#แนวคิดด้านการลงทุน

ฉายหนังซ้ำรอบที่ 3 … โควิดรอบ 3

โดย อธิป กีรติพิชญ์
เผยแพร่:
97 views

บรรยากาศการลงทุนช่วงต้นถึงกลางเดือนเมษายน 2564 จัดว่าไม่ดีเลย ดัชนี SET ที่เคยเป็นขาขึ้นในช่วงต้นปี กระทั่งทดสอบ 1600 จุดเป็นเวลาสั้นๆช่วงต้นเดือนเม.. ก็กลับเข้าสู่ช่วงการขายลดความเสี่ยง จากข่าวการระบาดของโควิดเป็นรอบที่ 3 ครั้งนี้จัดว่ารุนแรง และเป็นครั้งแรก ที่

  • การระบาดเริ่มขึ้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร มีคลัสเตอร์กระจายรุนแรงหลายแห่ง 
  • การระบาดส่งออกไปยังหัวเมืองใหญ่ และกระจายไปแทบทุกจังหวัดทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว 
  • การระบาดรุนแรง มีผู้ติดเชื้อเกิน 1,300 รายต่อวัน เป็นครั้งแรก  

 

ผลก็คือ เทศกาลมหาสงกรานต์ 2564 ก็เงียบฉี่กันไปทั่วหล้า หนึ่งในความน่าหงุดหงิด ของโควิดรอบ 3 นี้ คือมันมาในเวลาที่ไม่ควรมา คือแค่ 1 สัปดาห์ก่อน เทศกาลสงกรานต์ 

-> ช่วงเวลาที่มีวันหยุดยาว ยาวที่สุด ในรอบปีของคนไทย 

-> ช่วงเวลา แห่งการกลับบ้าน เยี่ยมพ่อแก่ แม่เฒ่า ของพี่น้องร่วมชาติ 

-> และ เป็น "หน้านา" ช่วงเวลาทำมาหากินของสารพัดร้านรวง อีเว้นท์ คอนเสิร์ต สปา ท่องเที่ยวและ สารพัดธุรกิจ  

 

มาระบาดตัดหน้าเทศกาลใหญ่แบบนี้  ช่างโหดร้าย ย่ำยี ประดุจแกล้งกัน เอาละ ไหนๆก็ระบาดมาแล้ว คำถามใหญ่ของชีวิตนักลงทุน คือ แล้วเราจะทำอย่างไรกับการลงทุนช่วงนี้ ? 

 

ผมคิดว่า ก่อนที่เราจะไปที่ข้อสรุปว่าควรทำยังไง ลองมองย้อนกลับไปดูการฉายหนังซ้ำของโควิด ในรอบที่ผ่านๆมา 

 

1. โควิดรอบแรก

ช่วงเวลา : มี..-เม.. 2563 

ต้นตอ : ระบาดจากต่างประเทศ และ คลัสเตอร์สนามมวย

อารมณ์นักลงทุน : ผู้คนกลัวมากที่สุด ไม่รู้วิธีรักษา ไม่มียา ไม่มีวัคซีน รัฐจึงสั่งปิดสารพัดธุรกิจเป็นเวลานาน ถนนการเดินทางมีการจำกัด จัดเป็น National Lockdown ปิดทั่วประเทศ ธุรกิจเสียหายหนักมาก 

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์  : หุ้นลงหนักมาก SET ลงลึกสุด -35% 

 

2. โควิดรอบสอง

ช่วงเวลา : ปลาย ..63 -.. 2564

ต้นตอ : ระบาดจากประเทศเพื่อนบ้าน แรงงานข้ามชาติ เกิดคลัสเตอร์ตลาดสมุทรสาครและ บ่อนการพนันภาคตะวันออกในสามพื้นที่ 

อารมณ์นักลงทุน : ผู้คนกลัวมาก แต่ไม่มากเท่ารอบแรก รู้วิธีรักษา เริ่มมีวัคซีนแล้ว รัฐสั่งปิดแค่บางธุรกิจ Lockdown เป็นบางจังหวัดที่เป็นพื้นที่สีแดง ธุรกิจอาหารทะเลเสียหายหนัก 

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์  : ตลาดหุ้นกลับลดลง "ไม่หนักมาก" 1482 ไปลึกสุด 1401  ก็คือลงเบาะๆแค่ -5.47%

 

