1.
Reopening ... หลายคนอาจจะได้ยินบ่อยมากช่วงนี้ บางทียังงงๆว่ามันแปลว่าอะไร ?
2.
Re รี ... แปลว่า อีกครั้ง
Opening โอเพนนิ่ง ...แปลว่า การเปิด
Reopening จึงแปลว่า การเปิดอีกครั้ง
และแน่นอนว่า มันหมายถึงการเปิดเมืองหลังจากโควิดสุดอำมหิตรอบสามนี่แหละ
3.
ในเชิงการลงทุนหุ้นไทย ต้องยอมรับว่า โควิดระลอกสามที่รุนแรง และแผนวัคซีนที่ล่าช้าและสับสนช่วงต้นไตรมาส 2 คือมาทำลาย โอกาสการปรับตัวขึ้นของ SET ในช่วงที่หลายประเทศเขาปรับขึ้นไปทะลุ Pre Covid ก็แล้ว..All time high ก็แล้ว
แต่เราก็ยังล้าหลัง (Laggard) สม่ำเสมอ
4.
หุ้นใหญ่หลายตัว ราคาตกท้องช้างน่าหดหู่ในระดับเดียวกับโควิดปิดเมืองรอบแรก มี.ค. 63 นั่นเลย
แม้แต่ประเทศที่ติดโควิดกันอย่างหนักหน่วงและน่ากลัว อย่าง แถบ ยุโรป หรือแม้แต่อินเดีย ต่างก็มีการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นที่ดีกว่าSETไทย
5.
แต่หลังจากที่การกระจายวัคซีนของไทย กำลังเริ่มทำได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสับสนเป็นเริ่มชัดเจน แม้จะมีสลับสับสนอยู่บ้างก็ตาม แต่สุดท้ายจะคลี่คลาย
การฉีดวัคซีน ที่มีมากระดับหลายล้านโดส และมากพอที่รัฐจะตัดสินใจผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
นั่นพอมองเห็นว่า เรากำลังเดินตามรอยตปท.ที่ใช้วัคซีนเข้าสู้เพื่อเปิดเมืองให้ได้
6.
ดังนั้นในมุมของการลงทุน
ธุรกิจที่ควรจะได้รับประโยชน์จากการกลับมา เปิดประเทศ Reopening จะได้รับการพูดถึงเพิ่มมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ
7.
และแน่นอนว่า แม้แต่กลุ่มหุ้น Reopening ด้วยกัน ราคาของหุ้นทุกตัว ก็จะขึ้นไม่พร้อมกันหรอก ความเหลื่อมล้ำมันมีในทุกมิติ ไม่เว้นที่นี่
-> กลุ่ม A...จะดีดขึ้นได้เร็วกว่า กระทั่งฟื้นมาเกินความสามารถปีหน้าด้วยซ้ำ
-> กลุ่ม B...ยังคงล้าหลัง ในตลาดหุ้นที่ล้าหลัง เรียกว่า Double La Lung (ล้าหลังกำลังสอง) ซึ่งถ้าสวรรค์มีตา ฟ้ามีใจ มันไม่ควรจะย่ำแย่ไปตลอดหรอก
เมื่อกลุ่ม A ฟื้นจนแพงเกินความสามารถ เงินควรต้องหมุนมากลุ่ม B บ้าง ที่เราเรียกว่า sector rotation หมุนกลุ่มเล่นนั่นแหละ
8.
หุ้นในธีมรีโอเพนนิ่ง รับเปิดเมืองอาจแยกได้เป็น 3 แถว ได้แก่
แถวหนึ่ง
"กลุ่มอิงการท่องเที่ยว"
หุ้นโรงแรม สนามบิน สายการบิน
ข้อดี...ได้ประโยชน์โดยตรงทันที
ข้อเสีย...หลายตัวราคาปรับขึ้นมาค่อนข้างสูงแล้ว แถมในเชิงงบการเงิน ต้องทนขาดทุนอีก 1-2 ไตรมาส
แถวสอง
"กลุ่มมนุษย์ต้องออกจากบ้าน"
หุ้นศูนย์การค้า หุ้นขนส่ง(ทางด่วน รถไฟฟ้า) หุ้นร้านอาหาร หุ้นค้าปลีก
จะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ถัดมา ผู้คนออกจากบ้าน ไปเดินห้าง ไปทำงาน เด็กไปโรงเรียน ผู้คนเริ่มออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ออกมาเดินทาง หลังจากกลับมาเปิดประเทศได้ตามปกติ
ข้อดี...ได้ประโยชน์โดยตรงทันที จะแจ้งกว่าด้วยเพราะเอาแค่ domestic demand ความต้องการในประเทศ ก็พอให้หุ้นดีดกลับได้แล้ว
ข้อเสีย...ต้อง selective บางตัวตัวราคาปรับขึ้นมาค่อนข้างสูงแล้ว บางตัวรันเวย์ยังอีกยาว บางตัวผ่านโควิดได้ต้องเจอกับการแข่งขัน high competition ตัดราคากันอีก ...ย้ำ ต้อง selective
แถวสาม
"กลุ่ม REIT และ IF"
กองรีท กองอสังหาฯ กองอินฟราสตรัคเจอร์โครงสร้างพื้นฐาน
นี่คือกลุ่มที่ล้าหลังกำลังสอง คือโดนทิ้งร้างมานาน ราคาไม่ไปไหนเลย ไส้ในกองพวกนี้ต้องไปดูนะ อย่างนี้นี่ มีทั้ง รีทห้าง รีทออฟฟิศ รีทโรงแรม รีทอุตสาหกรรม และยิ่งกอง IF ยิ่งต้องดูไส้ในเลย
ปันผลเป็นไง คุณภาพassetเป็นไง อายุกองเหลือเท่าไหร่ หลังโควิดกิจการกลับมาได้ใช่ไหม ฯลฯ
9.
หน้าที่ของเรา เหล่าเม่าปีกเหล็ก
คือตามหาพวกที่ล้าหลังกำลังสอง พื้นฐานดี สินทรัพย์ดี ราคาอยู่ในโซนตกต่ำ และพร้อมจะกลับมามีลูกค้า อย่างสง่าผ่าเผยหลังโควิด
10.
ถ้าจะให้ดี ควรเอาที่มีปันผลด้วย
เผื่อกรณีที่เข้าพรวด ต้องถือติดดอย
ก็ให้คิดว่า
"ไม่ได้ติดดอย (โว้ย)
แค่ซื้อคอยที่ราคาเป้าหมาย"