บรรยากาศการลงทุนช่วงต้นถึงกลางเดือนเมษายน 2564 จัดว่าไม่ดีเลย ดัชนี SET ที่เคยเป็นขาขึ้นในช่วงต้นปี กระทั่งทดสอบ 1600 จุดเป็นเวลาสั้นๆช่วงต้นเดือนเม.ย. ก็กลับเข้าสู่ช่วงการขายลดความเสี่ยง จากข่าวการระบาดของโควิดเป็นรอบที่ 3 ครั้งนี้จัดว่ารุนแรง และเป็นครั้งแรก ที่
- การระบาดเริ่มขึ้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร มีคลัสเตอร์กระจายรุนแรงหลายแห่ง
- การระบาดส่งออกไปยังหัวเมืองใหญ่ และกระจายไปแทบทุกจังหวัดทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
- การระบาดรุนแรง มีผู้ติดเชื้อเกิน 1,300 รายต่อวัน เป็นครั้งแรก
ผลก็คือ เทศกาลมหาสงกรานต์ 2564 ก็เงียบฉี่กันไปทั่วหล้า หนึ่งในความน่าหงุดหงิด ของโควิดรอบ 3 นี้ คือมันมาในเวลาที่ไม่ควรมา คือแค่ 1 สัปดาห์ก่อน เทศกาลสงกรานต์
-> ช่วงเวลาที่มีวันหยุดยาว ยาวที่สุด ในรอบปีของคนไทย
-> ช่วงเวลา แห่งการกลับบ้าน เยี่ยมพ่อแก่ แม่เฒ่า ของพี่น้องร่วมชาติ
-> และ เป็น "หน้านา" ช่วงเวลาทำมาหากินของสารพัดร้านรวง อีเว้นท์ คอนเสิร์ต สปา ท่องเที่ยวและ สารพัดธุรกิจ
มาระบาดตัดหน้าเทศกาลใหญ่แบบนี้ ช่างโหดร้าย ย่ำยี ประดุจแกล้งกัน เอาละ ไหนๆก็ระบาดมาแล้ว คำถามใหญ่ของชีวิตนักลงทุน คือ แล้วเราจะทำอย่างไรกับการลงทุนช่วงนี้ ?
ผมคิดว่า ก่อนที่เราจะไปที่ข้อสรุปว่าควรทำยังไง ลองมองย้อนกลับไปดูการฉายหนังซ้ำของโควิด ในรอบที่ผ่านๆมา
1. โควิดรอบแรก
ช่วงเวลา : มี.ค.-เม.ย. 2563
ต้นตอ : ระบาดจากต่างประเทศ และ คลัสเตอร์สนามมวย
อารมณ์นักลงทุน : ผู้คนกลัวมากที่สุด ไม่รู้วิธีรักษา ไม่มียา ไม่มีวัคซีน รัฐจึงสั่งปิดสารพัดธุรกิจเป็นเวลานาน ถนนการเดินทางมีการจำกัด จัดเป็น National Lockdown ปิดทั่วประเทศ ธุรกิจเสียหายหนักมาก
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ : หุ้นลงหนักมาก SET ลงลึกสุด -35%
2. โควิดรอบสอง
ช่วงเวลา : ปลาย ธ.ค.63 -ม.ค. 2564
ต้นตอ : ระบาดจากประเทศเพื่อนบ้าน แรงงานข้ามชาติ เกิดคลัสเตอร์ตลาดสมุทรสาครและ บ่อนการพนันภาคตะวันออกในสามพื้นที่
อารมณ์นักลงทุน : ผู้คนกลัวมาก แต่ไม่มากเท่ารอบแรก รู้วิธีรักษา เริ่มมีวัคซีนแล้ว รัฐสั่งปิดแค่บางธุรกิจ Lockdown เป็นบางจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดง ธุรกิจอาหารทะเลเสียหายหนัก