3. โควิดรอบสาม

ช่วงเวลา : เม.. 2564

ต้นตอระบาดจากกรุงเทพฯใจกลางเมือง ย่านทองหล่อ ผับบาร์ การรวมตัวยามค่ำคืน 

อารมณ์นักลงทุน : ในช่วงเริ่มต้น นักลงทุนยังไม่กลัวมาก เพราะหลายประเทศก็มีการระบาดปิดเมืองรอบที่สามกันไปแล้ว แต่เพราะการกระจายวัคซีนในอัตราเร่ง ตลาดหุ้นในยุโรป อเมริกา และอีกหลายประเทศจึงแทบไม่ลดลงเลย แม้จะมีการปิดเมืองเกือบทั่วประเทศก็ตาม 

ดัชนี SET ช่วงแรกก่อนสงกรานต์ จึงยังลงอย่างจำกัด (1600->1541) ลดลงเพียง -3.7% แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงต้องเฝ้าติดตามปัจจัยการควบคุมโดยรัฐ ว่ารัฐบาลจะสั่งปิดธุรกิจอะไรบ้าง จังหวัดไหนบ้าง ? และธุรกิจจะเสียหายหนักไหม การฟื้นตัวจะเนิ่นช้าไปอีกนานเท่าไหร่ ? กระทบกลุ่มใดบ้าง

 

SET หลังสงกรานต์จะลงไหม? ...ถ้าให้เลือกเดาก็จะขอตอบว่า น่าจะลง แต่ก็ควรจะ ลงไม่หนักมาก และ ถ้าลงหนักผมเชื่อว่า นี่อาจจะเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นไทยพื้นฐานดี ที่ราคาย่อตัว โควิดรอบ 3 นี้น่าจะเป็นครั้งที่ผู้คนตกใจที่สุดแล้วครับ ต่อให้มีรอบที่ 4 มาอีก 3 เดือนหลังจากการเปิดเมือง(เดือนกรกฎาคม) ถึงตอนนั้นประเทศไทยจะมีวัคซีนหลายล้านโดสเข้ามาและเร่งฉีด สิ่งนี้จะค้ำยัน Sentiment เชิงบวกให้ตลาดได้  

 

ถ้ารอบนี้ตลาดหุ้นปรับตัวลงไป เราเลือกกลุ่มอะไรดี? เลือกหุ้นอะไรดี? รอบนี้เหมือนฉายหนังซ้ำเป็นรอบที่ 3 แล้วครับ ผมคิดว่า

1. หุ้นที่ฟื้นตัวเร็ว นักลงทุนเล่นขึ้นมารอผลประกอบการแล้ว กลุ่มนี้นักลงทุนรายใหญ่สนใจและน่าจะฟื้นก่อน ถ้ามีการย่อตัวในรอบนี้ก็น่าสนใจ เช่น กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มสถาบันการเงิน เป็นต้น 

 

2. หุ้นที่ยังไม่ได้มีขาขึ้นอะไรกับใครเขา ถ้ารอบนี้ ยังจะลงซ้ำอีก ก็จะยิ่งถูกมากขึ้นไปอีก แบบนี้ยิ่งน่าสนใจ เช่น หุ้นสื่อสารขนาดใหญ่ หุ้นโรงไฟฟ้าใหญ่ หุ้นขนส่งขนาดใหญ่ เป็นต้น 

 

โควิดมารอบที่สาม เหมือนฉายหนังรอบที่สาม พอมองทางอะไรได้ ผมเชื่อว่าศักยภาพตลาดหุ้นไทยสามารถกลับมายืนเท่าระดับ Pre-Covid เหมือนกับที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลกไปถึง และทะลุเกินกันไปหมดแล้ว

 

หุ้นที่แข็งแกร่งและราคามีส่วนลด เป็นสิ่งที่น่าลงทุนเสมอครับ


เจ้าของหนังสือ Best Seller “ติวหุ้น รวยด้วยวีไอ” และยังเป็นวิทยากรคอร์ส “ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐานแบบ Value/Growth Investor” ด้วยประสบการณ์ในตลาดทุนกว่า 17 ปี และประสบการณ์ในการเป็นติวเตอร์ บวกกับความเป็นคนอารมณ์ขัน  ทำให้คุณนิ้วโป้งสามารถถ่ายทอดเรื่องยาก อย่างการลงทุน ให้เข้าใจได้ง่าย และยังใช้ภาษา ลีลาที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงทำให้ได้รับเชิญไปบรรยายในงานต่างๆ มากมาย

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง