เฮดจ์ฟันด์เข้าไป long ในสัญญา crude oil futures บน NYMEX มากที่สุดในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา เป็นการ bet กับปัจจัยพื้นฐาน supply-demand ที่น่าจะทำให้ราคาปรับตัวขึ้นในปีหน้า
ปัจจัยพื้นฐานของ crude oil โลกยังคงแย่ลงเรื่อยๆ จากการค้นพบแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ที่อยู่ได้กว่า 50-70 ปี ที่แทบไม่มีให้เห็นมาหลายสิบปีแล้ว ระดับการผลิตน้ำมันใน US ก็ได้ถึงจุดสูงสุดในศตวรรษที่ 19 และลดลงเรื่อยมา เช่นเดียวกับเจ้าใหญ่ของโลกอย่างซาอุดิอาระเบีย
นอกจากนี้ต้นทุนเทคโนโลยีการผลิต shale oil ก็ยังคงสูง เพราะการดึงน้ำมันออกมาจากชั้นหินถือว่ายากกว่า crude oil มาก ทำให้ปัจจัยพื้นฐานระยะยาวด้าน supply ของตลาดโลกยังคงแย่ลงเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับ demand ที่มาจากเซ็กเตอร์ transportation และ industrial production ของโลกที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกๆปี
เพิ่งจะมีข่าวว่าประธานาธิบดี Barack Obama ออกมาไม่รับข้อเสนอโปรเจค Keystone XL จากบริษัท TransCanada เกี่ยวกับการใช้ท่อส่งน้ำมันจาก Canada ลงมายาวถึงอ่าว Mexico ซึ่งเหตุผลหลักๆข้อนึงที่ทำให้ข้อเสนอนี้ไม่เป็นผลสำเร็จคือเรื่องของ "Climate Change" นั่นเอง
Obama มองว่าโปรเจคนี้ถ้าอนุมัติไปจะทำให้อเมริกาเสียความเป็นผู้นำในการแก้ปัญหาเรื่อง "Climate Change" ในเวทีโลก นอกจากนี้ Keystone XL ยังโดนกลุ่มผู้สนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในอเมริกาต่อต้านมากว่า 7 ปี
การล้มลงของ Keystone XL น่าจะทำให้เห็นถึงกระแสต่อต้านการผลิตแหล่งพลังงานที่ปล่อยแก๊สคาร์บอนสูงออกมามากขึ้น การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆในการลำเลียงน้ำมันในอนาคตคงจะเจอความท้าทายมากขึ้น
เมื่อปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ทำให้การขนส่งน้ำมันออกมาในตลาดโลกทำได้ช้าลง หรือยากมากขึ้น ในขณะที่ความต้องการของโลกยังไม่ลดลงมากนักในระยะยาวตามการเติบโตเป็นบวกของเศรษฐกิจโลก...เราก็เพียงรอวันที่สมดุล supply-demand จะเสียไป และรอวันที่ราคาน้ำมันขึ้นกันได้เลยครับ
ข้อมูลจาก Reuters (http://goo.gl/NfFHqT)
บทความโดย: บูม MoneyCrown / FB: MoneyCrown