ต่อจากตอนที่แล้ว

 

(3)   กรณีเจ้าของหุ้นผู้มีส่วนได้เสียทำเสียเองเลย กรณีนี้ ความจริงความหมายของคำว่า Front Run ไม่ได้หมายรวมถึงคนกลุ่มนี้ด้วย แต่ในทางปฏิบัติในชีวิตจริงของตลาด คนกลุ่มนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำการซื้อ หรือ ขายหุ้น ก่อนการทำรายการจริงเสมอ ผมจึงตีความคำว่า Front Run มาถึงคนกลุ่มนี้ด้วยไงครับ

 

(4)   ข้อนี้เป็นข้อที่พิเศษหน่อย คือบางครั้งพวกเราก็อาจจะสังเกตพบว่าการเล่น Front Run นี้เป็นเพียงเกมอย่างหนึ่งของนักปั่น ผมเรียกมันว่าเป็นเกมระหว่างเซียน คือ บทที่มันกลายเป็นเรื่องแผนซ้อนแผน วางกลเกม  เป็นหมากซ้อนหมากไว้หลายชั้น จนนักลงทุนธรรมดาคิดตามไม่ทัน

 

กล่าวคือการเล่น Front Run อาจเกิดจากการวางเกมหลอก ด้วยการส่งหรือ Big Lot หรือทยอยสั่งซื้ออย่างตั้งใจ คนถนัด Front Run ก็จะเดินเกมถนัดของตน เช่น สั่งซื้อตัดหน้า ดังได้กล่าวมาแล้ว เซียนนักปั่นก็จะทำทีเป็นส่งคำสั่งซื้อทยอยมาให้มากขึ้น เพื่อให้เซียนที่ชอบเล่น Front Run ติดกับ หลงกล ชักชวนพรรคพวกซื้อตามเข้าไปอีก จนราคาหุ้นวิ่งสูงขึ้น จากนั้นเซียนนักปั่นก็ทิ้งของก่อน ทำเอาเซียนชอบฟ้อนรำของผมหน้าแตก กระเป๋าฉีกไปตาม ๆ กัน

 

แต่รายการคมเฉือนคมก็ยังเกิดขึ้นเสมอ เพราะเซียนฟ้อนรำก็จะรู้ทันด้วยการขายตัดหน้าออกมาก่อน

   

เกมแบบนี้ไม่มีใครแพ้ ใครชนะ ผลัดกันรุก ผลัดกันรับมาเรื่อย ๆ แต่คนที่แพ้มักจะเป็น "แมงเม่า" เสมอ

 

ครับใช่แล้ว เหนือฟ้า ยังมีฟ้า เหนือเซียน ก็ยังมีเซียน

 

 

ผมขอขยายความอีกนิดนึง เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายว่าที่จริงการเล่นฟ้อนรำ (Front Run) ในตลาดทุนนั้น ยังไม่เคยมีกรณีร้ายแรงถึงขั้นที่ทำให้ตลาดต้องแกว่งไกวไปตามกระบวนการเหล่านั้นเลย เรียกได้ว่าเป็นการทำกำไรแบบฉวยโอกาสนั่นเอง แต่วิชาการเช่นนี้ ผมว่าพวกเราในฐานะนักลงทุนไม่มีใครชอบหรอกครับ   มันรู้สึกเสียหน้า เสียเหลี่ยม

 

อีกประการหนึ่ง เชื่อเถอะว่าคุณอาจจะเป็นอีกคนหนึ่งที่มักจะถือโอกาสฟ้อนรำได้เหมือนกัน หากมีโอกาสรู้ข่าววงใน แล้วแอบเก็บหุ้นล่วงหน้า โดยเฉพาะหุ้นบริษัทที่ตัวเองเป็นเจ้าของ หรือเป็นผู้บริหารอยู่ บางทีมันก็อดใจไม่ได้เหมือนกัน ข้อมูลอยู่ตรงหน้า ราคาอยู่ถัดไป เก็บซะหน่อยก็ไม่ได้ทำให้ใครเสียหาย แต่ต้องระวังนะครับ  ถ้าทำอย่างไม่เนียน ก็อาจจะโดนข้อกล่าวหาจาก กลต. ได้เหมือนกัน

 

ผมมาเล่าเรื่องแบบนี้ให้ท่านผู้อ่านของผมได้รับฟังไว้ มิใช่ด้วยเจตนาจะให้ไปคอยจับผิดใคร แม้กระทั่งคนในครอบครัว หรือคนในทีมนะครับ เพียงนำสิ่งที่รู้มาเผยแพร่เพื่อให้ “รู้เท่าทัน” กลเกมต่าง ๆ ในตลาดหุ้น  เท่านั้นเอง

 

ท้ายที่สุด อย่าไปหลงกลนักปั่นเข้านะครับ คอยสังเกตให้ดี ใช้วิจารณญาณให้ถ่องแท้ นอกจากนั้น ก็ขอให้ตระหนักถึงจรรยาบรรณในเรื่องแบบนี้ไว้ด้วย ตลาดหุ้นบ้านเราจะได้พัฒนาไปสู่ทิศทางที่ดี เป็นที่เลื่อมใส ศรัทธา  ของนักลงทุนทั่วไปครับ 

 

*******

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือ "ปั้นหุ้น"  ของคุณวิชัย ทองแตง เล่มล่าสุด (พฤศจิกายน 2558)