ความเป็นจริงในการลงทุนประการหนึ่ง คือ “ตลาดหุ้นทุกที่ กองทุนทุกประเทศ ETFทุกธีม และหุ้นทุกตัว
"ล้วนมีปีชงของตัวมันเอง"
- บางครั้ง เป็นการชงเฉพาะตัว
- บางครั้ง...ก็ชงเฉพาะกลุ่ม
- บางที....ก็ชงเฉพาะประเทศ
- บางทีก็ชงใหญ่โดนกันทั้งตลาดทั่วโลก โดยไม่ได้คิดมาก่อน ไม่คาดว่าจะหนักเพียงนี้
ที่เราเรียกว่า Black Swan อย่างวิกฤตโควิด สุดอำมหิต นี่ก็ใช่
ในยามที่ตลาดหุ้นตกต่ำ หรือซึมออกข้าง นี่คือช่วงเวลาของการทดสอบจิตใจนักลงทุนระยะยาวโดยแท้
ถ้าเราตั้งเป้า ว่าจะเข้าถือระยะยาว จะถือข้ามรอบ ผ่านช่วงแย่ ไปสู่ ช่วงฟื้นตัว นี่จะเป็นการวัดว่า
- เราประเมินปัจจัยคุณภาพ Good Stock ได้ดีพอไหม ?
- เราประเมินราคาหุ้น Intrinsic Value ได้พอใกล้เคียงกับพัฒนาการจริงไหม ?
- เราได้ใส่ส่วนเผื่อความปลอดภัย Margin of Safety (MOS) พอหรือเปล่า ?
ใครผ่านแรงกระแทกแบบนี้ได้หลายๆรอบ ได้สะสมหุ้นดี ในราคาที่เหมาะสม ไปเรื่อยๆ
จะได้รับ "เงินปันผล" เพิ่มขึ้น พร้อมมีของดี ราคายอดเยี่ยม ไว้รอรอบใหม่ และจะมีชัยในที่สุด
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ ที่เพิ่งมีประสบการณ์ผ่านขาลง ของตลาดหุ้น หรือเข้าซื้อหุ้นที่เลือกมาอย่างดีแล้ว ราคายังลงต่อไปอีกผมมีคำแนะนำเล็กน้อย เพื่อนำไปใช้ปรับจิตปรับใจ พร้อมไฟว์กับการลงทุนได้ยาวๆ
- ในยามที่ตลาดหุ้นปรับตัวลง หรือหุ้นที่เราถือปรับตัวลง นี่คือช่วงวัดใจ
ใครที่เพิ่งเคยเจอครั้งแรก ที่เห็นพอร์ตเขียวจัด กลายเป็นเหลือง ... อ้ำอึ้งกับเหลือง จนพอร์ตพลิกเป็นแดง
เงินลงทุนหดตัวลงไปเรื่อยๆแล้วไม่รู้สึกกลัว ถือว่าหัวใจคุณสอบผ่าน มีความเข้มแข็งของนักลงทุนระยะยาว
- หากเกิดความกลัว...ก็ไม่แปลก
ถ้าคุณกลัว รู้สึกกลัวมากๆ และกังวลใจมากๆ
ในเวลาที่ตลาดหุ้นแดงทั้งกระดาน ไม่ว่าจะหุ้นไทย หุ้นนอก หรือ กองทุน ก็ตามที
อันนี้ก็ไม่แปลกครับ เป็นเรื่องปกติธรรมดาของนักลงทุน ที่เราต้องอยู่กับความกลัวและความกล้า สลับกันไปตลอดเส้นทางการลงทุน
- อยู่กับความกลัวอย่างมีประสบการณ์ แล้วหาประโยชน์จากเหตุการณ์นั้น
เพราะต่อให้เป็นนักลงทุนผู้มีประสบการณ์มานาน พอเจอวิกฤตตลาดหุ้นทีไร ก็รู้สึกกลัวทุกครั้งได้เช่นกัน
เพียงแต่นักลงทุนผู้มีประสบการณ์ เขาเคยเจ็บมาบ่อยๆ จึงค่อยๆชิน
สะสมมาจนรับรู้ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ของความเสียหายต่อหน้า บ่อยครั้ง หลายรอบ