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ : ตลาดหุ้นกลับลดลง "ไม่หนักมาก" 1482 ไปลึกสุด 1401 ก็คือลงเบาะๆแค่ -5.47%
3. โควิดรอบสาม
ช่วงเวลา : เม.ย. 2564
ต้นตอ : ระบาดจากกรุงเทพฯใจกลางเมือง ย่านทองหล่อ ผับบาร์ การรวมตัวยามค่ำคืน
อารมณ์นักลงทุน : ในช่วงเริ่มต้น นักลงทุนยังไม่กลัวมาก เพราะหลายประเทศก็มีการระบาดปิดเมืองรอบที่สามกันไปแล้ว แต่เพราะการกระจายวัคซีนในอัตราเร่ง ตลาดหุ้นในยุโรป อเมริกา และอีกหลายประเทศจึงแทบไม่ลดลงเลย แม้จะมีการปิดเมืองเกือบทั่วประเทศก็ตาม
ดัชนี SET ช่วงแรกก่อนสงกรานต์ จึงยังลงอย่างจำกัด (1600->1541) ลดลงเพียง -3.7% แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงต้องเฝ้าติดตามปัจจัยการควบคุมโดยรัฐ ว่ารัฐบาลจะสั่งปิดธุรกิจอะไรบ้าง จังหวัดไหนบ้าง ? และธุรกิจจะเสียหายหนักไหม การฟื้นตัวจะเนิ่นช้าไปอีกนานเท่าไหร่ ? กระทบกลุ่มใดบ้าง?
SET หลังสงกรานต์จะลงไหม? ...ถ้าให้เลือกเดาก็จะขอตอบว่า น่าจะลง แต่ก็ควรจะ “ลงไม่หนักมาก” และ ถ้าลงหนักผมเชื่อว่า นี่อาจจะเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นไทยพื้นฐานดี ที่ราคาย่อตัว โควิดรอบ 3 นี้น่าจะเป็นครั้งที่ผู้คนตกใจที่สุดแล้วครับ ต่อให้มีรอบที่ 4 มาอีก 3 เดือนหลังจากการเปิดเมือง(เดือนกรกฎาคม) ถึงตอนนั้นประเทศไทยจะมีวัคซีนหลายล้านโดสเข้ามาและเร่งฉีด สิ่งนี้จะค้ำยัน Sentiment เชิงบวกให้ตลาดได้
ถ้ารอบนี้ตลาดหุ้นปรับตัวลงไป เราเลือกกลุ่มอะไรดี? เลือกหุ้นอะไรดี? รอบนี้เหมือนฉายหนังซ้ำเป็นรอบที่ 3 แล้วครับ ผมคิดว่า
1. หุ้นที่ฟื้นตัวเร็ว นักลงทุนเล่นขึ้นมารอผลประกอบการแล้ว กลุ่มนี้นักลงทุนรายใหญ่สนใจและน่าจะฟื้นก่อน ถ้ามีการย่อตัวในรอบนี้ก็น่าสนใจ เช่น กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มสถาบันการเงิน เป็นต้น
2. หุ้นที่ยังไม่ได้มีขาขึ้นอะไรกับใครเขา ถ้ารอบนี้ ยังจะลงซ้ำอีก ก็จะยิ่งถูกมากขึ้นไปอีก แบบนี้ยิ่งน่าสนใจ เช่น หุ้นสื่อสารขนาดใหญ่ หุ้นโรงไฟฟ้าใหญ่ หุ้นขนส่งขนาดใหญ่ เป็นต้น
โควิดมารอบที่สาม เหมือนฉายหนังรอบที่สาม พอมองทางอะไรได้ ผมเชื่อว่าศักยภาพตลาดหุ้นไทยสามารถกลับมายืนเท่าระดับ Pre-Covid เหมือนกับที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลกไปถึง และทะลุเกินกันไปหมดแล้ว
หุ้นที่แข็งแกร่งและราคามีส่วนลด เป็นสิ่งที่น่าลงทุนเสมอครับ