เราเคยสงสัยไหมว่า ทำไมหุ้นถึงลง ?
หุ้นลงได้อย่างไร ...
บางคนอาจจะตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะเป็นเพราะข่าว .. ข่าวดีทำให้หุ้นขึ้น และข่าวร้ายทำให้หุ้นลง
นี้เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะ "ข่าว"เป็นเพียงสิ่งที่เอามาอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว หมายความว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อน ข่าวจึงมาอธิบายตามหลัง
เช่น วันนี้หุ้นลงเพราะอเมริกาพิมพ์เงิน บ่งบอกถึงวิกฤตเศรษฐกิจที่จะมาถึงเร็วๆนี้ ...
ในขณะที่อีกวันหนึ่ง หุ้นขึ้นเพราะอเมริกาพิมพ์เงิน บ่งบอกว่านักลงทุนไม่ถือดอล์ล่าร์ แต่หันไปถือสินทรัพย์เสี่ยงแทน
จากตัวอย่างที่ยกมา ข่าวแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ดังนั้นการซื้อๆขายๆหุ้นตามข่าว ทำให้นักลงทุนเจ็บตัวมานักต่อนักแล้ว
ถ้าอย่างนั้น หุ้นลง เกิดจากอะไร ?
จากหนังสือเรื่อง How To Avoid Stock Market Crash อธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้หุ้นลงมาจาก 4 สาเหตุหลักด้วยกัน ตามลำดับคือ
1. ผลประกอบการที่แย่ลงอย่างต่อเนื่อง
ในหนังสือเขียนไว้ว่า "พื้นฐานของหุ้น" คือเจ้ามือที่แท้จริงในระยะยาวที่จะกำหนดว่าหุ้นจะขึ้นหรือจะลง ในระยะยาว
ถ้าหุ้นมีธุรกิจที่ดี ปัจจัยพื้นฐานดี มันจะมีมูลค่าสูงขึ้น
ในขณะที่หุ้นพื้นฐานแย่ ธุรกิจตะวันตกดิน มูลค่าจะลดลงและนั้นทำให้ราคาหุ้นลง
2. พื้นฐานที่แย่เกิดก่อน เส้นกราฟจะตามมาทีหลัง
เมื่อพื้นฐานแย่ หุ้นก็จะลง พอลงมากๆเส้นกราฟก็จะมีสัญญาณขาย ไม่ว่าจะเป็น Price Pattern หรือการหลุดแนวรับสำคัญของราคาหุ้น จะมีคนที่ลงทุนยาวแต่ใช้เส้นกราฟในการจับจังหวะ หรือเล่นสั้นเน้นถือเร็ว ก็จะขายเอาเงินสดออกมาก่อน จากที่หุ้นลงก็จะยิ่งลงหนักขึ้นไปอีก
ผลประกอบการที่แย่ ราคาหุ้นก็จะลง เมื่อราคาหุ้นลงมาก
คนที่เก็งกำไรขา Short ก็จะตามมา
3. เส้นกราฟมีสัญญาณลง คนเล่น Short จะเข้ามาเก็งกำไรจากหุ้นขาลง
มีคนจำนวนมากที่ชอบเล่นหุ้นขาลง เพราะขาลงทำเงินได้ง่ายกว่าและเร็วกว่าขาขึ้นมาก ปัจจุบันมีการกระจายตัวของกลุ่มคนเล่น Short จากเมื่อก่อนจะเป็นนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ Hedge Fund แต่เดียวนี้นักลงทุนรายย่อย เทรดเดอร์ทั่วไปก็สามารถ Short หุ้นได้เหมือนกัน หรือแม้แต่การ Short ดัชนี ก็นิยมมากในปัจจุบัน
การ Short จะยิ่งทำให้หุ้นลงเกินกว่าเหตุ ยิ่งเดียวนี้เราสามารถใช้ Margin ได้มาก มีการใช้ Block Trade เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้หุ้นลงหนักและยาวนานกว่าเดิม
... แต่เราต้องเข้าใจว่า หุ้นลงหนักก็เป็นโอกาสของใครสักคนหนึ่ง ที่มองเห็นโอกาส ได้เช่นเดียวกัน
4. ภาพตลาดอยู่ในขาลง
เมื่อหุ้นขนาดใหญ่ลงมาก ส่งผลให้ดัชนีอยู่ในสภาวะ "ตลาดหมี" ยิ่งทำให้คนจำนวนมากเชื่อว่าหุ้นจะลงต่อได้อีก
นี้ก็เป็น 4 สาเหตุหลักที่ทำให้หุ้นลง นั้นคือ พื้นฐานที่แย่หุ้นลง หลังจากนั้นเส้นกราฟมีสัญญาณขาย พอขายมากๆคนก็ยิ่ง Short เพิ่ม พอหุ้นลงลึกลงหนักภาพตลาดโดยรวมเป็นขาลง หุ้นรายตัวเลยยิ่งลงหนักกว่าเดิม
แต่หนังสือเล่มนี้ยังได้แนะนำอีกว่า "จุดที่น่ากลัวที่สุด จึงเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุด" หมายความว่าจุดที่น่าซื้อที่สุด คือจุดที่น่ากลัวที่สุด จุดที่คนไม่สนใจ จุดที่มีแต่ความหวาดกลัว นักลงทุนสวนกระแสจะทำเงินได้มากในสภาวะตลาดแบบนี้
ดังนั้น นักลงทุนต้องรู้จักมองหาโอกาสอยู่เสมอ แม้ว่าตลาดจะอยู่ในสภาะวะขาลง หรือน่ากลัวขนาดไหนก็ตาม