แล้วยังไม่ตาย มีวิธีคว้าโอกาสท่ามกลางความกลัว กลับมาได้
ไม่ว่าด้วยวิธีปรับพอร์ต ถัวตัวที่มั่นใจ ตัดตัวที่หมดอนาคต เติมเงิน ปิดจอ รวมทั้งแกล้งตายก็ตามที
คนพวกนี้จะมีวิธีมองตลาดด้วยความเข้าใจ
ทำให้เขาถือและถัวหุ้นต่อไปได้ รู้ตัวว่าแค่ไหนคือลิมิต
รู้ตัวว่าจะทำอย่างไรต่อ
4. ตั้งสติ ตั้งคำถาม สร้างปัญญา
-> หุ้นตกเพราะอะไร ? .... เพราะผู้คนล้วนตกใจขายหุ้นออกมา
-> ทำไมถึงตกใจ ? ...เพราะข่าวร้ายที่ประดังเข้ามา รัฐประหาร ก่อการร้าย โรคระบาด ฯลฯ
-> แก้ตกใจ แก้สติแตก คว้าโอกาสอย่างไร ? ...เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องชั่วคราวใช่ไหม เมื่อมันผ่านไป พื้นฐานกิจการเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ สินค้าและบริการยังเป็นที่ต้องการหรือไม่ พฤติกรรมผู้คนจะเปลี่ยนไปตลอดกาลแม้หลังวิกฤติหรือไม่
คำถามเหล่านี้ นักลงทุนต้องวิเคราะห์และหาคำตอบแก้กลัวให้ตัวเองได้
5. บททดสอบจิตวิทยาการลงทุน
ตลาดหุ้นขาลงเป็นบททดสอบจิตวิทยาการลงทุน ของนักลงทุนระยะยาว ได้ดีที่สุด ว่าเราใช้เหตุผลในการลงทุน หรือใช้อารมณ์ในการเล่นหุ้น “การหนีความกลัวด้วยการขายล้างพอร์ต(หุ้นดี) ตอนที่ตลาดหุ้นเจอข่าวร้ายกระทบระยะสั้น ทุกครั้ง ทุกรอบ แบบไม่สนใจต้นทุน และไม่สนใจอนาคตกิจการ” ไม่เคยส่งผลดีในระยะยาว
เพราะการล้างพอร์ตบ่อยๆ แสดงว่าเราไม่มั่นใจในหุ้นที่ซื้อ การคัทลอสที่ถี่และบ่อยจนเกินไป อาจนำไปสู่ภาวะขาดทุนรุนแรงและอาการเข็ดขยาดตลาดหุ้นจะเกิดขึ้น ซึ่งทำให้ Mindset การลงทุนเสีย ไปสู่การออกจากตลาดถาวร
และเลวร้ายที่สุดคือ จะไปเผยแพร่ความน่ากลัวแบบผิดๆของตลาดหุ้นให้คนใกล้ชิดอีกด้วย
6. ลด-หา-มอง
-> ลด...จำนวนครั้งในการเก็งกำไร เลิกสนใจราคาหุ้นในช่วงสั้นๆ
-> หา...เงินสด มาเต็มพอร์ต ตอนหุ้นลง
-> มอง...ข้ามชอต ไปยังโลกหลังโควิด ว่าอะไรจะฟื้นแน่ แต่ราคายังย่ำแย่อยู่ นั่นคือโอกาส
ผ่านความกลัว พร้อมคว้าโอกาส จะช่วยให้ชีวิตการลงทุนดีขึ้นในระยะยาว
===================================================
:+: สอนมือใหม่ลงทุนหุ้นเป็นใน 1 วัน :+:
หลักสูตรเตรียมความพร้อม สู่การเป็น นักลงทุนในตลาดหุ้น
สำหรับ "นักลงทุนหุ้นมือใหม่" และ "ผู้สนใจเริ่มลงทุนหุ้น"
ที่อยากให้เริ่มต้นอย่างถูกต้อง ลงทุนได้อย่างถูกทาง
ดูรายละเอียด คลิก