บรรยากาศการลงทุนในช่วงพฤษภาคม 2564 ปีนี้จัดว่าไม่ค่อยดีเลยนะครับ
นอกจากเข้าสู่เดือนที่มีคำขวัญประจำเดือนว่า “Sell in May and Go Away” หรือที่แปลว่า ขายหุ้นในเดือนพฤษภาคมแล้วจงเดินจากไป จะมากดดันตลาดหุ้นทั่วโลกทุกปีแล้ว ปีนี้ดูเหมือนว่าความผันผวนจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
หันไปมองที่ “ตลาดหุ้นอเมริกา” ที่เป็นต้นธารของ Market Sentiment การลงทุนทั่วโลก จะพบว่าเริ่มมีหลายปัจจัยกดดัน แม้จะมีข่าวดีเรื่องวัคซีนทำให้ความน่ากลัวของโควิดลดลง แต่ก็มาพร้อมกับเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น จากการอัดฉีดสภาพคล่องแบบมหาศาลและต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นการระบาดโควิด ทำให้ตลาดทุนเกิดความกังวลถึงสองเรื่อง คือ
หนึ่ง..การลดขนาดเม็ดเงินอัดฉีดสภาพคล่องลง หรือลดปริมาณ QE ลงนั่นเอง
สอง..การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เร็วกว่าที่คาด
ความกังวลทั้งสองเรื่องนี้ ตลาดหุ้นไม่ชอบเลย ทำให้ bond yield ปรับขึ้น และเริ่มมีกระแสเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง ไม่ว่าจะเป็น ตลาดหุ้น หรือ ตลาดคริปโต บรรยากาศการลงทุนผันผวนไปทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย
ดัชนีตลาดหุ้นไทย หลังจากที่ทดสอบระดับ 1600 จุดในไตรมาส 1 ก็เริ่มเคลื่อนไหวผันผวน กระทั่งถูกกระทบด้วยข่าวการแพร่ระบาดของโควิดในรอบที่ 3 นำไปสู่การกึ่งปิดเมือง ในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่หลายจังหวัด ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเม.ย. ถึงสิ้นเดือนพ.ค. หุ้นใหญ่หลายตัว ราคาหุ้นปรับตัวลงแบบหนักแน่น ด้วยวอลุ่มซืัอขายแน่นหนักระดับแสนล้านแทบทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มธนาคาร กลุ่มสื่อสาร กลุ่มค้าปลีก กลุ่มขนส่ง ฯลฯ
ต้องยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยปีนี้คงจะฟื้นตัวยาวๆได้ยาก เพราะสารพัดแรงกดดันจากการระบาดรอบ 3, คำถามกับแผนวัคซีน, ผลกระทบของการปิดเมืองที่นานเกินคาด และการทยอยถูกปรับลดเป้าจีดีพี จากนักวิเคราะห์ไทยและต่างชาติ
เหล่านี้คือปัญหาเรื่อง "ความเชื่อ" ที่ประกอบด้วย เชื่อมือ และ เชื่อใจ ว่าจะจัดการกับปัญหาได้แค่ไหน ถ้าเชื่อมั่น ก็ฟื้นได้เร็ว .... ถ้าไม่เชื่อ ก็ตกท้องช้างยาวไปแบบปีที่แล้ว
================
กลยุทธ์ที่ใช้กับภาวะนี้
================
1. ถ้าคุณมีเงินสด มีแรงซื้อ แต่ถือหุ้นได้ไม่นาน
อาจจะต้องถือเงินสดบางส่วนไว้บ้างก่อน เน้นกระชับพอร์ต ลดหุ้นให้เหลือน้อยตัว ส่วนการเข้าซื้อช่วงนี้ เน้น Selective Buy เฉพาะตัวที่มีประเด็นในการลงทุนเชิงบวกจริงๆ
ข่าวร้าย..คือ โควิดรอบสาม ปิดนานกว่าคาด จะผลีผลามสุดตัวไม่ได้ ไม่งั้นอาจติดหุ้นนาน
ข่าวดี..คือ มีหุ้นที่ลงต่ำระดับเดือน มี.ค. 63 ให้เห็นประปราย ระหว่างนี้ก็ selective buy เลือกเป็นตัวๆ อย่างไม่หักโหม ผมยังเชื่อว่าระลอก 3 ทุเลาเมื่อไหร่ ก็จะมีธีม Reopening Economy ให้เล่นกันอีกรอบ
2. ถ้าคุณมีเงินสด มีแรงซื้อ และถือข้ามรอบได้เกิน 1 ปี
ผมคิดว่าทยอยเลือกหุ้นที่ชอบได้เยอะแยะเลย ต้นทุนหุ้นใหญ่หลายตัวแถวนี้ถือว่าไม่เสียเปรียบ
ถือว่าคุณมีทั้ง เงินสด และ น้ำอดน้ำทน สามารถเลือกจั่วหุ้นในจังหวะที่คนส่วนใหญ่กลัว ถ้าพลาดพลั้งติดยังไง เชื่อว่าไม่เกิน 1 ปียังไงก็ปลอดภัยและมีกำไร
3. ถ้าคุณไม่มีเงินสด ไม่มีแรงซื้อ
งั้นอาจต้องเน้นกระชับพอร์ต ปรับลดพอร์ต ขายหุ้นออกบางส่วน เรียกเงินสดเข้ามือ รอโอกาส ลดหุ้นให้เหลือน้อยตัว หรือไม่ก็ทำงานหาเงินสดมาเติมครับ
เงินสดเหมือนกองหลัง และ บางครั้งช่วยเราวิ่งมายิงทำประตูได้
อวยพรให้ทุกท่าน ผ่านช่วงโควิดรอบ 3 ด้วยกำลังกาย กำลังใจที่เข้มแข็ง อยู่รอด ปลอดภัย และอยู่ดูหุ้นไทยไปทะลุ 1800 จุด อีกครั้ง เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่มั่นใจว่ามีแน่
หุ้นที่แข็งแกร่งและราคามีส่วนลด เป็นสิ่งที่น่าลงทุนเสมอ ต้องมีความหวังกันไว้ครับ