ถือเป็นประเด็นที่แปลกมากที่ อีลอน มัสก์ สามารถควบคุมราคาเหรียญเบอร์ 1 อย่าง Bitcoin ได้

อย่างทีนักลงทุนทราบกัน เมื่อไม่นานมานี้ทางอีลอน มัสก์ ได้ออกมาเผยผ่าน Twitter ของเขาว่า ขณะนี้ลูกค้าในสหรัฐอเมริกาสามารถใช้บิตคอยน์สำหรับซื้อรถ Tesla ได้แล้ว  ส่งผลให้ราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างมาก ทางอีลอน มัสก์ เองก็กล่าวยกยอ Bitcoin ต่างๆนาๆ ว่าจะเปิดรับชำระในประเทศอื่นด้วย สกุลเงินนี้จะเป็นสกุลเงินแห่งอนาคต

ทาง Tesla ให้เหตุผลต่อประเด็นเรื่องรับ Bitcoin ไว้ว่า "เพื่อความยืดหยุ่นทางการเงิน และเพื่อเป็นการเก็งกำไรให้กับบริษัท" และก้าวต่อไปของ Tesla คือการพัฒนาระบบรับชำระเงินด้วยบิตคอยน์เพื่อซื้อสินค้าและบริการของ Tesla ผ่านกระดานเทรดต่างๆ ซึ่งจะทำให้  Tesla กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์บริษัทแรกของโลกที่รับชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซี

มีผู้ใช้จำนวนมากได้เข้าไปตรวจสอบที่เว็บของ Tesla ปรากฏว่ามีให้ซื้อรถโดยใช้ Bitcoin ได้จริงๆ ดูเหมือนว่าอะไร อะไร ก็จะมีทิศทางที่ดูดี ทาง อีลอน มัสก์ก็มีสร้างกระแสต่อเหรียญสกุลอื่นๆด้วย อย่างเช่น DogeCoin ด้วย ราวกับว่าเหรียญอะไรก็ตามที่อีลอน มัสก์ กล่าวถึง ราคาก็จะพุ่งได้แรง

ไม่ใช่เพียงแค่เหรียญอย่างเดียว แต่สินทรัพย์อย่างเช่นหุ้นก็ขึ้นได้แรงไม่แพ้กัน เหมือนกับว่าตัวเองเป็น "พ่อมด" แห่งวอลสตรีทไปแล้ว
เรามาย้อนดูตัวอย่างกันครับ

>>> อีลอน มัสก์ ทวีตสั้นๆว่า "DOGE" ที่หมายถึงเหรียญคริปโต Dogecoin ส่งผลให้ 30 นาทีต่อมาเหรียญ Dogecoin พุ่งอย่างแรง

>>> อีลอน มัสก์ ทวีตว่า "ผมชื่นชอบร้านค้าปลีก Etsy" ผลปรากฏว่าหุ้นค้าปลีกออนไลน์ของบริษัทนี้พุ่งขึ้นมา 10% โดยตอนหลังเขาออกมาบอกว่า เขาได้ซื้อหมวกไหมพรมที่ซื้อจากเว็บไซด์นี้มาให้สัตว์เลี้ยงของเขาเฉยๆ
 
>>> อีลอน มัสก์ ทวีตสั้นๆว่า "Gamestonk" ส่งผลให้หุ้น Gamestop พุ่งขึ้น 100% ในวันเดียว

>>> อีลอน มัสก์ ทวีตว่า "เทสลาเล่นเกม Cyberpunk ได้นะครับ"  ส่งผลให้หุ้น CD Projekt บริษัทที่ผลิตเกม Cyberpunk ขึ้นมาถึง 12% ในวันเดียว

และยังมีวีรกรรมอื่นๆอีกมาก ...

หลังการประกาศงบของ Tesla ปรากฏว่ามีคนจำนวนมากให้ความสนใจต่อการบันทึกทางด้านบัญชีของ Bitcoin เลยพยายามเจาะงบของ Tesla ปรากฏว่าทางบริษัทมีการขายออกมาบางส่วน ทาง อีลอน มัสก์ ก็ให้เหตุผลว่า "ทำไปเพื่อทดสอบสภาพคล่อง"
ต่อมาไม่นาน อีลอน มัสก์ ก็ประกาศว่า Tesla จะระงับการใช้ Bitcoin ในการชำระเงินเพื่อซื้อรถ Tesla เพราะว่า การขุดเหมือง Bitcoin ใช้พลังงานมหาศาล ก่อให้เกิดพลังงานที่สกปรกมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ... อ่าว ซะอย่างนั้น !!

ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจต่ออีลอน มัสก์ อย่างมาก โลกออนไลน์เลยสร้างเหรียญ FUCKELON ขึ้นมา โดยชื่อเต็มของมันคือ "Fuck Elon musk" เพื่อเป็นการสร้างกระแสความไม่พอใจต่อตัวของอีลอน มัสก์
ต่อมามีชาวเน็ตคนหนึ่งโพสต่อว่า อีลอน มัสก์ ว่าเป็นคนที่ปั่นมูลค่าเงินดิจิตอลจำนวนมาก ไม่รู้ว่าจะเล่นหรือจะจริง ทำให้เกิดความปั่นป่วนต่อนักลงทุน เมื่อก่อนรับ Bitcoin บอกว่าดีอย่างนู้นอย่างนี้ แต่พอขายเสร็จก็บอกว่าทำให้โลกร้อน ตอนนี้ก็มาปั่น Dogecoin เหรียญน้องหมา อีก ....

อีลอน มัสก์ ก็่โพสตอบโต้ว่า จริง ๆ แล้ว บิตคอยน์มีความ Centralized สูงมาก เพราะมันถูกควบคุมอยู่โดยกลุ่มคนไม่กี่คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขุดเหมือง และผู้ถือเหรียญปริมาณมากๆสามารถบังคับทิศทางของราคาได้
 อย่างล่าสุดเหมืองถ่านหินในซินเจียงประสบเหตุการณ์น้ำท่วมทำให้อัตราการขุดบิตคอยน์หายไปกว่า 35% ... แบบนี้ เรายังคิดว่ามัน Decentralized อีกเหรอ ?

ด้วยประเด็นนี้ก็มีชาวเน็ตเข้ามารุมถล่มแบบ "ทัวร์ลง" นายอีลอน มัสก์ อย่างไม่ขาดสาย ...

ประเด็นที่น่าสนใจ คือ มีบัญชีทวิตเตอร์ ชื่อ Mr. Whale เข้ามาถามว่า ผู้ถือ Bitcoin จะต้องเสียใจอย่างแน่นอน เมื่อพบว่าไตรมาสหน้า Tesla ได้ขาย Bitcoin ออกไปหมดแล้ว ... แต่ฉันก็ไม่โกรธ ไม่เกลียด เขาหรอกนะ ถ้าเขาจะขายมันไปจริงๆ .
ซึ่งอีลอน มัสก์ เองก็มาตอบเห็นด้วยกับข้อความว่า Indeed ที่แปลว่า แน่นอน

ทำให้เกิดความสงสัยว่า คำว่า "แน่นอน" ของอีลอน มัสก์ หมายถึง ได้ขาย Bitcoin ไปหมดแล้ว หรือยังไม่ได้ขายแล้วกำลังคิดจะขาย
อย่างที่รู้กันว่า โลกของการลงทุน การเก็งกำไร ตลาดเกลียดความไม่แน่นอน ...
อะไรที่ไม่แน่นอน มันก็จะมีความเสี่ยง คนก็จะเทขายสินทรัพย์นั้นออกมา ด้วยเหตุการณ์นี้เองทำให้มูลค่าเหรียญในตลาดต่างลงกันมากถึง 10-15% ถ้านับมูลค่าแล้วก็หลายแสนล้านเหรียญเลยทีเดียว

ตอนนี้สิ่งที่พอจะทำได้ คือ น่าจะไปบอกทางทวิตเตอร์ว่าให้ระงับการใช้ของนายอีลอน มัสก์ ออกไปก่อน ไม่ให้สร้างกระแสความเคลือบแคลงสงสัยกันไปมากกว่านี้ เพราะการทวิตของเขาคนเดียวทำให้อีกฝั่งได้กำไรมหาศาล และอีกฝั่งก็สูญเสียมหาศาล เช่นเดียวกัน