ต้องยอมรับว่าสาเหตุที่หุ้นแม่อย่าง PTT ไม่ขึ้นเลยเป็นเพราะว่า "การเติบโต" ที่ไม่โดดเด่น เมื่อเทียบกับหุ้นขนาดเล็ก หุ้น PTT จัดอยู่ในกลุ่มหุ้นแข็งแกร่งซะมากกว่า เลยส่งผลให้ราคาหุ้นไม่หวือหวาเท่าที่ควร
ถึงแม้ว่าจะพยายามเข็นหุ้นลูกอย่าง #OR มาเข้าตลาดแล้วก็ไม่สร้างแรงขับเคลื่อนให้หุ้นแม่อย่าง PTT สักเท่าไรนัก
ปัญหาคือ PTT ยังหาการเติบโตรอบใหม่ไม่เจอ
แต่สำหรับข่าวนี้ล่าสุดถือว่าน่าสนใจมาก กับการพยายามหาการเติบโตรอบใหม่ของ PTT เป็นอย่างไรเดียวจะเล่าให้ฟังครับ
การเติบโต หรือ S-Curve รอบใหม่ จะมีอยู่ 4 กลุ่มธุรกิจด้วยกัน คือ
1. การลงทุนในธุรกิจ Advanced Materials หรือวัสดุขั้นสูง
2. ผลิตภัณฑ์ยานยนต์และของแต่งบ้าน (Mobility and Lifestyle)
3. ธุรกิจ E-logistics
โดยทั้ง 3 อย่างที่กล่าวมานั้น PTT จะจัดสรรงบลงทุนประมาณ 10% ให้กับ 3 กลุ่มธุรกิจนี้
PTT จะเน้นไปที่ธุรกิจ life Science จากโอกาสสังคมผู้สูงอายุ โรคระบาด การดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น โดยบริษัทได้จัดตั้งบริษัทแห่งใหม่ คือ Innobic (Asia) ทำธุรกิจเกี่ยวกับยาโดยเฉพาะ ได้แก่
1. สร้างโรงงานผลิตยารักษาโรคมะเร็งในไทย ใช้งบประมาณ 2.5 พันล้านบาท
2. ถือหุ้น 6.66% ใน Lotus Phamaceutical ในไต้หวัน (เป็นบริษัทจดทะเบียนในไต้หวันด้วย)
3. ร่วมทุนกับ IRPC ทำธุรกิจผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์จากผ้าไม่ถักทอ
4. ร่วมทุนกับ NRF เพื่อผลิตโปรตีนจากพืช
ซึ่งจากที่กล่าวมา เทียบความใหญของ PTT แล้วถือว่าใช้เงินไม่ได้สูงมาก แต่ธุรกิจเหล่านี้มีโอกาสเติบโตสูง ระยะสั้นอาจจะยังไม่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ PTT มากนัก แต่ในระยะยาวแล้วถือว่ามีความน่าสนใจ
บล. กรุงศรี วิเคราะห์ว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนครั้งใหม่ ซึ่งใช้เงินลงทุนไม่มากแต่มีโอกาสเติบโตสูง สำหรับธุรกิจที่ PTT ทำอยู่ จะหนุนโดย PTTEP ที่มีปริมาณขายนำมนเพิ่มขึ้น และธุรกิจโรงกลั่น ส่วนต่างปิโตรเคมีอยู่ในเกณฑ์ดี หนุนผลประกอบการให้โตได้
สำหรับผลประกอบการในปี 2564 มีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการ กระแสเงินสดยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และ ROE เพิ่มขึ้นได้ในอนาคต (อยู่ที่ประมาณ 11-13%)
คาดการณ์ผลประกอบการหุ้น PTT และ PE, PBV band ของหุ้น PTT ในช่วงที่ผ่านมา
ที่มาภาพ : บทวิเคราะห์หลักทรัพย์กรุงศรี
บล.แอลเอช มองว่า ธุรกิจใหม่จะเป็น New S-Curve ได้ในระยะยาว ธุรกิจหลักเติบโตตามทิศทางราคาน้ำมัน และที่สำคัญราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองต่อข่าวนี้ เชื่อว่าเป็นโอกาสสำหรับคนที่จะลงทุนระยะยาว
สรุปแล้ว ปัญหาหลักที่ทำให้ราคาหุ้น PTT ไม่ขึ้นที่ผ่านมา คือ การเติบโตที่ "ค่อยเป็นค่อยไป" ไม่ได้หวือหวามากนัก ทำให้นักลงทุนไม่ค่อยชอบ แต่สำหรับการลงทุนรอบใหม่ ถือเป็น New S-Curve ที่น่าสนใจในระยะยาว เพียงแต่ภาพระยะสั้นนั้นอาจจะยังไม่เห็นผลสักเท่าไรนัก ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
----------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล