การลงทุนในช่วงปลายปีอย่างนี้ หลายๆ คนคงอาจจะกำลังคิดว่าควรวางแผนไปในทิศทางไหนดี  ฝรั่งจะขาย ถอนเงินกลับไปเตรียมจิงเกิ้ลเบล หุ้นจะเงียบเหงา volume จะซบเซา ?  หรือ  จะมีพระเอกขี่ม้าขาวนำเงินก้อนโตจาก LTF/RMF เข้ามาดันตลาดช่วงปลายปีให้คึกคักได้ ?  ลองมาวิเคราะห์จากข้อมูลทางสถิติย้อนหลัง 5 ปีกันครับ

 

ผมขอวิเคราะห์จากการซื้อขาย ตั้งแต่ช่วงครึ่งเดือนหลังของธันวาคม ไปจนถึงกลางเดือนมกราคมนะครับ ว่า

(1) ปริมาณการซื้อขายมีมากน้อยเพียงใด เมื่อเทียบกับ volume เฉลี่ยของทั้งปี  และ

(2) การเปลี่ยนแปลงของ SET index ในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นบวกหรือลบ

 

 

Volume การซื้อขายช่วงปลายปี

 

รูปที่ 1 แสดงเปอร์เซ็นต์การเพิ่มหรือลดของ volume การซื้อขายในตลาด  เมื่อเทียบกับปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยของทั้งปี  พบว่าในปี 2010, 2011, และ 2013  volume การซื้อขายในช่วงปลายปี ลดลงไปกว่า -25.5%, -25.7%, และ -60.8% ตามลำดับ 

 

ซึ่งสนับสนุนสมมุติฐานที่ว่า ในสถานการณ์ปกติทั่วไป  ช่วงเวลาดังกล่าว นักลงทุนส่วนใหญ่ รวมถึงต่างชาติ จะชะลอการลงทุนลง เพื่อปิดงบบ้าง หรือเตรียมฉลองช่วงเทศกาลวันหยุดยาวของปีบ้าง 

 

แต่นั่นก็ไม่จำเป็นเสมอไปครับ ในบางปีที่พิเศษ เช่นปี 2012 volume การซื้อขายปลายปีกลับพุ่งสูงกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยทั้งปีถึง 247.4%  เป็นช่วงที่เงินลงทุนไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ดัชนีทั้งปีบวกขึ้นกว่า 35%  โดยไม่มีแผ่วแม้เป็นช่วงปลายปี

 

 

แล้ว SET Index ละ ขึ้นหรือลง?

 

รูปที่ 2 แสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของ SET index ในช่วงเวลาดังกล่าว สังเกตุนะครับว่า SET มีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ลักษณะ sideway (หรือส่อไปในทิศทางลบหากมีปริมาณการซื้อขายที่ลดลง) ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่า การลงทุนมีการชะลอตัว โดยในปี 2010, 2011, และ 2014 มีการเปลี่ยนแปลงไม่เกิน 1%  ในขณะที่ปี 2013 ที่ volume หดหายไปกว่า -60.8% ดัชนีก็ปรับลดลงกว่า -3.5%

 

อย่างไรก็ตาม ในปีที่ volume การซื้อขายส่งท้ายปีมีความร้อนแรงเช่นปี 2012 ก็จะช่วยดันดัชนีให้สูงขึ้นไปกว่า 3.2% ได้

 

ดังนั้น...

 

ความเชื่อที่หลายๆ ท่านได้ฟังกันมาว่าหุ้นจะลงช่วงท้ายปี  ก็ไม่จริงเสมอไปนะครับ (บอกไว้จะได้ไม่ต้องกลัว ขายล้างพอร์ตหนีไปก่อน)  ต้องดูสถานการณ์ในปีนั้นๆ รวมถึงนำปริมาณการซื้อขายเข้ามาพิจารณาร่วมด้วย

 

อีกประเด็นที่อยากฝากไว้คือ การเข้ามาของ algorithmic trade อาจจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป  อย่างไรเหรอครับ? ฝรั่งเก็บกระเป๋ากลับประเทศไปจิงเกิ้ลเบลกับครอบครัวได้ แล้วปล่อยให้คอมพิวเตอร์ algorithms เหล่านั้นทำการซื้อขายให้  

 

โดย ผศ. ดร.ศุภวัฒน์  สุภัควงศ์ (อาจารย์ Nine) www.facebook.com/drsupawat