่า อพาร์ทเม้นท์ โกดังให้เช่า บ้านเช่า นี่ก็ใช่ เป็นระบบสร้างรายได้ค่าเช่า โดยเราแทบไม่ต้องดูแลมาก
สมัยนี้ อาจจะเป็นคอนโดให้เช่า, พอร์ตหุ้นปันผลสูง, พอร์ตกองรีทและอินฟราฟันด์ หรืออื่นๆก็ได้
ชั่วโมงนี้ เข้าใจดี สร้าง 3 ข้อก็ไม่ง่าย
แต่ก็ไม่ต้องท้อครับ ใครที่ยังไม่มี ก็ค่อยๆหาทาง พยายาม ปรับตัว สร้างสรรค์โอกาสกันต่อไป
เมืองเปิดเมื่อไหร่ เราต้องพร้อมวิ่ง