วันนี้ SET ขึ้นเท่าไหร่ ใครซื้อใครขาย ?
หุ้นเราลงมีข่าวอะไรมั้ย มี big lot หรือเปล่า รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่มีเซียนเข้ามั้ย ?
โบรกให้เป้าเท่าไหร่ เชียร์ซื้อหรือขาย ?
การติดตามเรื่องราวต่างๆ อย่างใกล้ชิดเป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งเราติดตามมากเกินไป ดูข่าว อ่านไลน์ ดูราคาหุ้นกระพริบไปมาตลอดทั้งวัน จนเกิดความเครียดเพราะเราหมกมุ่นมากเกินไปกับทุกเรื่องที่เข้ามา
หุ้นขึ้นสองช่องก็เครียดจะขึ้นต่อมั้ย หุ้นลงสองช่องก็เครียดจะลงต่อมั้ย ?
หุ้นที่เราไม่มี แต่เพื่อนโชว์กำไรเราก็เสียดายอยากมีแบบนั้นบ้าง ?
วันนี้วิตามินหุ้นอยากจะให้ทุกคนลองสังเกตดูครับว่า เราหมกมุ่นกับเรื่องเหล่านี้มากเกินไปหรือเปล่า
- หมกมุ่นกับดัชนีตลาดมากเกินไป
เราชอบดู SET ว่าขึ้นกี่จุด ลงกี่จุด พอ SET เขียว เราจะสบายใจ แต่ถ้า SET แดง เราจะเครียด ทั้งๆ ที่หลายครั้ง หุ้นเราอาจจะไม่ได้ขึ้นหรือลงตามตลาดในแต่ละวันก็ได้ สิ่งที่ผมแนะนำถ้าจะดูภาพตลาดคือ
- แนวโน้มของตลาดเป็นอย่างไร SET ขึ้นหรือลงมากี่วันแล้ว ให้ดูเป็นโมเมนตัมดีกว่า
- Market Map คือ การดูว่า ที่ SET บวกหรือลบ เป็นเพราะ sector ไหน เราจะได้เข้าใจว่า ใครพาตลาดขึ้นลง เพราะอะไร
- Top Impact Index คือ หุ้นตัวไหนมีผลทำให้ SET บวกหรือลบกี่จุด เราจะได้เข้าใจว่า บางวัน DELTA แบกตลาดไว้ บางวันหุ้นใหญ่บวกไม่กี่ตัว แต่หุ้นเล็กลงกระจาย
- หมกมุ่นกับข่าวมากเกินไป
Line ห้องไหนเขาว่าดี เพจไหนเขาว่าดัง Group ไหนที่ว่าแม่น เราเข้าหมด ยังไม่รวมถึงหนังสือพิมพ์ที่สมัครไว้ รายการ Youtube ช่องต่างๆ และข่าวสารจากเพื่อนพ้องน้องพี่อีกเต็มไปหมด เรียกได้ว่า วันๆ นึง เสพข่าวสารกันจนเต็มสมอง และหลายครั้งที่เราเกิดความกลัว เกิดความโลภ ทำให้การลงทุนเสียจังหวะและผิดพลาดได้ สิ่งที่ผมอยากแนะนำคือ
- เลือกติดตามช่องทางที่น่าเชื่อถือ อย่าไปติดตามพวกหุ้นซิ่ง หุ้นปั่น หรือแชร์ลูกโซต่างๆ ที่จะมาหลอกลวงเรา ที่คอยบอกหุ้นง่ายๆ ให้เราซื้อตาม แต่ราคานั้นขึ้นมาหลายวันแล้ว
- เลือกติดตามเท่าที่สำคัญและรับไหว เพราะบางครั้งข่าวก็ซ้ำกันหลายช่อง เราก็ต้องเลือกอันที่เราคิดว่าเหมาะกับเรา หรือติดตามเป็นรายบุคคล รายหุ้นที่เราสนใจก็พอ ไม่ต้องไปดูทั้งหมด ทุกช่อง
