#ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน

11 ข้อต้องรู้ก่อนซื้อหุ้น TIDLOR

โดย อธิป กีรติพิชญ์
เผยแพร่:
151 views

1.
หุ้นไอพีโอ
ที่จะเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ กินหน้าข่าวสารพัดสื่อไปอีกหลายสัปดาห์ คือ “บมจ. เงินติดล้อ” เมื่อก่อนจะเรียกกันว่า NTL : Ngern Tid Lor ตอนนี้ ตัวย่ออย่างเป็นทางการจะเป็น TIDLOR
ซึ่งก็ดีนะ จำง่ายกว่าติดหูดี


2.
เหตุผลที่ว่า จะได้หน้าข่าวไปอีกหลายสัปดาห์
คิดว่ามีสามข้อ
หนึ่ง...เป็นหุ้น IPO ไซซ์ใหญ่ มูลค่าเสนอขายหลายหมื่นล้าน (3.5-3.8 หมื่นล้านบาท) นี่คือหุ้นไอพีโอขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าเสนอขายติดอันดับ Top5 ของปวศ.ตลาดหุ้นไทย
สอง...ธุรกิจคุ้นชื่อ มีความสามัญประจำบ้าน คนทั่วไปรู้จัก เห็นได้ด้วยตา เคยฟังโคนาผ่านหู
สาม...นี่คือหุ้นมหาชน ที่จะมีส่วนนึง กระจายหุ้น IPO วิธีการเดียวกับหุ้น OR อันลือเลื่อง นั่นคือ Small Lot First (แปลว่าอะไรก็กูเกิ้ลดูนะ) อารมณ์คือการแจกไพ่รอบวงทีละน้อยแล้วแจกรอบวงอีกทีๆๆๆๆๆๆจนของหมด ทุกคนจะได้ไพ่ แต่ได้กี่ใบนั้นอีกเรื่องนึง
แปลความง่ายๆได้สอง Keywords ว่า “จองได้ผ่านธนาคาร” และ “ทุกคนที่จอง จะได้หุ้น” ซึ่งมากน้อยแล้วแต่จำนวนรอบการจัดสรร


3.
ธุรกิจหลัก
นี่คือ หุ้นกลุ่มการเงิน สินเชื่อเพื่อลูกค้ารายย่อย มี 2 ธุรกิจหลัก
หนึ่ง...ธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และ
สอง...ธุรกิจนายหน้าประกันภัย ประกันชีวิต
ตัวธุรกิจถือว่า น่าสนใจดี คือ ก็ต้องยอมรับว่าประเทศไทยเรามีผู้มีรายได้น้อยจำนวนมาก และเงินกู้นอกระบบดอกสุดโหดเหี้ยม ก็อยู่ไม่น้อยนะ
ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยจำนำทะเบียนคือการเอาเข้าระบบที่ตรวจสอบได้แบบนึง มีการเติบโตตลอดมา อีกทั้งธุรกิจนายหน้าประกันก็เติบโตมาคู่กัน  


4.
ในป่าไม้ ไม่ได้มีเสือตัวเดียว ฉันท์ใด
สินเชื่อจำนำทะเบียนก็ไม่ได้มีรายเดียวฉันท์นั้น
เพราะในไม้ป่าเดียวกันนี้ ยังมีเสืออีกอย่างน้อย 2 ตัว ที่ทำธุรกิจคล้ายกัน ขนาดใหญ่และเป็นที่รู้จักเหมือนกัน  นั่นคือ
>> MTC - บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 1.39 แสนล้านบาท  
>> SAWAD - บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 1.12 แสนล้านบาท  
[วันที่ 12 เม.ย. 64]
ทั้ง 3 เจ้านี้เป็นคู่แข่ง ต่อสู้ขับเคี่ยวกันมาตลอดทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต ประดุจสงครามสามก๊ก ที่กินกันไม่ง่าย เอากันไม่ลง


5.
TIDLOR ถือเป็นนักมวยมีสังกัดค่าย
มีแบงค์สีเหลือง ธ.กรุงศรีฯเป็นพี่เลี้ยงและผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งอยู่ในเครือของ MUFG BANK, LTD. จากประเทศญี่ปุ่น เป็นกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลกอีกที ถือว่าแบคอัพของมวยค่ายนี้ไม่ธรรมดา อะฮ้าไม่ธรรมดา
ติดล้อเลยเหมือนติดปีกมีสาขาอยู่มากกว่า 1,000 สาขา ครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ  


6.
ในเชิงงบการเงิน
ถือเป็นหุ้นที่ทรงดีนะ “รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม”
ปี 2561 รายได้ 7,569 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 1,306 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 9,457 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 2,202 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 10,559 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 2,416 ล้านบาท
คือยังสามารถโตได้ แม้ในปีอำมหิตโควิด19
แต่พอไปดูงบหุ้น MTC และ SAWAD ทั้งสองตัวก็ทำ “รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม” ติดต่อกันได้เช่นกัน
เอ้อ อุตสาหกรรมปล่อยกู้เก็บหนี้ นี้ดีแหะ


7.
เงินสดที่ได้จาก IPO จะเอาไปทำอะไร?
>> เป็นเงินทุนขยายธุรกิจให้สินเชื่อและนายหน้าประกันภัย และเงินทุนหมุนเวียนในการกิจการ
>> ปรับปรุงสาขาเดิมและขยายสาขาใหม่ เป้าหมายเพิ่มขึ้น ประมาณ 500 สาขา
>> ปรับปรุงและพัฒนาโครงการด้าน IT และ Digital Transformation


8.
ในแง่การกระจายหุ้นสู่รายย่อย
สมัยหุ้น OR เขาแจกให้เฉพาะรายย่อย ที่จองผ่านแบงค์ (small lot first) กับผถห.เดิมPTT เท่านั้น
ทุกคนได้ของน้อย มีความขาดแคลน มหาชนเข้าจองร่วม 5 แสนราย ก็ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาแบบจะแจ้งได้เยอะ เสริมด้วยธุรกิจดี พีอีได้ วอลุ่มมา ราคาไป
ส่วน IPO TIDLOR มีรายย่อยหลากหลายรูปแบบนะ  ทั้งบุคคลตามดุลยพินิจโบรกเกอร์(79M), ผู้มีอุปการคุณ(13.6M), ผู้มีความสัมพันธ์กับบริษัท(13M), พนักงาน(33.4M) , และรายย่อยจองผ่านแบงค์ (46.5M) แล้วที่เหลือจึงเป็นสถาบันไทยเทศ รวมกันอีกกว่า 721M หุ้น
จึงคาดเดาได้ยากอยู่
สำหรับเหล่าเม่าปีกเหล็กรอจองผ่านแบงค์ .... เขาจัดส่วนนี้ไว้ใน ”ผู้จองซื้อรายย่อย” 46.5 ล้านหุ้น (5.1%) จองขั้นต่ำ 1,000 หุ้น แล้วจัดสรรเพิ่มรอบต่อไปคนละ 100 หุ้น รอบวงไปจนกว่าจะของหมด
จองซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 22-26 เม.ย. 2564 ผ่านแบงค์กรุงศรีฯและแบงค์กสิกร


9.
เอาไหม เอาไหม?
มีนักลงทุนรายย่อยถามหาหุ้นกันเยอะ ไล่ดูตามสเต็ปสายพื้นฐานแล้วไซร้

>>> ปัจจัยเชิงคุณภาพ ถือว่าดีใช้ได้นะ อยู่ในเทรนด์ยาวของไทย (เทรนด์เงินกู้ )

>>> อุตสาหกรรมใหญ่ ขยายตัว และแกร่งพอที่จะทำให้ 3 รายใหญ่ มีรายได้และกำไรเติบโตทุกปี

>>> งบการเงินใช้ได้ ตัวเลขต่างๆอ่านแล้วไม่ขัดใจ

สรุปได้ว่า เป็น Good Stock นั่นแหละ ... แต่จะให้ดี มันต้องจบด้วย Good Price

แล้ว ราคาหุ้นหล่ะ ???


10.
TIDLOR IPO ช่วงราคาเสนอขายที่ 34.0 - 36.5 บาทต่อหุ้น

ตอนนี้ยังไม่ไฟนอลนะ คาดว่ารู้ราคาวันที่ 28 เม.ย.
แต่จากปสก.ที่ผ่านมา ราคามักจะสรุปที่ขอบขวาสุดทุ๊กที

เวลาวัดถูกแพง ก็มักจะดูกันที่ P/E Ratio ซึ่งจะคิดเป็น P/E ประมาณ 32.6 – 35.0 เท่า

อันนี้คิดแบบ Trailing P/E คำนวณกำไรย้อนหลัง 4 ไตรมาส(ตั้งแต่ 1 ม.ค 63 ถึง 31 ธ.ค. 63)

ถ้าจับที่ P/E 35 เท่า .... สายพื้นฐานเขาก็เอามาเทียบ เช่น เทียบกับบมจ.อื่นในป่าเดียวกัน (สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ)

SAWAD พีอี 24.9 เท่า และ MTC พีอี 26.6เท่า


11.
เทียบเคียงกับ เคสหุ้น OR

ราคา IPO 18 บาท คิดเป็น P/E Ratio ประมาณ 26.9 เท่า

แบบนี้เรียกว่า “อ่อยให้เม่า” คือยังพอมีรูมให้เรามโนไปได้ว่า ถ้าตลาดมอง OR เป็นหุ้นค้าปลีก ยอมเทรดพีอี 40 เท่า

ราคาหุ้นก็ไปได้ถึง = (18/26.9)x40 = 26.76 บาท

ซึ่งเหลือเชื่อว่า
นี่แทบเป็นราคาเปิดเทรดของหุ้น OR เลย


12.
กรณีหุ้น TIDLOR ถ้าเปิดพีอีมา 35 เท่า เทียบกับ Peer ปัจจุบันก็ไม่ถูก

เราอาจต้องใช้วิชา “พระยามโน”

มองกำไรไปข้างหน้า ใส่สมมติฐานบางอย่างลงไป
แล้วคำนวณเป็นราคาเป้าหมายเอาเอง

ซึ่งแต่ละคนคำนวณราคาเป้าหมายได้ไม่เท่ากันหรอก

ขึ้นกับว่า เราจะบรรจงใส่ดอกลาเวนเดอร์ลงไป

คนละกี่ดอก


ทั้งหลายทั้งปวง เขียนมาดังนี้
ก็เพื่อให้สาธุชนได้พิณาฯ


เจ้าของหนังสือ Best Seller “ติวหุ้น รวยด้วยวีไอ” และยังเป็นวิทยากรคอร์ส “ลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐานแบบ Value/Growth Investor” ด้วยประสบการณ์ในตลาดทุนกว่า 17 ปี และประสบการณ์ในการเป็นติวเตอร์ บวกกับความเป็นคนอารมณ์ขัน  ทำให้คุณนิ้วโป้งสามารถถ่ายทอดเรื่องยาก อย่างการลงทุน ให้เข้าใจได้ง่าย และยังใช้ภาษา ลีลาที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงทำให้ได้รับเชิญไปบรรยายในงานต่างๆ มากมาย

Facebook

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง