ใครๆก็บอกว่าลงทุนระยะยาวสิ ดีแน่นอน
แต่การพูดว่าระยะยาวมันเป็นเรื่องง่าย แต่เวลาทำนี้เป็นเรื่องยากมาก
บางคนลงทุนยาวจริง แต่ยิ่งนานเท่าไรก็ไม่รวยสักที ยิ่งซื้อหุ้นยิ่งลง ยิ่งขาดทุนเข้าไปอีก สุดท้ายทั้งพอร์ตมีแต่หุ้นแดง หุ้นขาดทุน
... ทำให้ต้องมาคิดว่า มันเกิดจากอะไรกันแน่ เราอาจจะทำอะไรผิดพลาดไปอย่างแน่นอน
ถูกแล้วครับ ... คุณได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว
และนี้คือข้อผิดพลาด 5 ข้อ ทำไมลงทุนระยะยาวถึงไม่รวยสักที มีอะไรบ้างมาดูกัน
1. ราคาหุ้นที่เราจะซื้อ สำคัญพอๆกับพื้นฐานหุ้น
... นักลงทุนบางคนให้ความสำคัญกับพื้นฐาน ส่วนเรื่องของราคาหุ้นนั้น ซื้อเท่าไรก็ได้ เพราะถ้าหุ้นดี หรือมีการเติบโต สุดท้ายมันก็จะสะท้อนออกมาเอง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ราคาจะสะท้อนพื้นฐานได้นั้นอาจจะใช้เวลานานพอสมควร และนานมากพอจนทำให้ความคิดของเราเปลี่ยนไป ดังนั้นเวลาเราเลือกซื้อหุ้น เราต้องดูราคาด้วยว่าราคาต่ำกว่ามูลค่ามากน้อยแค่ไหน หรือราคาตอบรับความคาดหวังไปมากแล้ว เราก็ยังไล่ซื้อตาม แบบนี้อาจจะไม่ดีแน่
อย่างที่เคยมีคนบอกไว้ Buy good Stock at good price คือ ซื้อหุ้นดีในราคาที่ดีด้วย ถ้าเราซื้อหุ้นดีในราคาแพง ย่อมได้ผลตอบแทนที่ไม่ดีครับ
2. ขาดทุนนะทนได้ แต่กำไรต้องรีบขาย
... โดยสถิติแล้ว นักลงทุนชอบที่จะ "รับรู้" ความสุขจากการขายทำกำไรมากกว่า ถ้าเราขายขาดทุนเป็นเรื่องของความทุกข์ ดังนั้นแล้วนักลงทุนมักจะชอบขายหุ้นที่กำไร และทนถือหุ้นที่ขาดทุนเอาไว้ เมื่อเราทำแบบนี้นานๆเข้า พอร์ตการลงทุนของเราก็จะเต็มไปด้วยตัวแดง เพราะตัวเขียวเราขายไปหมดแล้วนั้นเอง สุดท้ายเราก็จะเลิกลงทุน เลิกสนใจ เลิกซื้อหุ้นเพราะเงินส่วนใหญ่ไปจมอยู่กับหุ้นที่ขาดทุนหมดแล้ว
นี้ก็เป็นสาเหตุสำคัญว่าทำไม เราถือนานหรือลงทุนนานแล้วไม่รวยสักที
3. ขอตัวเดียว
... คำว่า "ขอตัวเดียว" มี 2 ความหมาย กล่าวคือ
ความหมายแรก ขอหุ้น(เด็ด)เพียงตัวเดียว ส่วนใหญ่มักจะขอจากกูรู หรือนักวิเคราะห์หุ้น ซึ่งหุ้นที่เชียร์ส่วนใหญ่ก็จะราคาแพงไปแล้ว หรือขึ้นไปสูงมากแล้ว พอเราเข้าไปซื้อก็เป็นจังหวะที่คนอื่นขายลงมาพอดี .. ติดดอย
ความหมายที่สอง คือ ขอถือหุ้นเพียงตัวเดียว พูดง่ายๆคือ bet กับหุ้นตัวเดียว วิธีนี้เสี่ยงสูงมาก ถ้าได้ก็ได้มาก อาจจะทำให้พอร์ตโตหลายเท่า แต่ถ้าผิดพลาดก็คือเสียหายเกือบทั้งพอร์ต
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการสร้างพอร์ตหุ้นเพื่อการลงทุนระยะยาว อาจจะต้องกระจายความเสี่ยงเลือกหุ้นสัก 5 ตัว ที่เราเข้าใจเป็นอย่างดี เราเรียกวิธีนี้ว่า Diversification หรืออาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นหุ้น เป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนอย่างอื่น เช่น ตราสารหนี้ กองทุน กอง REIT กองทุนลงทุนต่างประเทศ
4. ซื้อตอนข่าวดี ขายตอนข่าวร้าย
... นี้ก็เป็นความผิดพลาดของนักลงทุน คือ ชอบซื้อหุ้นตอนข่าวดี ตอนหุ้นขึ้นมาระดับหนึ่งและเหตุผลชัดเจนในตัวมันเองแล้วว่าทำไมถึงหุ้นขึ้น เลยซื้อหุ้นเต็มพอร์ต
แต่พอข่าวร้ายเรากลับขายหุ้น ถือเงินสด และรอจังหวะที่หุ้นมีข่าวดีแล้วกลับมาซื้อใหม่ เรียกว่าซื้อแพงขายถูก ซึ่งในความเป็นจริงต้องทำตรงกันข้าม
แต่นั้นแหละ พูดนะมันง่าย แต่ทำจริงมันยาก
.. ไม่เชื่อดูตอน COVID-19 ที่หุ้นไทยโดนเซอร์กิตเบรคเกอร์ จะมีใครบ้างที่กล้าซื้อ ณ เวลานั้น
5. หุ้นมีวัฐจักร หรือมีรอบของมัน
หุ้นทุกตัวไม่มีทางขึ้นไปได้ตลอด หรือลงไปได้ตลอด เมื่อถึงจุดๆหนึ่งมันก็จะเปลี่ยนแนวโน้ม หุ้นตัวไหนที่ขึ้นมามาก กลายเป็นกระแส ไม่ช้าก็เร็วก็จะโดนขายทำกำไร ส่วนหุ้นที่เงียบๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจก็จะกลับมาขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นกระแสที่นักลงทุนสนใจ
เราเรียกว่า หุ้นมีรอบของมัน ... นักลงทุนต้องอ่านรอบให้เป็น เข้าใจรอบของหุ้น
ซึ่งตรงนี้เราสามารถใช้เครื่องมือทางเทคนิค อย่าง RSI เข้ามาช่วยได้ ถ้ามองสั้นๆก็อาจจะใช้กราฟ Day ถ้ามองยาวๆก็ใช้ Month
นี้คือข้อผิดพลาด 5 ข้อ ทำไมลงทุนระยะยาวถึงไม่รวยสักที ถ้าเราเข้าใจ เราจะลงทุนง่ายขึ้น
แต่ของแบบนี้ต้องใช้เวลาครับ ค่อยๆฝึกฝน ค่อยๆทำความเข้าใจ ถ้าเราไม่แพ้ออกจากตลาดซะก่อน สักวันเราจะได้กำไรจากตลาดหุ้นครับ