"ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน เป็นราคาที่มีความเหมาะสมอยู่แล้ว..."

Efficient Market Hypothesis คือทฤษฏีที่ได้รับความนิยมมากเมื่อหลายสิบปีก่อน แปลเป็นไทยคือ ทฤษฏีตลาดที่มีประสิทธิภาพ กล่าวไว้ว่าหุ้นทุกตัวที่ซื้อขายอยู่ในตลาดทุกตัวเป็นราคาที่เหมาะสมอยู่แล้ว ไม่มีคำว่าถูกหรือแพง และการคาดเดาทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้เลย

จากหนังสือเรื่อง Random Walk Down on WallStreet หรือเดินสุ่มในวอลสตรีท ได้อธิบายไว้ว่า การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นเรื่องที่มองได้ยาก การอ่านงบการเงินก็เป็นเรื่องของการตีความมากกว่า บางคนให้ความสำคัญกับกำไรสุทธิ บางคนให้ความสำคัญกับอัตราการเติบโตของกำไร บางคนให้มูลค่าของการปันผลที่มาก เป็นต้น ดังนั้นจับคนกลุ่มนั้นมาอยู่ในตลาดรวมๆกัน เราจะได้ราคาที่เหมาะสมกันพอดี
... ในแง่ของการเก็งกำไรโดยใช้กราฟเทคนิเคิล เป็นกิจกรรมที่ "ไม่มีประโยชน์อะไรเลย"
นักวิชาการที่เชื่อในทฤษฏีนี้ แสดงการทดลองโดยเอาข้อมูลราคาหุ้นย้อนหลังมาพิสูจน์ และพบว่าราคาหุ้นเคลื่อนไหวไปอย่าง "ไร้ทิศทาง" ราคาหุ้นของวันนี้ ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับเมื่อวาน หรือแนวโน้มของราคาในวันถัดๆไป เส้นกราฟราคาหุ้นไม่มีรูปแบบ หรือไม่มีแบบแผนที่แน่นอน (นั้นจึงเป็นที่มาของคำว่า Random Walk หรือการเดินสุ่ม นั้นเอง) แนวรับ-แนวต้านไม่ได้มีอยู่จริง หรือแม้แต่ Chart Pattern ก็เกิดจาก "จินตนาการ" ของคนดูกราฟเอง

เคยมีเรื่องเล่าว่า มีศาสตราจารย์คนหนึ่ง ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการ "สุ่มเลข" ขึ้นมาแล้วนำมาพล็อตเป็นกราฟแท่งเทียน เสร็จแล้วก็บอกนักศึกษาที่ชำนาญในเทคนิเคิลว่า "กราฟจะไปทานไหน" ซึ่งนักศึกษาต่างก็ใช้เทคนิคต่างๆวิเคราะห์ออกมาเป็นภาพ
"หุ้นมีโอกาสขึ้นได้ต่อ เพราะยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย... "

"กราฟเป็น Head and Shoulder นั้นแสดงว่าราคากำลังจะลง"

" ...แท่งเทียนกำลังทดสอบแนวต้าน ราคาหุ้นกำลังจะลงให้ขายออกไปก่อนมารับที่แนวรับ"

หลังจากการแสดงความคิดเห็นแล้ว ศาสตราจารย์นั้นบอกว่ากราฟที่นักศึกษาเห็นเกิดจากการ "สุ่มตัวเลข" ของคอมพิวเตอร์ มันเป็นการสุ่มที่ไม่มีแบบแผนมาก่อน
ดังนั้นศาสตราจารย์จึงสรุปว่า ราคาหุ้นเป็นการเคลื่อนที่ไม่มีแบบแผน ราคาหุ้นที่ปรากฏอยุ่ในตลาดเป็นราคาที่มีความเหมาะสมอยู่แล้ว
... นั้นเป็นความเห็นของนักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์

แต่นั้นคงไม่ใช่กับความคิดเห็นของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างวอเร็น บัฟเฟตต์ หรือแม้กระทั่งผู้จัดการกองทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ปีเตอร์ ลินซ์
วอเร็น บัฟเฟตต์ เคยแสดงความเห็นไว้ว่า ระยะสั้นตลาดหุ้นดุเหมือนจะเป็นตลาดทีมีประสิทธิภาพ แต่ในระยะยาวแล้วตลาดไม่มีประสิทธิภาพ ทุกคนจึงสามารถหาประโยชน์ได้จากความไม่มีประสิทธิภาพเหล่านั้น

แม้แต่ปีเตอร์ ลินซ์ ก็เคยพูดไว้ในหนังสือ One Up On WallStreet ไว้ว่า ถ้าตลาดมีประสิทธิภาพ เขาคงมีอาชีพพนักงานทำความสะอาด แทนที่จะมาเป็นผู้จัดการกองทุน พูดง่ายๆคือ เขาไม่เชื่อในเรื่องของความมีประสิทธิภาพ ในทุกๆช่วงเวลาของตลาดจะมีโอกาสอยู่เสมอ อยู่ที่ว่าเราจะมองหามันเจอหรือไม่

ทฤษฏีตลาดที่มีประสิทธิภาพเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล แล้วเพื่อนๆละครับมีความคิดเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้กันบ้าง
1. ราคาหุ้นที่เห็นในตลาด เป็นราคาที่เหมาะสมอยู่แล้ว
2 ตลาดหุ้นเป็นตลาดที่ไม่มีประสิทธิภาพ นักลงทุนมักจะให้มูลค่าที่ผิดอยู่เป็นประจำ