"ไม่ใช่ทุกคนจะมีเงินออม แต่เราทุกคนสามารถออมเงินได้"

การออมเงินสำหรับบางคนดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากและเป็นไปไม่ได้ เพราะรายจ่ายที่เยอะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องของการออมเงิน ด้วยเหตุนี้เป็นเราะว่าทัศนคติที่ผิดเกี่ยวกับการออม จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเราถึงออมเงินไม่ได้สักที

คนส่วนใหญ่คิดว่า คนที่ออมเงินได้ คือ คนที่เหลือกินเหลือใช้ จึงค่อยออม
แต่คนที่เขาออมเงินได้ คือ คนที่คิดเรื่องของการออมก่อน แล้วค่อยคิดเรื่องของรายจ่ายทีหลัง

งานวิจัยของตลาดหลักทรัพย์บอกว่า ปัจจุบันระดับการออมต่อ GDP ของไทยสูงถึง 31% ใกล้เคียงกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ 46% มาเลเซีย 33% เกาหลีใต้ 32% อินโดนนีเซีย-ฮ่องกง 30% แต่เมื่อดูรายละเอียดลึกลงไป ภาคครัวเรือนของไทยมีสัดส่วนที่ต่ำมาก อยู่ที่ประมาณ 8% ของ GDP เท่านั้นเมื่อเทียบกับมาเลเซียอยู่ที่ 25% ของ GDP

เราจะเข้าใจเรื่องของการออมเงินให้มากขึ้น สิ่งแรกที่ต้องเข้าใจ คือ เราออมเงินไว้เพื่ออะไร โดยหลักๆแล้วเราจะออมเงินไปเพื่อน
1. ออมเงินเพื่อสร้างฐานะให้กับตัวเอง และครอบครัว
2. เพื่อวางแผนอนาคต เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือไว้เพื่อเป็นทุนการศึกษาต่อ
3. เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน เช่น ป่วย หรือตกงาน หรือมีรายจ่ายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
4. เพื่อใช้ยามชรา
5. เพื่อช่วยเหลือสังคม การบริจาค
6. เพื่อให้เป็นมรดกแก่ลูกหลาน
... เมื่อเรามีเป้าหมายแล้ว เราควรจะมี "วิธีการ" ที่เหมาะสมแก่การออมด้วย นั้นเอง
นี้คือเทคนิค 2 แบบ ที่น่าสนใจครับ

1. ออมแบบลบออก
รายได้ - เงินออม = รายจ่าย
พูดง่ายๆคือ ออมก่อนแล้วค่อยจ่าย ไม่ใช่จ่ายก่อนแล้วค่อยออม
เป็นวิธีการที่ไม่ยุ่งยาก คือ คุณมีรายได้เท่าไรให้แบ่งเงินเอาไว้เพื่อการออม ที่เหลือค่อยนำไปใช้จ่าย เช่น มีเงิน 10000 บาท ออม 10% คือ 1000 บาท เหลือ 9000 บาท จึงค่อยนำไปจัดสรรเรื่องรายจ่าย

2. ออมแบบบวกเพิ่ม
มูลค่ารายจ่าย 10% = เงินออม
พูดง่ายๆคือ ถ้าเรามีรายจ่ายอะไรสักอย่างหนึ่ง เอามูลค่าของรายจ่ายดึงออกมา 10% เพื่อการออม เช่น ไปกินอาหารกับเพื่อนจ่ายไป 1000 บาท ก็เก็บออมไว้ 10% ของรายจ่าย คือ 100 บาท ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆพอครบปีเราจะมีเงินจำนวนมากเพื่อการเก็บออมอย่างแน่นอน

ประเด็นสำคัญคือ ออมแล้วต้องไม่ทุกข์ หรือออมแล้วต้องอด รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุข เพราะเราต้องไม่ลืมว่าเงินที่เราหามานั้นเพื่อการสร้างความสุข ใช้บ้างตามสมควรแก่ฐานะ สร้างความพอดีให้กับตัวเอง สิ่งสำคัญคือลงมือทำด้วยความตั้งใจ มีวินัยและความมุ่งมั่ง
... เพราะเงินออมเป็นเงินที่เราจ่ายให้ตัวเองในอนาคต นั้นเองครับ