"หุ้นตัวที่ซื้อน้อยขึ้นเยอะ ส่วนตัวที่ซื้อเยอะขึ้นน้อย"
"หุ้นตัวไหนต่อราคาทีไร วิ่งขึ้นแรงทุกที"
"ขายปุ๊บเด้งปั๊บ แต่ถ้าซื้อปั๊บร่วงปุ๊บ"
"ซื้อไม่ทัน สงสัยเจ้าอยู่ห้องนี้ได้ยินเราคุยกัน"
คุ้นๆ กันมั้ยครับกับคำพูดเหล่านี้ หลายคนที่ลงทุนในตลาดมาซักพักคงเจอเหตุการณ์แบบนี้มาไม่มากก็น้อย จนบางคนแอบสงสัยว่า ตกลงที่พอร์ตเรายังไม่ไปไหน มันผิดที่เราหรือผิดที่อะไร เป็นเพราะเราดวงไม่ดีหรือเปล่า ถึงยังขาดทุนอยู่ร่ำไป
วันนี้วิตามินหุ้นจะมาวิเคราะห์ให้ครับว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
1. เลือกหุ้นถูกตัวแล้ว แต่ไม่กล้าให้น้ำหนักเยอะ
เพราะเราเองยังไม่มั่นใจว่า ราคามันจะขึ้นจริงมั้ย เห็นนิ่งๆ มานาน ไม่ค่อยมีคนพูดถึง ไม่มีบทวิเคราะห์มาเชียร์ เราก็ศึกษามาแล้วว่าหุ้นดีชัวร์ แต่พอกระแสไม่มา เราก็เลยลองซื้อไปแบบน้อยนิดอาจจะแค่ 5% ของพอร์ต คือไม่กล้าซื้อเยอะ กลัวไม่ขึ้น แต่วันดีคืนดี พอข่าวเริ่มมา พอนักวิเคราะห์เริ่มพูด ทั้งๆ ที่ก็ข้อมูลเดิมกับที่เรามี ราคาวิ่งพรวดๆ หลายสิบเปอร์เซ็นต์ ทีนี้เราก็ไม่กล้าไล่ตาม ก็ได้แต่บ่นเสียดาย ตัวไหนซื้อน้อย ทำไมราคาดันขึ้นเยอะทุกที
วิธีแก้ของข้อนี้คือ เราต้องมั่นใจในเหตุในปัจจัยที่เราเลือกหุ้นว่าดีแล้วถูกต้องแล้ว วางแผนซื้อให้ดี กล้าลงน้ำหนักเม็ดเงินให้เหมาะสมที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ให้พอร์ตเติบโตได้ แล้วปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราวิเคราะห์มานั้นถูกต้อง เพราะถ้ามันใช่ เดี๋ยวคนส่วนใหญ่ก็จะมากันเองในที่สุด
2. เลือกหุ้นดีแล้ว แต่อยากได้ต้นทุนต่ำ
เราประเมินมูลค่าแล้วว่า upside เป็นเท่าตัวแน่ๆ คือซื้อตอนนี้ยังไงก็ได้กำไรเยอะ แต่อยากได้ต้นทุนต่ำ เลยตั้ง bid รอไว้ที่โซนต่ำตลอด ซึ่งหุ้นมันไม่เคยลงมาถึงซักที เราก็ตั้งรอทุกวัน แล้วไม่รู้ทำไม เหมือนโชคไม่เข้าข้างเรา มันจะมีวันที่อยู่ๆ ก็มีโวลุ่มเข้ามามหาศาล กวาดทุกช่อง offer ที่มี ราคาก็วิ่งยาวจนเราไม่กล้าซื้อตาม และก็ได้แต่บ่นว่า ไม่น่าเลยเรา ต่อราคาแค่ช่องเดียวเอง เสียดายมาก
วิธีแก้คือ อย่าต่อราคา ถ้าเราคำนวณแล้ว ราคาเหมาะสมมี upside สูงมากอยู่ในระดับที่เราพอใจ ก็ซื้อไปเลย แม้ว่าระยะสั้นราคาอาจมีความผันผวนบ้าง เราอาจเจอตัวแดงบ้าง แต่ถ้าเราคิดถูก คำนวณถูก ราคาหุ้นก็จะต้องวิ่งไปให้สอดคล้องตามมูลค่านั้นเองซักวันหนึ่ง
3. ได้หุ้นที่ใช่แล้ว แต่ดันขายผิดจังหวะ
ก่อนซื้อหุ้น เราไม่อยากให้ราคาไปไหน แต่พอซื้อหุ้นแล้ว เราจะอยากให้ราคาวิ่งขึ้นทันที ตอนนี้ วันนี้เลย ลิ่งได้ยิ่งดี แต่พอเวลาผ่านไปหลายวัน บางทีเป็นสัปดาห์ ราคาหุ้นก็ไม่ไปไหน บางครั้งร่วงลงมาให้เราใจหายเล่นก็มี สุดท้ายผ่านไปเดือนนึงเราทนไม่ไหว ขายทิ้งไปซื้อตัวใหม่ ปรากฏว่า ตอนบ่ายหุ้นวิ่งทะลุฟ้าเลย จนเรางงว่า ถือมาตั้งเป็นเดือนไม่วิ่ง อยู่ๆ ก็จะมาวิ่งวันที่เราขายนี่นะ
วิธีแก้คือ ต้องปล่อยวางให้เป็น คือ เราทำเหตุถูกแล้วในการเลือกหุ้น และซื้อหุ้นในราคาที่เหมาะสมมาอยู่ในพอร์ตแล้วด้วย หน้าที่เราต่อจากนี้คือ ปล่อยให้กลไกตลาดทำงาน พอถึงเวลาที่ประจวบเหมาะ เช่น ประกาศงบ โครงการใหม่เปิดใช้งาน มีการประชุมนักวิเคราะห์ ตลาดก็จะเริ่มรับรู้ และราคาจะขึ้นไปเองในที่สุด
โดยสรุปแล้ว ถ้าเราเลือกหุ้นได้ถูกต้อง ถูกตัวแล้ว หน้าที่เราคือประเมินมูลค่าให้ออก วางแผนการซื้อในจุดที่เหมาะสม ไม่ต้องต่อราคาแค่ 1-2 ช่อง และที่เหลือก็ปล่อยให้กาลเวลาดูแลหุ้นของเราเอง อย่าไปเร่งจังหวะ หุ้นอาจจะแดงบ้างเขียวบ้าง แต่เมื่อถึงวันเวลาที่เหมาะสม นายตลาดก็จะให้คุณค่ากับหุ้นที่เรามีเอง แต่สำคัญว่าหุ้นที่เราเลือกมา ราคาที่เราซื้อ นั้นถูกต้องตามเหตุตามปัจจัยแล้วนะ
อาจไม่ใช่เพราะดวงไม่ดี หรือเราไม่เก่ง
แต่เป็นเพราะเราไม่เข้าใจ และอดทนรวยได้ไม่มากพอ