ซื้อหุ้น 10 บาท ขาย 12 บาท กำไร 20% เดินยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ
ไม่กี่เดือนต่อมา หุ้นขึ้นไป 20 บาท เราถึงกับบ่นว่า รู้งี้ ถ้าไม่รีบขายนะ กำไร 100% ไปแล้ว
แบบนี้เขาเรียกว่า “ขายหมู” เป็นปัญหาหนึ่งที่พบเจอได้บ่อยครั้งในโลกการลงทุน
ปัญหานี้ วิตามินหุ้น มีวิธีแก้ง่ายๆ แบบนี้ครับ
1. ประเมินมูลค่าตาม “ความจริง”
ก่อนที่จะซื้อหุ้นตัวใดก็ตาม เราต้องประเมินมูลค่าของหุ้นตัวนั้นให้ได้ก่อนว่า ราคาที่เหมาะสมควรอยู่ที่เท่าไหร่ โดยคำนวณจากพื้นฐานของการทำธุรกิจ รายได้ กำไร ที่บริษัททำได้ เราก็จะได้มูลค่าตามความจริงของกิจการออกมา
2. ปล่อยให้กำไรเดินไปตาม “ความหวัง”
ในระยะยาวแล้ว ราคาหุ้นมักจะเดินไปทางเดียวกันกับผลกำไรที่เป็นความจริงของบริษัท แต่หลายครั้งที่หุ้นก็ยังเดินหน้าขึ้นต่อไปได้ เพราะมีสตอรี่ หรือโอกาสดีๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น การขยายกำลังการผลิต ลูกค้ารายใหม่ การควบรวมกิจการ นโยบายภาครัฐ ซื่งบางสตอรี่อาจยังเป็นภาพที่ไม่ชัด แต่ถ้าเกิดได้จริงจะทำกำไรให้กับบริษัทได้มาก
3. แบ่งขาย บนทางเดินของความจริงและความหวัง
จาก 2 ข้อแรก บอกเราว่า ราคาหุ้นถูกขับเคลื่อนได้ทั้งบนความจริงและความหวัง เราควรพิจารณาดูว่า ราคาที่ขึ้นมาสะท้อนความจริงไปแล้วหรือยัง เราอาจแบ่งขายที่ตรงนี้ก่อนส่วนนึงได้ แล้วดูต่อว่า หุ้นมีความหวังอะไรรออยู่บ้าง มีความชัดเจนมากแค่ไหน มีโอกาสเปลี่ยนเป็นความจริงที่จะทำกำไรให้กับบริษัทได้มากแค่ไหน โอกาสนั้นอีกนานแค่ไหนจะเกิดขึ้น ถ้าดูแล้วน่าสนใจ ก็ถือหุ้นที่เหลือรอดูผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้
4. ขายที่เหลือเมื่อหมดสิ้นทั้งความหวังและความจริง
หลังจากเราแบ่งขาย บนความจริงของกำไรแล้ว เราก็ถือ Run Trend บนสตอรี่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ถ้าเรื่องราวนั้นเกิดขึ้นจริง กำไรของบริษัทเพิ่ม ราคาหุ้นขึ้น แล้วมองไม่เห็นเรื่องราวอะไรที่อยู่ข้างหน้าอีก หรือเห็นภาพความสดใสของบริษัทชัดเสียเหลือเกิน คือ ใครๆ ก็รู้ว่าดี ตรงนั้นก็จะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ควรขายทำกำไรเพิ่มเติม
5. วาง Trailing Stop ขยับจุดขายทำกำไร
เราซื้อหุ้นที่ 10 บาท ราคาขึ้นไป 13 บาท เราก็วางไว้ว่าถ้าย่อลงมาหลุด 12 บาท ต้องขาย
แต่ถ้าขึ้นต่อไป 15 เราก็ขยับจุด stop ขึ้นไป 14 บาท ก็จะทำให้เราไม่ขายหมูง่ายๆ
แต่สิ่งที่เราต้องตอบตัวเองให้ได้คือ ราคา Trailing Stop ที่เราตั้งไว้มาจากไหน เราต้องหาเหตุผลที่ดีมารองรับด้วย ไม่ใช่กำหนดขึ้นมาลอยๆ เช่น ตั้งตาม P/E Zone ตั้งตาม P/E Band ตั้งตามสมมติฐานของ EPS (Earning per Share) หรือตั้งตามจุด Low เดิมที่หุ้นเคยไปทดสอบไว้
6. ขายเอาทุนออก ปล่อยกำไรให้เดินไป
อีกวิธีช่วยให้เรา Let Profit Run ได้แบบไม่เครียด แต่ต้องเป็นกรณีที่ราคาขึ้นไปมากๆ เช่น ซื้อหุ้น 10 บาท ราคาขึ้นไป 20 บาท เราก็สามารถขายครึ่งนึงเพื่อเอาทุนออก ที่เหลือก็ปล่อยรันไป เพราะเป็นกำไรล้วนๆ
แนวคิดนี้ฟังดูดี แต่ต้องมองข้อเสียด้วยว่า แล้วถ้าราคามันลงมาเรื่อยๆ เราจะขายที่ตรงไหน หรือว่าจะไม่ขายเลย ถ้าราคาตกมาเยอะๆ ก็เท่ากับว่าการลงทุนครั้งนี้เราไม่ได้กำไรเช่นกัน เพราะฉะนั้นแนวคิดขายเอาทุนออก เราต้องมองเรื่องของมูลค่าหุ้น หรือวาง Trailing Stop ควบคู่กันไปด้วยน่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
7. ขายเพื่อไปหา “หมูตัวใหม่ที่ใหญ่กว่า”
วิธีสุดท้าย เป็นการมองเชิงเปรียบเทียบกับหุ้นตัวอื่น คือ หุ้นที่เรามีอยู่ราคาวิ่งขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะยังไม่เต็มมูลค่าตามที่เราประเมินไว้ก็ได้ แต่ว่าในขณะเดียวกัน เรามองเห็นโอกาส หรือ upside ของหุ้นตัวอื่นที่มีมากกว่า หุ้นตัวปัจจุบันของเรา แต่เรามีเงินจำกัด เราก็อาจทำการขายหุ้นที่มีไปซื้อหุ้นตัวใหม่แทน เรียกได้ว่า ขายหมูตัวเล็ก ไปหาหมูตัวใหม่ที่ใหญ่กว่า
หลายคนเครียดที่ตัวเองขายหมูอยู่บ่อยครั้ง
แต่ผมอยากจะบอกว่า ทุกครั้งที่คุณขายหมู คือ คุณกำลังได้กำไรอยู่นะ แค่ว่ากำไรน้อยกับกำไรมากเท่านั้นเอง
ลองฝึกบ่อยๆ ขายหมูตัวเล็กวันนี้ เพื่อที่จะได้กินหมูตัวใหญ่วันข้างหน้าครับ