- ถ้าตามข่าววันนั้นไม่ทัน ก็ไม่ต้องไปเครียดว่า เพื่อนรู้ ทำไมเราไม่รู้ เชื่อมั้ยว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ มะรืนนี้ ข่าวเดิมก็จะกลับมาใหม่ ซ้ำไปซ้ำมาวนเวียนอยู่แบบนี้
- หมกมุ่นกับรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่มากเกินไป
เราชอบติดตามว่าหุ้นตัวไหนเซียนถือ เสี่ยถือ หรือคนดังคนไหนซื้อหุ้นบ้าง ถ้าเราติดตามเพราะอยากศึกษา อยากเข้าใจว่า เพราะอะไรคนเก่งๆ ถึงสนใจหุ้นตัวนี้ เพื่อเอามาทำการบ้านต่อ แบบนี้โอเคดี แต่ถ้าเราติดตามเพราะว่าจะได้ซื้อตาม แบบนี้ก็เสี่ยงอยู่ เพราะเราคงซื้อแพงกว่าเค้าแน่ๆ และเราก็ไม่รู้ว่าเค้าซื้อเก็งกำไร หรือซื้อเพราอะไร ก็จะอันตรายมาก เพราะเวลาเค้าขายแต่เราติดดอยอยู่ เราก็จะงงๆ ว่า แล้วจะทำไงต่อดี
- หมกมุ่นกับราคาเป้าหมายมากเกินไป
ตอนนี้ราคาหุ้น 9 บาท นักวิเคราะห์บอกจะไป 10 บาท เราเลยซื้อ ผ่านไปเดือนนึง ราคาลงมา 8 บาท เราก็ไม่ได้ทำอะไร ราคาลงมา 7 บาท เราก็ไม่ขาย เพราะเรายึดติดว่า เดี๋ยวมันน่าจะกลับไป 10 บาท ตามที่เค้าบอก แต่พองบออก ไม่ดีดังคาด กลายเป็นว่า นักวิเคราะห์ปรับเป้าลงเหลือ 7 บาท ตรงราคาปัจจุบันพอดี เราก็เลยขาดทุนไปแบบงงๆ
เหตุผลก็เพราะว่า เราดูแต่ตัวเลข แต่เราไม่ได้อ่านสมมติฐานว่า 10 บาท มันมายังไง มาจากคาดการณ์รายได้ กำไรเท่าไหร่ ทีนี้พองบออก ผลลัพธ์มันต่างจากสมมติฐาน นักวิเคราะห์เลยคำนวณใหม่ แล้วก็ปรับเป้าราคาใหม่ลงมา แปลว่า อย่าไปมองที่เป้าราคา แต่เราต้องเข้าใจเรื่องราวที่มาของราคานั้นด้วย
- หมกมุ่นกับกำไรของคนอื่นมากเกินไป
หุ้นเราไม่วิ่งเลย แต่หุ้นเพื่อนเราวิ่งกระจาย มีแต่คนโพสต์อวดกำไรกันเต็มหน้าฟีด แต่เราไม่มีอะไรจะไปอวด ทำให้เราเสียดาย บางคนซื้อหุ้นตามเพื่อนสุดท้ายติดดอย บางคนเครียดนอนไม่หลับเพราะคิดว่าทำไมเราไม่เก่งแบบเค้าบ้าง
ผมอยากจะบอกว่า อย่าไปสนใจดูสนามหญ้าบ้านคนอื่นเลยว่าเขียวแค่ไหน เราอาจจะปลูกหญ้าคนละประเภทกัน หญ้าเราอาจจจะชอบน้ำเยอะ แต่ตอนนี้แดดแรงจัดก็ไม่โต เราอาจแค่รอเวลาฤดูฝนมาถึง ฝนตกเมื่อไหร่ หญ้าเราก็จะสวยเอง ขอแค่เราดูแลอย่าให้ตายซะก่อน
จงหมกมุ่นกับตัวเองให้มากขึ้น กับความรู้ของเรา กับพอร์ตการลงทุนของเรา กับเฉพาะแค่กำไรของเรา
หมกมุ่นกับเฉพาะเรื่องที่สำคัญและจำเป็นที่เราควรรู้เพื่อที่จะพัฒนาตัวเองได้
แล้วคุณจะไม่หัวหมุนกับการลงทุน
แต่อาจจะหัวหมุนกับการนับเงินในพอร์ตแทน