ต้องยอมรับเลยว่าธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจที่ "ปราบเซียน" ในระดับหนึ่ง มีความยุ่งยากในการบริหาร จะกำไรก็ยาก ขาดทุนง่าย ยิ่งมีวิกฤตด้วยแล้วโอกาสจะกลับมาได้นั้นต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน
ตัวอย่างเช่น หุ้น M หรือบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ตอนเข้ามาใหม่ๆก็สร้างเสียงฮือฮาได้ในระดับหนึ่งสำหรับคนที่อยากจะจองซื้อหุ้น IPO ที่ราคา 49 บาท และราคาก็ขึ้นไปสูงถึง 80 กว่าบาท และคนก็เชื่อกันว่าอาจจะได้เห็นหุ้น M แตะระดับเลข 3 หลักได้ไม่ยาก

ถ้าพูดถึงในแง่ของผลประกอบการก็มีโอกาสเป็นแบบนั้นจริงๆ ...
ปี 2560 บริษัทมีรายได้ 1.64 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 2.42 พันล้านบาท
ปี 2561 บริษัทมีรายได้ 1.72 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 2.57 พันล้านบาท
ปี 2562 บริษัทมีรายได้ 1.78 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 2.61 พันล้านบาท
.
โดยเฉลี่ยแล้วบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 65%
และอัตรากำไรสุทธิ อยู่ราวๆ 15% ถือว่าสูงมาก ทำผลงานได้ดีมาโดยตลอด

แต่พอเจอช่วงปี COVID-19 รายได้หายไปมาก
ปี 2563 บริษัทมีรายได้เพียง 1.3 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 907 ล้านบาท เท่านั้น
โดยสาเหตุหลักมาจาก การนั่งทานที่ร้านลดลงมากเหลือเพียงการซื้อกลับบ้านและบริการ Delivery เท่านั้น หลายสาขาต้องปิดไปประมาณ 66 สาขา คิดเป็น 9% ของสาขาทั้งหมด ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิอยู่ราวๆ 6% เท่านั้น
 

และไตรมาส 1 ของปี 2564 ทำรายได้ไปเพียง 3.15 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 88 ล้านบาท ลดลดมากถึง 75% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเหตุผลอธิบายก็พอเข้าใจได้ว่าเจอการระบาดรอบ 3 ที่แรงกว่าเดิม

ส่วนในแง่ของราคาหุ้นนั้น เคยอยู่ระดับ 80 กว่าบาท ตอนนี้เหลือเพียง 50 กว่าบาทเท่านั้นก็เป็นการสะท้อนให้เห็นแล้ว "น่าผิดหวัง" และจะกลับมาสู่จุดเดิมก่อนวิกฤตได้นั้นเป็นเรื่องลำบากพอสมควร

.

ประเด็นสำคัญที่นักลงทุนถาม คือ M จะกลับมาได้อีกไหม
เราลองมาสำรวจความเห็นจากบทวิเคราะห์กันสักหน่อยครับ ...

บล. เอเชียพลัส วิเคราะห์ว่า M จะกลับมาได้ไม่เกินปี 2567 .. เท่ากับว่าอีก 3 ปีข้างหน้า

1. ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาผลงานยังไม่ดี ส่วนครึ่งปีหลังคิดว่าจะเริ่มฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปจากการกระจายวัคซีน แต่สิ่งที่กดดันอยู่คือ กำลังซื้อในประเทศที่ขาดหายไป

2. คาดว่าปี 2564 กำไรทั้งปีจะอยู่ที่ 600 ล้านบาท คือ น้อยกว่าปี 2563

3. ส่วนปี 2565 เป็นต้นไปจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น และจะกลับมาได้ไม่เกินปี 2567 แต่ทั้งนี้ต้องสอดคล้องกับสมมติฐานการท่องเที่ยวว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาได้ สัดส่วนราว 20% ของ GDP

4. สิ่งทีต้องติดตาม คือ กำลังซื้อของผู้บริโภคจะกลับมามากน้อยแค่ไหน การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะมีความต่อเนื่องไหม รวมถึงเมื่อทิศทางของ COVID-19 ดีขึ้น วัคซีนกระจายทั่วถึง บริษัทจะยังเปิดร้านสาขาใหม่เพิ่มเติมมากน้อยแค่ไหน

5. แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาที่ลงมามาก และเมื่อเทียบกับกลุ่มจะเห็นว่า P/BV ของ M ซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั้งกลุ่ม  ถือว่ามีความน่าสนใจในแง่ของการลงทุนระยะยาว

สรุปแล้ว หุ้น M จะกลับมาได้ไหม อาจจะต้องรอถึงปี 2567 ถึงจะเห็นความชัดเจนขึ้น เพราะผลประกอบการในปี 2563-2564 จะยังไม่ฟื้นตัวเด่นชัดเนื่องมาจากวิกฤต COVID-19 ที่ระบาด
ความหวังอยู่ที่วัคซีน และกำลังซื้อของผู้บริโภคจะกลับมาฟื้นตัวได้หรือไม่ ยังคงเป็นคำถามอยู่ ...
แต่ในแง่ของ "ราคาหุ้น" ถือว่ามีความน่าสนใจ โดย P/Bv ตอนนี้อยู่ราวๆ 3 เท่า ซึ่งต่ำกว่าที่เคยซื้อขายกันมา และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ทำให้มีความน่าสนใจในแง่ของการลงทุนระยะยาว

นี้ก็เป็นสตอรี่ของหุ้น M ตอนนี้ จะฟื้นได้หรือไม่ ต้องมองกันยาวๆครับ

==================================

ขอบคุณแหล่งข้อมูล

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์เอเชียพลัส

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย