#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

ปัญหาของ Growth

โดย stock2morrow
เผยแพร่:
116 views

ช่วงที่ตลาดเป็นสภาวะขาขึ้น มันเป็นเรื่องยากมากที่เราจะลงทุนแบบ "เน้นคุณค่า" เนื่องจากหุ้นคุณค่ามักจะไม่สร้างผลตอบแทน แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ โดยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ หุ้นคุณค่ากลับไม่สร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนเท่าไรนัก
... แต่หุ้นที่สร้างผลตอบแทนมากกลับกลายเป็นหุ้นเติบโต หรือ Growth Stock

นี้ไม่ใช่กระแสที่เกิดขึ้นในไทย แต่เป็นกระแสที่เกิดขึ้นทั่วโลก ถ้าหุ้นไหนมีการเติบโต คนก็มักจะเข้าไปเล่นหุ้นตัวนั้นๆ
แต่ในฐานะนักลงทุน การซื้อหุ้นเติบโตเราจำเป็นจะต้อง "วิเคราะห์" ก่อนว่า การเติบโตนั้นมีความยั่งยืนมากแค่ไหนเพราะไม่อย่างนั้นเราอาจจะเจอกับการเติบโตแบบไม่ยั่งยืนเอาได้

แล้วแบบนี้ พอจะมีกรณีศึกษาในเรื่องของ "ปัญหาของการเติบโต" บ้างไหม
เอาจริงๆก็ต้องบอกว่า มีครับ ยังไงบ้างเดียวจะเล่าให้ฟัง

ตัวอย่างแรก : การทำ M&A
M&A หรือ การเข้าซื้อกิจการ เราจะพบเห็นได้บ่อยครั้งในช่วงเวลาที่ตลาดเป็นกระทิง หุ้นไหนโดนซื้อกิจการจะถูกไล่ราคาขึ้นไปสูงมาก เพราะถูกนักลงทุนคาดหวังว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของ บริษัท A มีค่า P/E ที่สูง การเติบโตกลางๆ ไปซื้อบริษัท B ที่เล็กกว่า มีค่า P/E ที่สูงกว่า พอบริษัท A เข้าซื้อกิจการจะทำให้นักวิเคราะห์เพิ่มเป้าราคาที่แพงขึ้น เพราะคิดว่ารายได้จะเติบโตแบบก้าวกระโดด กำไรจะดีขึ้น อัตรากำไรจะสูงขึ้น
... แน่นอนว่าวิธีนี้จะทำให้กำไรของบริษัท A เพิ่มมากขึ้น แต่จะยาวอย่างที่คาดหวังไว้หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง  บางครั้งอาจจะเพิ่มขึ้น 1-2 ปี แต่หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องของการกดดันผลประกอบการ

ตัวอย่างเช่น บริษัทผลิตขวดแก้ว เข้าซื้อกิจการค้าปลีก ซึ่งบริษัทผลิตแก้วนั้นเล็กกว่าพอสมควร พอเข้าซื้อกิจการเสร็จรายได้ของบริษัทผลิตแก้วเติบโตขึ้นมาก นักวิเคราะห์เลยเพิ่มเป้าหมายราคา พอหลังจากนั้นบริษัทผลิตแก้วต้องลงทุนกับเงินก้อนโตไปกับการขยายสาขา ปรากฏว่าการเติบโตไม่เป็นไปตามเป้า ผลประกอบการแทบจะไม่เติบโต สาขาที่สร้างเสร็จก็ยังขาดทุน เป็นตัวกดดันผลประกอบการอีก สุดท้ายราคาหุ้นก็ลงมาไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดหวังไว้


ตัวอย่างที่สอง : คาดเดารายได้เลย แต่ยังไม่ลงมือทำ
กรณีเกิดขึ้นบ่อยครั้งในธุรกิจประเภท "รับเหมาก่อสร้าง" กล่าวคือบริษัทมักจะไปรับงานมาก่อน หรือประมูลงานมาก่อน พอมีข่าวว่าได้งานแล้ว ยังไม่ทันจะเริ่มลงมือทำ หุ้นก็วิ่งขึ้นไปซะก่อนแล้ว ซึ่งนักลงทุนจะคาดหวังว่ารายได้จะเติบโตเท่านั้นเท่านี้ กำไรจะขึ้นมาเท่านี้ เหมือนว่าจะเติบโตเร็วมากในระยะเวลาอันสั้น แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้วก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดหวัง

หลายครั้งเราจะเห็นได้บ่อยครั้งในตลาดหุ้นไทย หุ้นกลุ่มรับเหมาจะนิยมเล่นกัน "เป็นรอบ" ถ้าไม่ใช่รอบของมัน ก็คือ "ซึมยาว" เพราะไม่มีประเด็นอะไรให้เล่น


ตัวอย่างที่ 3 : ตกแต่งบัญชี หรือผู้บริหารมีการโกงเกิดขึ้น
ลักษณะนี้ค่อนข้างดูได้ยาก เพราะกว่าจะรู้ว่าบริษัทมีปัญหา ก็มักจะสายเกินไปซะแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะไปลงทุนต่างประเทศ จะนิยมกันมากเพราะตรวจสอบได้ยาก เช่น บริษัทที่ไปลงทุนทำพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ นักลงทุนแทบจะไม่รู้เลยว่าโครงการมีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ปรากฏว่ามีแค่ที่ดินแต่กลับไม่มีโครงการอะไรเลย กว่าที่นักลงทุนจะรู้มันก็มักจะสายไปซะแล้ว

หรือบางครั้งอาจจะเป็นเรื่องของการ "โกงทางบัญชี" เช่น บันทึกรายได้ดีเกินจริง มีการขายสินค้าตัวเอง ให้บริษัทลูกของตัวเองที่อยู่ในต่างประเทศ ส่งผลให้รายได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว นี้ก็เป็นวิธีที่ยากจะตรวจสอบเพราะเป็นเรื่องของบัญชี ซึ่งถ้าเราไม่ได้มีความชำนาญหรือพยายามทำความเข้าใจแล้ว แทบจะไม่รู้อะไรเลย


นี้ก็เป็นตัวอย่างของการซื้อหุ้นเติบโต ถ้านักลงทุนไม่วิเคราะห์เจาะลึกให้ดี เราก็อาจจะเจอกับ "หายนะ" ทางการลงทุนได้นั้นเองครับ


ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่

www.stock2morrow.com 

FB: stock2morrow 

LINE@stock2morrow

FacebookInstagramYoutubeLine

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง