หลังจากราคาหุ้นขึ้นมาสักพักใหญ่ๆแล้ว ก็มักจะมีข่าวดีตามมาเสมอ โดยราคาของหุ้น DOHOME ได้แตะจุดสูงสุด All Time High ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ณ ระดับราคา 20 บาท
... โดยเหตุผลที่บทวิเคราะห์มองไว้ คือ ผลประกอบการของ DOHOME จะออกมาดูดีตั้งแต่ไตรมาส 1 ของปี 2564 เลยทีเดียว
บล. หยวนต้า วิเคราะห์ว่า 1Q64 จะเติบโตทั้ง Same Store Sale Growth และผลประกอบการ
1. ยอดขายต่อสาขาจะโตประมาณ 18-19% ทั้งการจับจอยใช้สอยของโครงการของภาครัฐที่มากขึ้น การก่อสร้างของภาคเอกชนดูดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงการตลาดเชิงรุกที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่จากทีมขายที่แข็งแกร่ง คาดว่ายอดขายต่อสาขาจะเติบโตขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 1 และทั้งปีจะเห็นการโตระดับ 10% ถือเป็นภาพที่ดูดีกว่าทุกปีที่ผ่านมา
2. การขยายสาขาใหม่ Size L ที่ใช้พื้นที่เล็กแต่มีความทันสมัย การจัดวางสินค้าที่ดูดีน่าซื้อ การออกสินค้า Private Brand ที่มีมาร์จิ้นสูงกว่า จะทำให้ถึงจุดคุ้มทุนได้เร็ว โดยตอนนี้มีอยู่ 4 แห่ง + สร้างเพิ่มอีก 3 แห่ง
3. การเปิดสาขาภาคตะวันออก จะรับการเติบโตของธีม EEC
4. ตั้งเป้าขยาย DOHOME Size L เพิ่มอีกปีละ 4-5 สาขา เพื่อให้เป็นไปตามเป้าของปี 2566 ที่จะมีสาขา Size L รวม 36 สาขา
5. ฝ่ายวิจัยมองว่ากำไรสุทธิของปี 2564 และ 2565 จะโตประมาณ 16% และ 12% มาอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท และ 1.2 พันล้านบาท จากยอดขายสาขาเก่าที่เติบโต การขยายร้าน Size L การเพิ่มสินค้า Private Brand มากขึ้น
บล.ฟินันเซีย มองว่า กำไร 1Q21 ทำจุดสูงสุดใหม่ และปีนี้จะปีที่เติบโตอย่างเด่นชัดเมื่อเทียบจากปีที่แล้วที่มีฐานต่ำ
1. ฐานปีที่แล้วค่อยข้างต่ำจากวิกฤต COVID-19 ทำให้ปีนี้เติบโตอย่างโดดเด่น
2. หนุนโดยการจับจ่ายใช้สอยที่มากขึ้น งานรับเหมาจากภาครัฐที่ชัดเจนมากขึ้น (ตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 2020)
3. สินค้า House Brand ทรงตัวแต่เนื่องจากว่ามาร์จิ้นดี จะช่วยหนุนอัตรากำไรให้ดีขึ้น
4. อานิสงค์จากราคาเหล็กเพิ่มขึ้น ช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น
5. บริษัทอยู่ระหว่างขอเพิ่มทุนแบบ General Mandate และออกหุ้นกู้ไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อลดสัดส่วน D/E ไม่ให้ตึงตัวเกินไป
โดยรวมแล้วมุมมองบทวิเคราะห์มีทิศทางไปในเชิงบวก แต่ราคาที่ขึ้นมามากแล้วก็นับว่าเป็นความเสี่ยงสำคัญ ผู้ลงทุนยังต้องติดตามผลประกอบการอย่างใกล้ชิดครับ
------------------------------
ขอบคุณแหล่งข้อมูล